#KMI_เปิดโรล (และขอแอบทดสอบการมองเห็นไปด้วยเลยครับ)
เวลาตี 5 | สวนสาธารณะ | แยกรูท
คุณที่มาเดินเล่นในสวนตอนเช้ามืด ไม่ว่าจะมาจ็อกกิ้งยามเช้าหรืออะไรก็ตาม ตอนที่คุณเดินๆ อยู่พอมาใกล้ถึงตู้กดน้ำ จู่ๆ ก็มีร่างเล็กๆ ซอยเท้าเข้ามาหา
เขาไม่ได้พุ่งเข้าหาคุณ แต่เป็นตู้กดน้ำใกล้ๆ แต่คุณรู้สึกว่าสายตาเขามองคุณอยู่ เด็กคนนั้นรีบกดน้ำ รีบๆออกมาสองกระป๋อง
ก่อนจะหันมาทางคุณแล้วรีบพูด
เวลาตี 5 | สวนสาธารณะ | แยกรูท
คุณที่มาเดินเล่นในสวนตอนเช้ามืด ไม่ว่าจะมาจ็อกกิ้งยามเช้าหรืออะไรก็ตาม ตอนที่คุณเดินๆ อยู่พอมาใกล้ถึงตู้กดน้ำ จู่ๆ ก็มีร่างเล็กๆ ซอยเท้าเข้ามาหา
เขาไม่ได้พุ่งเข้าหาคุณ แต่เป็นตู้กดน้ำใกล้ๆ แต่คุณรู้สึกว่าสายตาเขามองคุณอยู่ เด็กคนนั้นรีบกดน้ำ รีบๆออกมาสองกระป๋อง
ก่อนจะหันมาทางคุณแล้วรีบพูด
Comments
"ฉันไม่รู้จักคุณด้วยซ้ำ"
เผชิญหน้าเช่นนั้น ตอนเช้ามืดแบบนี้ จากการแต่งกาย ยิ่งเป็นคนแปลกหน้ายิ่งไม่น่าไว้ใจเข้าไปใหญ่
"ผมเข้าใจ แต่ ถือว่าเป็นหนี้หนนึงได้ไหมครับ ผมไม่อยากอยู่คนเดียวจริงๆ"
เขาว่า ก่อนจะมองซ้ายขวา เหมือนอยากจะมองข้างหลังแต่ไม่กล้า
"ผม... เอ่อ ผมไม่รู้ว่าอะไรตามมา"
เสียงประโยคหลังเขาเหมือนกระซิบไม่กล้าพูดดัง
เจ้าตัวควักเหรียญที่มีออกมากดน้ำบ้าง จากนั้นถึงหันหลังยืนพิงเสาไฟฟ้าใกล้ๆนั้น รูดซิปเสื้อวอร์มออกเล็กน้อยเพราะรู้สึกร้อนนิดหน่อย
"แต่ถามหน่อยสิ... ทำไมมาอยู่แถวนี้?"
พูดจบก็แกะกระป๋องยกดื่ม
ก่อนจะหัวเราะเล็กๆ ในคอ ยกมือเอาผมตัวเองทัดหูเหมือนล่กๆ
"แหม พอดี ตื่นไวไป แล้วนอนต่อไม่หลับเลยออกมาเดินเล่นน่ะครับ"
"แต่จริงๆ กะว่าแค่จะเดินอยู่แถวบ้าน แต่... เกิดปัญหานิดหน่อย"
วิ่งหน้าตั้งเลย
"ก็เลยสภาพเป็นแบบนั้นสินะ"
กวาดสายตามองดูอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า บอกว่ามีปัญหานิดหน่อยก็พอเข้าใจได้ น่าสนใจแม้ไม่ใช่เรื่องของเธอ
"ฉันเองก็นอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่เหมือนกัน"
แต่ก็ไม่ใช่สำหรับวันนี้ เมื่อคืนเธอนอนมามากเกินพอแล้วต่างหาก
พอรู้สภาพตัวเองอยู่ แถมแต่งตัวน่ากลัวด้วย ที่แต่งแบบนี้เพราะเวลาเดินคนเดียวจะได้ไม่มีใครกล้ามายุ่ง แต่ดูท่าคราวนี้จะไม่ได้ผล...
"ลำบากแย่เลยนะครับ" เขาว่าตอบก่อนจะแกะกระป๋องกระดกบ้างอึกนึง "แล้วคุณมาอยู่ที่นี่เพราะนอนไม่หลับเหมือนกันสินะครับ"
"ทำไมล่ะ?
เอ่ยชวนอีกฝ่ายคุย ไหนๆ ก็ขอให้อยู่ด้วยแล้ว จะเงียบไปเลยมันคงไม่ดี
ยังมืดอยู่เลย หวังว่าจะไม่เจออะไรแปลกๆ
…อ้ะ เจอแล้วไง
ใครกันเนี่ย?
“Yes?”
เป็น yes ที่ไม่ใช่การตอบรับ แต่หมายถึงเมื่อกี๊ว่าไงนะ
แต่ก็ยังยืนอยู่ตรงหน้าอีกคน ไม่ได้หนีไปไหน
พออีกฝ่ายพูดภาษาอังกฤษกลับมาก็เข้าใจไปว่าเป็นคนต่างชาติหรอกเหรอ...
สื่อสารได้แหละ เขารู้ภาษาอังกฤษดีอยู่ แต่ไม่ค่อยได้พูดบ่อย... เอ่อ...
"My apologies... เอ่อ... can you help me? I don't want to be alone right now..."
ใช่มั้ยนะ?
(จากนี้ไปคือภาษาอังกฤษ)
“อยากให้อยู่ด้วย?”
“เหงาเหรอครับ?”
“หรือว่า…ไปเจออะไรมา?”
เขาเองก็เพิ่งเคยมาสวนสาธารณะในเวลานี้ ไม่ได้บอกคุณป้าซะด้วยว่าจะออกมา จะเป็นไรไหมนะ…
"ไม่เชิงหรอกครับ เพียงแค่ว่า... เอ่อ... ผมไม่แน่ใจ..."
เขายื่นน้ำกระป๋องที่สองที่กดมาให้ไปก่อน "ผม เอ่อ... ให้นี่นะครับ ตอบแทนที่ยอมคุยด้วย"
ก่อนจะกลับมาเรียบเรียงต่อว่าอธิบายยังไงดีนะ "คือ... ให้พูดรวบๆ เลย ผมรู้สึกว่ามีใครตามมาน่ะครับ"
"แต่... ไม่รู้ว่าเป็น อะไร "
“ขอบคุณครับ”
เปิดกระป๋องดื่มทันที
ทำหน้างงกับที่อีกฝ่ายพูดมา เขาฟังรู้เรื่อง แต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงอะไร? หรือเขาสามารถเชื่อคนๆนี้ได้ขนาดไหน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความไม่น่าไว้วางใจ น่าจะโอเคล่ะมั้ง
“ค่อยๆเล่าก็ได้ครับ“
”ถ้ารู้สึกว่าที่นี่ไม่ปลอดภัย งั้นเราไปที่อื่นกันก่อนไหม?“
ที่ไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน
"เอ่อ... เห็นว่ามีม้านั่งทางนู้น ตรงนั้นก็ดีครับ" ว่าแล้วชี้ไปอีกฝั่งให้ดู เป็นม้านั่งที่อยู่ใต้เสาไฟฟ้าด้วย น่าจะโล่งอกโล่งหัวดี
ว่าแล้วก็ผงกหัวให้อีกฝ่ายแล้วค่อยๆ เดินไป พยายามเก็บอาการให้ได้สักทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่พอมาถึง ก็เขาทิ้งตัวนั่งแบบหลุดท่าทีอยู่ดี ไม่รู้ว่าตัวเองเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน อ้าก---
สารภาพเลยว่าการเผชิญหน้ากับใครบางคนตอนเช้ามืดสองต่อสองนั้นเป็นเรื่องที่ควรระวัง
แต่ท่าทีเร่งรีบของเขาเหมือนว่าคนกำลังตกใจหรือกลัวอะไรบางอย่าง มันทำให้รู้สึกประหลาดใจ
"..คะ?"
คุรุมิขมวดคิ้วถามกลับไป ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกคนแปลกหน้าเข้ามาทัก จึงคุ้นชินกับสถานการณ์นี้เป็นอย่างดี
"พอดี... คิดว่าตอนนี้ไม่ควรอยู่คนเดียวน่ะครับ"
เขาเหลือบมองขวา เหมือนอยากจะมองไปดูข้างหลังแต่ไม่กล้า
"นาทีเดียวก็ได้ครับ ผมขอตอบแทนด้วยกระป๋องนี้" เขายกน้ำกระป๋องสองให้คุณ ที่กดมาเพราะแบบนี้นี่เอง "ถ้ารสไม่ถูกใจผมกดให้ใหม่ก็ได้ ผมออกเองหมดเลย"
" ไม่เป็นอะไรหรอก กระป๋องนี้ก็ได้ค่ะ "
คุรุมิรับกระป๋องน้ำมาจากเขาด้วยความฉงนใจ
" ไปนั่งที่ม้านั่งตรงนู้นดีไหมคะ สว่างกว่าที่นี่ตั้งเยอะ "
พูดแล้วก็ชี้ไปตรงม้านั่งไม่ไกลมาก
เสียงเนิบเรียบแข็งขึงขึ้นมา มือยกบังวิวข้างหลังตัวเองไม่ให้อีกฝ่ายเห็น
ก่อนจะลดเสียงลง "...ไม่รู้ว่าเป็นคนหรืออะไร แต่ ถ้าทำเป็นไม่เห็นน่าจะดีกว่า"
ละมั้ง...
เขาหันตามไปดูม้านั่งตรงนั้นแล้วถอนหายใจออกมาหน่อย "เป็นความคิดที่ดีครับ ผมก็ว่า... ขาแข็งแล้วน่ะ วิ่งมาตั้งแต่เขตอากะถึงนี่" สำหรับคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายประจำคือ จะตายแล้ว
คุรุมิพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนถือวิสาสะดึงแขนอีกคนไปที่ม้านั่งแล้วดันตัวให้นั่งลง
ก่อนที่เธอจะนั่งข้างเขา สังเกตอาการประหลาดที่เกิดขึ้น
" โอเครึเปล่า? "
ดึงแว่นกันแดดออกแล้วยกมือปาดเหงื่อตัวเองนิดหน่อย พยายามหายใจลึกๆ ให้หายแพนิค
"ตอบยากนิดหน่อย แต่คิดว่าพอจะดีขึ้นมาแล้วครับ" หันไปตอบอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม ยิ้มรอยเดียวกับที่ค้างหน้าไว้แต่คราวนี้แฝงความขอบคุณขึ้นมาชัด
"อย่างน้อยก็ไม่รู้สึกว่ามีใครตามมาติดๆ แล้ว..."
เด็กนักเรียน?... คำสันนิษฐานดังขึ้นมาพร้อมกับได้ยินคำขอว่าให้อยู่ด้วยกันก่อน...
"ได้สิ...เดี๋ยวผมกดซื้อของตัวเองแปปนึง"
มือก็หยอดเหรียญและจิ้มเอาน้ำผลไม้มากระป๋องนึง
"ว่าแต่...เธอไว้ใจผมหรอ?"
"...คิดว่าระหว่างอะไรไม่รู้ที่อยู่ด้วยเมื่อครู่กับคนเป็นๆ ผมเลือกคนเป็นๆ ดีกว่าครับ"
ก่อนจะชักงักแล้วเงียบไปนิดหน่อย ก่อนจะเอ่ยถาม เสียงเรียบเท่าที่คนสภาพเพิ่งวิ่งข้ามย่านมาจะไหว
"...คุณเป็นคนเป็นๆ ใช่ไหมครับ"
ถึงพยายามนิ่งแต่ไหนแต่คุณเห็นว่าเด็กคนนี้ใกล้แพนิคเต็มที... ถ้าตอนนี้ยังไม่เรียกว่าแพนิคนะ
เขาสังเกตท่าทางของอีกฝ่าย เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังกังวลจริง... ก่อนจะถูกถามว่าเขาเป็นคนเป็นๆใช่มั้ย...
"ผมยังอยู่ดี ซื้อน้ำกระป๋องได้ตามปกตินะ"
ยาคุโมะกระดิกนิ้วบอกให้เดินไปพร้อมกัน
"แล้ว... อะไรที่อยู่ด้วยเมื่อกี้ที่ว่าเนี่ย คือถูกโรคจิตตามหรอ?"
ระหว่างเดินเขาถามเสียงไม่ดังมาก แค่ให้ได้ยินกันสองคน
"นั่นสินะครับ" พยักหน้าตอบ
"ยังไงก็... ถึงกดน้ำมาแล้ว ช่วยรับอีกกระป๋องนี่ไปได้ไหมครับ? อย่างน้อยตอบแทนที่ยอมช่วยกัน" ว่าแล้วยื่นน้ำที่กดมาเกินให้
พอถูกเรียกให้เดินตาม เขาก็ตามไปง่ายๆ รู้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำในเวลาปกติ แต่ตอนนี้เขาไม่รู้แล้วนี่มันเวลาแบบไหน
"...ผมก็ ไม่รู้" ตอบคำถามเสียงเบาพอกัน "มันไม่ยอมเลิกตามเลย... จนกระทั่งผมเจอคุณ"
เจ้าตัวค่อย ๆ หันไปด้านข้างช้า ๆ ด้วยความแปลกใจ ไม่สิ ความจริงแล้วเธอกลัวนิด ๆ ด้วยซ้ำ — คนคนนี้เป็นคนใช่ไหมนะ..
“ เอ่อ- ”
“ อ้อ… ได้ค่ะ ”
โนโซมิตอบกลับและพยักหน้า แม้จะกังวลอยู่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ..แถมอีกฝ่ายดูจะกังวลกว่าเธอเสียอีก ?
"ขอบคุณมากนะครับ"
เขาว่าก่อนจะยื่นกระป๋องน้ำขวดที่สองที่กดมาให้คุณ "ทานหรือไม่ทานก็ได้ ถือว่าเป็นของตอบแทนที่ช่วยนะครับ"
ว่าแล้วเจ้าตัวก็เปิดกระป๋องของตัวเองกระดกอย่างไว เหมือนคนขาดน้ำมาสิบปี (เปรียบเกินจริง) แล้วพอดูดีๆ แล้วก็เหมือนเขาเพิ่งวิ่งหนีอะไรมาเหนื่อยจัดๆ เลย
เจ้าตัวยิ้มและรับกระป๋องน้ำมาเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ — พลางลอบมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูเหมือนอีกฝ่ายจะตัวเล็กกว่าเธอประมาณหนึ่ง
… เด็กม.ต้นหรือเปล่านะ?
แต่แน่นอนว่าไม่ได้ถามออกไปหรอก
(+)
โนโซมิขยับเข้าไปใกล้และป้องมือกระซิบ
“ เอ่อ.. ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณไปเจอคนแปลก ๆ มาหรือเปล่า ? อืม แบบว่า พวกตาลุงแปลก ๆ ขี้เมาน่ะค่ะ ”
ก่อนที่รอยยิ้มจะบิดไปนิดนึงด้วยความขนหัวลุก ตาใต้แว่นกันแดดเบิกโผล่งแล้วส่ายหน้ากระซิบตอบ
"ผมก็อยากให้เป็นแบบนั้... ไม่สิ แบบนั้นก็ไม่เอา แต่ไม่ใช่ครับ"
ก่อนจะหยุด ดูลังเลนิดหน่อย
"พูดไปแล้ว... ผมน่าจะเหมือนคนหลอนไปเอง แต่... ผมไม่รู้ว่าใครตามมาจริงๆ ครับ..."
พูดออกไปแล้วเตรียมใจโดนซักนิดนึงเลย เป็นเขาปกติก็คงว่าขี้โม้เหมือนกัน
“ สรุปว่ามีคนตามจริง ๆ สินะคะ !? ”
เจ้าตัวโพล่งขึ้นมาและหันซ้ายหันขวามองไปรอบ ๆ ดูเหมือนว่าเธอจะเชื่อเขาล่ะ
“ ..เอาไงดีล่ะ; อ่า- ไปหาที่ที่คนเยอะกว่านี้ไหมคะ? ”