#THK_โรลเปิด (โกงเวลา)
@thk-musei.bsky.social
[แยกรูท | 04:45 pm | ห้องสมุดโรงเรียน]
ผ่านมา 2 อาทิตย์ ตั้งแต่ที่ทั้งสองพี่น้องครอบครัวซาคาอิได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าห้องทั้งคู่ ก็รู้สึกงานยุ่งไม่เว้นแต่ละวันเลย ไหนจะชมรม ไหนจะสรุปการเรียน เพราะเป็นหน้าที่มุเซย์เลยต้องจำใจทำงานโดยช่วยไม่ได้
หลังเลิกเรียน ทั้งสองเลยตกลงกันทำงานหัวหน้าห้อง(เขียนรายงาน/จัดตารางเวร)
@thk-musei.bsky.social
[แยกรูท | 04:45 pm | ห้องสมุดโรงเรียน]
ผ่านมา 2 อาทิตย์ ตั้งแต่ที่ทั้งสองพี่น้องครอบครัวซาคาอิได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าห้องทั้งคู่ ก็รู้สึกงานยุ่งไม่เว้นแต่ละวันเลย ไหนจะชมรม ไหนจะสรุปการเรียน เพราะเป็นหน้าที่มุเซย์เลยต้องจำใจทำงานโดยช่วยไม่ได้
หลังเลิกเรียน ทั้งสองเลยตกลงกันทำงานหัวหน้าห้อง(เขียนรายงาน/จัดตารางเวร)
Comments
‘รองหัวหน้าใจดีจังเลย เดี๋ยวจะช่วยงานให้ด้วย’
นั่นล่ะ เหมือนเหยื่อติดเบ็ดล่อหลอกเป็นเหมือนได้ประโยชน์ เขาก็คิดแบบนั้น
“?”
ได้ยินเสียงสนทนาข้างๆตู้หนังสือสูงชัน ร่างสูงโปรงยืนอยู่หลังตู้นี้ +
“คุณพี่น้องซาคาอิ“
”สวัสดียามเย็นครับ ป่านนี้แล้วยังขยันเรียนจัง“
ปรายสายตามองรอบๆผ่านไปแล้วยิ้ม
" ขออนุญาตครับ "
หากคุณมองไปที่ประตู ก็จะได้เห็นชายหนุ่มที่ใบหน้านั้นเผยแต่รอยยิ้ม ก้าวเข้ามายังห้องสมุด
แน่นอน ไม่มีใครรู้ว่าเขาคนนี้เข้ามาทำอะไร เพียงแต่ ณ ตอนนี้
เอรินะสังเกตเห็นพวกคุณทั้งสองคน
" ..ตายจริง วันนี้มีคนอื่นอยู่ด้วยหรอเนี่ย " เขาปิดประตูเบาๆเพื่อไม่ให้รบกวนพวกคุณมากจนเกินไป
+
" เป็นพวกเธอเองหรอ ซากิคุง "
ถึงแม้ว่าปากจะขยับ แต่สีหน้ากลับไม่มีอะไรเปลี่ยน
“ใช่ครับ… เป็นพวกเรานั่นแหละ”
มุเซย์เอ่ยตอบอย่างสบาย ๆ ก่อนจะหันไปมองเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่ข้างตัว แล้วผายมือเชื้อเชิญด้วยท่าทีเปิดรับ
“ดีจัง… รู้จักกับซากิสินะ ถ้าไม่รังเกียจ ลองมานั่งด้วยกันไหมครับ?”
สายตาของเขาเลื่อนไปสบกับอีกฝ่ายโดยไม่เสียรอยยิ้ม
“สวัสดีตอนเย็นครับ รุ่นพี่เอรินะ”
เขาเอ่ยทักอย่างสุภาพ พร้อมโค้งตัวเล็กน้อยเป็นการแสดงความเคารพ
(+)
ก่อนจะเข้ามายังห้องสมุดเพื่อจะรีบทำการบ้านของวันนี้ให้เสร็จ สายตาเหลือบไปเห็นหัวหน้าห้องของตัวเองกับคนคุ้นหน้าคุ้นตาจากห้องJ
รู้ตัวอีกทีสองขาเดินเข้าไปที่โต๊ะตัวนั้นซะแล้ว
“ไง มุเซย์คุง ซากิฮิโตะคุง — อ้าว พวกนายกำลังเขียนรายงานอยู่หรอ?“
+
เขาเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงร่าเริงซึ่งเบากว่าปกติเพราะอยู่ที่ห้องสมุด แต่รอยยิ้มสดใสก็ยังไม่หายไปจากหน้าของเหรัญญิกจำเป็นของห้องC
“จะว่าไป ขอผมนั่งตรงนี้ด้วยได้รึเปล่า ว่าจะทำการบ้านของวันนี้น่ะ”
พระอาทิตย์ใกล้ตก นักเเรียนเริ่มทยอยกันกลับไม่ก็ไปทำกิจกรรมชมรม หรือแวะเวียนมาที่ห้องสมุดเพื่อหาอะไรอ่าน และหนึ่งในนั้นคือโคสุเกะ...
เสียงที่คุ้นหูกับร่างสองร่างของรุ่นน้องที่คุ้นตาเรียกสติให้เขาหันไปมอง... โคสุเกะพร้อมหนังสือ[รวมแจกันสวยงาม]ในมือ เดินเข้าไปก้มมองหนังสือที่พวกเขากำลังเขียนกันอยู่พร้อมรอยยิ้ม
"Working hard, aren't you? Hmm?"
“Look who’s talking. Showing off that fancy accent again, Kosuke?”
เสียงของเขานุ่มนวลเหมือนเดิม แต่แฝงแววท้าทายที่ซ่อนอยู่ในนั้ย ก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างสบาย ๆ
“What’s the matter? Tired of flower vases already?”
“Or are you here to spy on us huh?”
ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาอย่างขบขันพลางใช้ขาดันเก้าอี้ตัวข้างๆของตัวเองออกมา พร้อมกับผายมือเพื่อเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายนั่ง
“Good evening, Senior Kosuke. I must say, I didn’t expect to see you in the library like this.”
(+)
...แน่นอนว่าเพื่อเอาคืน
เขายิ้มบางๆ พลางผายมือเชื้อเชิญ
“You’re welcome to join us, if you’d like.”
โคสุเกะยิ้มตอบมุเซย์พลางโบกหนังสือในมือไปมาอย่างไม่ใส่ใจนัก แล้วหันไปทางซากิฮิโตะพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยั่นเล็กน้อย
""Why? Do I not look like someone who belongs in a library?"
เขาหรี่ตามองซากิฮิโตะ ...ตั้งแต่เด็กแล้ว ที่เขารู้สึกว่าซากิฮิโตะ ไม่เห็นจะน่ารักเท่ามุเซย์เลย...
(+)
จนกระทั่งเธอเห็น ได้ยินคนสองคนที่เธอค่อนไปทางคุ้นหน้าคุ้นเสียงไม่น้อย นั่นทำให้หญิงสาวพร้อมตุ๊กตาฟางคู่ใจมาแอบส่องจากหลังชั้นหนังสือ
"คนน่าสนใจ..ซากิ"
เสียงพึมพำต่ำจนกลายเป็นกระซิบ มือผอมซีดยื่นเอาตุ๊กตาฟางโผล่เพียงครึ่งหน้าให้เจ้าตัวน้อยได้ชะโงกดูแทนเธอ
เขาชี้นิ้วข้างหนึ่งไปทางชั้นหนังสือด้านหลัง—ช้า ๆ อย่างกับตั้งใจให้ดูไม่เร่งรีบ แล้วหันกลับมากระซิบกับซากิเบา ๆ น้ำเสียงเจือแววกวน
“ซากิ… นั่นเพื่อนนายเหรอ?”
+
กระพริบตาช้า ๆ อย่างไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย แต่ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าเขานั่งตัวตรงขึ้นเล็กน้อย
“ถ้าใช่ ช่วยบอกให้เขาเดินเข้ามานั่งด้วยกันดีๆทีสิ….“
นั่นคงจะเป็นเธอ—รุ่นพี่ชิราอิชิ
หญิงสาวผู้แปลกประหลาด ที่มักจะปรากฏตัวพร้อมตุ๊กตาฟาง และกลิ่นไหม้อ่อนๆ อันเป็นเอกลักษณ์
ดูเหมือนวันนี้... จะเป็นการบังเอิญเจอกันอีกครั้งสินะ
“หืม?”
เสียงของมุเซย์ที่ดังขึ้นเบาๆ
+
...ก็จริง มุเซย์ยังไม่เคยเจอเธอมาก่อนนี่นะ
ซากิฮิโตะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจหันหน้าไปยังทิศทางที่หญิงสาวกำลังหลบซ่อนอยู่ พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ แฝงแววอ่อนโยน
“ผมเจอตัวแล้วนะครับ รุ่นพี่ชิราอิชิ”
“ออกมาทักทายพวกเราหน่อยได้ไหมครับ?”
"คนน่าสนใจ สองคน รุ่นน้อง?"
เป็นน้ำเสียงที่ปะปนทั้งความเสียดายและสงสัยอยู่เบาบาง เป็นกลุ่มคำที่ไม่สามารถปะติดปะต่อได้ทันทีอย่างกับปริศนาเล่นคำ
"ซากิบอก เรื่องน่าสนุก เจอแล้ว สองคน.."
ทันทีที่เธอลากขาออกจากที่ซ่อน บรรยากาศรอบตัวก็เริ่มเย็นลงทีละนิด
ถ้อยคำพร่ำพรายตามแรงเหวี่ยงของลมหายใจ ขณะที่มือซูบผอมก็ลูบตุ๊กตาฟางกลิ่นไหม้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม
+
ร่างอรชรขยับสาวเท้าเดินผ่านมาในสภาพที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงนิดหน่อยและเสื้อผ้าที่ดูไม่ค่อยจะเรียบร้อยเสียทีเดียว
ใช่...เธอพึ่งตื่นหลังจากที่หนีมาแอบงีบในห้องสมุด
"อาーเวลา...ป่านนี้แล้วหรอเนี่ย..."
พูดพึมพำคลายกำลังบ่นกับตัวเองจนเมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆก็สังเกตุเห็นคนหน้าตาคุ้นๆนั่งอยู่
"เห~พวกเด็กเรียนยังอยู่กันอีกหรอ? นึกว่าจะรีบกลับไปอ่านหนังสือกันแล้วซะอีก"
“อ้าว… อรุณสวัสดิ์นะ นี่พวกเราเผลอไปรบกวนเวลาฝันหวานของเธอรึเปล่า?”
น้ำเสียงของเขาฟังดูสบาย กึ่งหยอกล้อ กึ่งเอ็นดู
“ผมไม่เป็นทรงเลยนะนั่น แต่ก็น่ารักดีนะ เวลาที่เพิ่งตื่นแบบนี้น่ะ”
เขายิ้มบาง ยักไหล่เล็กน้อยอย่างไม่จริงจังนัก
“ถ้ายังไม่ตื่นเต็มตา จะมานอนต่อแถวนี้ก็ได้นะ… โต๊ะฝั่งนี้อุ่นใช้ได้เลย”+
“หรือถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศ จะลองนั่งช่วยพวกเราทำงานก็ได้…”
พลางพูดต่อด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่หรี่ตามองอีกฝ่ายนิด ๆ
“…ส่วนฉันจะได้อาสา เปลี่ยนเวร ไปนั่งพักแทนสักสิบห้านาที จะได้ไม่เสียสมดุลกลุ่มไงล่ะ”
ให้ความรู้สึกที่แตกต่างแต่ก็คล้ายคลึงกันแบบแปลกๆ...แต่คำชมเมื่อครู่ทำเอาสาวเจ้าขนลุกซู่อย่างบอกไม่ถูก
ขยับเดินเข้าไปกวาดสายตามองเอกสารต่างๆที่ดูจัดการเป็นระเบียบเรียบร้อยก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา
“ห๊า? ให้ช่วยงานเนี่ยนะ? เหอะ ถามผิดคนแล้วล่ะ "
ไหวไหล่เบาๆพลางผ่อนลมหายใจสั้นออกมา
+
ถือวิสาสะลากเก้าอี้ใกล้ๆ มานั่งลงที่ข้างโต๊ะโดยไม่ขออนุญาต ก่อนจะยืดแขนบิดขี้เกียจเสียงดังกรอบแกรบ
“เอาเถอะ… ขอนั่งส่องพวกขยันๆ ทำงานไปก่อนละกัน"
"เผื่อร่างกายมันจะซึมซับความรับผิดชอบผ่านออสโมซิสมาบ้าง”
ขยับมือลูบผมที่ฟูๆให้กลับเข้าที่เข้าทางขณะเอ่ยแซว
เสียงที่คุ้นเคยจนเขาเผลอเงยหน้าขึ้นโดยอัตโนมัติ น้ำเสียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ซากิฮิโตะนึกออกทันทีว่า กลิ่นที่เขาได้กลิ่นมาตั้งแต่เมื่อครู่คือของใคร และก็ไม่ผิดจากที่คาดไว้เลย... เธอแอบมาอยู่ที่นี่จริงๆ
“สวัสดีครับ รุ่นพี่เคียวโกะ ☺️”
เพียงแค่เห็นทรงผมที่ดูยุ่งเล็กน้อยก็พอจะเดาได้ว่า เธอคงแอบมาหลับอยู่ที่นี่มาหลายชั่วโมงแล้ว
+
คงยากนักที่จะมีคนมานั่งอ่านหนังสือหรือทำงานในยามนี้ แต่ก็คาดไม่ถึง มีจริง ๆ ด้วย ?
นัยน์ตาสีเข้มชำเลืองมองชายทั้งสองที่นั่งคุยกันอยู่ห่าง ๆ เป็นคนที่หล่อนคุ้นหน้าคุ้นตาเสียอย่างดี
แต่เดิมที ก็เคยเป็นเพียงคนที่คอยมองพวกเขาทั้งสองอยู่ห่าง ๆ เสียอยู่แล้ว
+
แต่ครั้งนี้ก็คงไม่มีอะไรให้น่าสนใจนัก พอคิดได้เช่นนั้น จึงเดินไปเลือกหนังสือโซนนวนิยายแทน
( ขอแจมด้วยคนนะคะ 👉👈 )
ราวกับคำบ่นเล่น ๆ เมื่อครู่กลายเป็นจริงขึ้นมาทันที
“ว้าว… ฉันนี่ดวงดีจริงๆแหะ“
เขาหันไปกระซิบกับซากิพลางยักคิ้ว หัวเราะเบา ๆ
สายตายังจับจ้องคนที่เดินตรงไปยังโซนนวนิยาย โดยไม่แม้แต่จะเหลียวมองโต๊ะของเขา
+
มุเซย์ถอนหายใจเบา ๆ แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยแววขำขัน ก่อนจะเอนตัวเล็กน้อยแล้วเอ่ยเสียงพอประมาณ เบาพอไม่รบกวน แต่ชัดเจนพอให้ได้ยิน
“ถ้าเปลี่ยนใจจากนิยายมาอ่านรายงานนักเรียนแทนล่ะก็… โต๊ะนี้ยังมีที่ว่างอยู่นะ!”
แต่เชื้อเชิญเสียขนาดนี้จะปฏิเสธได้อย่างไรกัน www
” อืม ? ถ้าได้อ่านอะไรแบบนั้นกับพวกเธอ ก็คงสนุกไม่น้อย “
อาคาเนะสุ่มหยิบหนังสือไปเล่มหนึ่ง ดวงตาที่หรี่ลงหลับตาพริ้มก่อนจะยิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อย
เดินตรงไปที่โต๊ะที่มีชายสองคนนั่งอยู่ กวาดสายตามองทั้งสองคน
+
“ แหม ขยันกันจังเลยนะ “
” ถ้างั้นก็ขอรบกวนด้วย “
ถือวิสาสะค่อย ๆ หย่อนตัวลงบนเก้าอี้ที่ว่าง
“ นี่มันก็เย็นแล้ว ทั้งสองคนจะกลับกันตอนไหนหรอ หืม ? ”
+
ก่อนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังด้วยเสียงเบา ๆ
‘ซามุไรเซย์จัง’
คุโรกิพึ่งเอาหนังสือวรรณกรรมที่ยืมมาไปคืนเสร็จ ขณะที่กำลังเดินกลับสายตาก็เหลือบเห็นคนที่นั่งอยู่
ก่อนจะถอยหลังกลับมาพร้อมกับเอ่ยทัก
"ซาคาอิซัง?"
ทันทีที่พูดออกไปกลับได้รับปฏิกิริยาตอบกลับจากทั้งคู่ทำเอาตัวเขางงเล็กน้อย ทั้งที่ตั้งใจทักจริงๆ คือรุ่นพี่ร่วมชมรมคนนั้น
“โอ๊ะ-คุโรกิคุง…รึเปล่านะ?”
เขาเอียงคอเล็กน้อยพลางใช้เวลานึกชื่ออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหลุดหัวเราะเบา ๆ อย่างขบขัน จากนั้นก็ผายมือไปยังเก้าอี้ข้างตัวที่ยังว่างอยู่
“ไหน ๆ ก็เจอกันแล้ว มานั่งด้วยกันเลยมั้ย? รุ่นน้องชมรมคนเก่งของฉันทั้งที จะให้เดินผ่านเฉย ๆ ได้ไงล่ะ?”
พูดจบก็แกล้งทำหน้าเศร้าเล็กน้อย เสริมสีสัน
+
“เมื่อกี้พี่เพิ่งบ่นกับซากิไปหยก ๆ เลยว่าเหงา อยากมีใครก็ได้มานั่งด้วย… แล้วคุโรกิคุงก็โผล่มาพอดี แบบนี้ต้องเรียกว่าฟ้าส่งมารึเปล่านะ?“
เพราะเสียงเรียกและกลิ่นอายที่ไม่คุ้นเคย ทำให้ซากิฮิโตะละสายตาจากเอกสารตรงหน้า แล้วหันไปมองต้นเสียงที่เพิ่งเข้ามา
ดูเหมือนว่า...จะไม่ใช่คนที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาเลยจริงๆ
ถ้าอย่างนั้น... เด็กคนนี้คงจะเป็นคนรู้จักของมุเซย์กระมัง?
ซากิหันไปสังเกตสีหน้าของน้องชาย และก็เป็นไปตามคาด
คุโรกิ... รุ่นน้องในชมรมเบสบอลอย่างนั้นสินะ?
+
“มุเซย์... นั่นเพื่อนของนายเหรอ?”
แม้จะยังไม่แน่ใจว่าควรปฏิบัติตัวยังไงกับอีกฝ่ายดี แต่ซากิก็ไม่ได้แสดงท่าทีปฏิเสธ
เขาเพียงแค่ส่งยิ้มบางๆ ไปให้ ก่อนจะกล่าวทักทายอย่างสุภาพ
"สวัสดีครับ ^^"
"รุ่นพี่ชมเกินไปแล้วครับ"ว่าแล้วก็ขออนุญาตนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างตามมือที่ผายไป
"ฟ้าคงไม่อยากให้รุ่นพี่เหงาและน้า~ ว่าแต่...ซากิ..."เขาเอ่ยทวนชื่อก่อนจะหันไปมองเพื่อนร่วมวงอีกคน น่าจะเป็นรุ่นพี่เขาสินะแต่เขาเองก็ไม่เคยเห็นเลย
+
เหล่ากลุ่มคนหมู่มากที่ค่อยๆทยอยพากันกลับบ้านหรือหอพักกัน เว้นไว้เพียงคนๆนึงที่ยังย่างกายอยู่ภายในโรงเรียน
และชายผู้กำลังถือสมุดโน๊ตที่ถูกกางอยู่บนมือ ก็ได้เลือกเดินเตร็ดเตร่จนมายังห้องสมุด ที่น่าจะเป็นสถานที่ที่เหมาะการแก่สรุปเนื้อหาหลังเลิกเรียน
( + )
^^ ?
และเมื่อปรายตาขึ้นมามองจึงได้สังเกต..
โชคชะตาหรืออะไรดลใจให้เดินมาพบเจอกับพวกเขาในเวลานี้กันแน่นะ
เขาคิดและพิจารณาอยู่เงียบๆในสถานการณ์แบบนี้ และก็เลือกที่จะเฝ้ามองอยู่เงียบๆ
ไม่คิดทักทาย ไม่ปริปาก มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ยังคงทำหน้าที่ของมันดังเดิม
^^✨
ในช่วงเวลาที่ไม่ควรจะมีใครอยู่แล้วเขาดันได้ยินเสียงของคนสองคนคุยกัน
ความอยากรู้อยากเห็นล่อให้เขาเข้าไปหาและแอบอยู่บริเวณชั้นวางใกล้ ๆ
เขาไถลตัวนั่งลงกับพื้นพิงชั้นวาง เล่นโทรศัพท์มือถือไปแอบดักฟังใกล้ ๆ คาดหวังว่าทั้งสองคนอาจจะพูดอะไรดี ๆ ที่จะกลายเป็นหัวข้อสนทนาในกระทู้ขึ้นมาบ้าง
มุเซย์หยุดมือที่กำลังเขียน ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบา ๆ อย่างขบขัน
“นี่ ซากิ…”
เขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ พลางเหลือบตามองไปทางชั้นวางหนังสือ
“ได้ยินเหมือนกันรึเปล่า? เหมือนจะมีแมวตัวเล็ก ๆ หลุดเข้ามาในห้องสมุดนะ”
รอยยิ้มประดับบนใบหน้า พร้อมน้ำเสียงเรียบเรื่อยแต่แฝงความขี้เล่นไว้ไม่มิด
+
“แถมเจ้าแมวนี่… เหมือนจะชอบเล่นซ่อนหาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน”
เขาลดเสียงลงเล็กน้อย แต่ยังคงมั่นใจว่าคนแอบฟังอยู่จะได้ยินทุกคำ
“หวังว่าแมวตัวนั้น… จะไม่เผลอหายใจดังเกินไปล่ะนะ”
กลิ่นที่ตามติดพวกเขาเสมอ
...จนซากิเองก็เริ่มเคยชินไปเสียแล้ว
“อย่างนั้นเหรอ? ฉันไม่ยักได้ยินเลย ว่าที่โรงเรียนเรามีแมวด้วย”
(+)
“แต่ก็จริง... ถ้ามีแมวอยู่ในห้องสมุด คงไม่เหมาะเท่าไหร่”
เขาหยุดเขียน ลดปากกาลงช้าๆ พร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนที่แตะแววตา
“อยากไปตามหามันไหม?”
ชิโรฮะคิด ทั้งใจเต้นตึกตักแทบจะหลุดออกมา แย้งในใจกับสิ่งที่ตนคิดว่าทำได้ดีแล้ว แต่ยังถูกจับได้
คำพูดทุกคำของทั้งสองคนทำเอาเขาเกือบจะหยุดหายใจไปจริง ๆ ชั่วขณะหนึ่ง เมื่อคิดว่าตัวเองตีความความหมายแฝงในคำพูดเหล่านั้นได้ เขาก็พยายามหลบถอยออกมาอีกเล็กน้อย
ถือคติว่าเราไม่เห็นเขา เท่ากับเขาไม่เห็นเรา
+
|
เธอเดินเข้ามาทักทายพร้อมมองกอง(?)กระดาษที่เขียนยุกยิกๆ
เขาก้มมองอ่านเนื้อหาในนั้น ทว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นมาสองเท้ากลับหยุดชะงักลงเล็กน้อย
สองพี่น้องซาคาอิดูเหมือนจะกำลังนั่งงวนกับกองเอกสารบางอย่าง โนอะจึงมองภาพนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ไม่แน่ใจว่าควรเข้าไปทักเพื่อนเก่าดีหรือไม่
+
"พวกนาย..."
เสียงทักเบา ๆ แต่ชัดเจนพอจะทำให้คนที่อยู่โต๊ะหันมาได้
"ทำงานกันอยู่หรอ?"
น้ำเสียงราบเรียบฟังดูอู้อี้เล็กน้อยจากใต้แมส เว้นระยะจากขอบโต๊ะหนึ่งช่วงแขน ไม่แทรกตัวเข้ามาในพื้นที่ของพวกเขา
—เหมือนแค่อยากทักทายเท่านั้น
หลังจากเสร็จการสอนคาบสุดท้าย ยังมีเวลาว่างก่อนที่จะกลับบ้าน เซ็นเซหนุ่มผมยาวก็เดินเข้ามาที่ห้องสมุดแล้วก็เหลือบไปเห็นสองหนุ่มที่กำลังนั่งคุยกัน
ก่อนที่เขาจะเข้าไปทักทายก็จัดการรวบผมข้างหลังแล้วจัดแจงให้เรียบร้อย แล้วเดินเข้าไปทักทาย
"สวัสดีครับคุณนักเรียนทั้งสอง"
น้ำเสียงที่ดูสบายๆนั้นเอ่ยขึ้นมา พร้อมกับมือที่โบกทักทายตามปกติ
เพราะเขานั่งยองแล้วย่องมาใกล้โต๊ะของทั้งเพื่อนสองคนตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว แน่นอนว่าเขาเองก็กะมาทำงานของวันนี้ในที่เงียบๆอย่างห้องสมุดด้วยเหมือนกัน
"งานหนักแย่เลยนะ คุณหัวหน้าห้อง"
“โว้… ซากิ นายเห็นมั้ย? ฉันโดน ‘สิ่งนั้น’ หลอกเข้าให้แล้ว—แถมเล่นโผล่มาจากใต้โต๊ะด้วยนะ”
เขาหันไปยิ้มให้เจ้าของผมสีน้ำตาลที่ยังมีแววล้ออยู่ในแววตา ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเจือหยอก
พูดจบ มุเซย์ก็เอื้อมมือไปจับพนักเก้าอี้ข้างตัว แล้วสไลด์ออกเบา ๆ ราวกับเชื้อเชิญด้วยท่าทีเป็นกันเอง
“เอ้า ไหน ๆ ก็โผล่มาแบบสมัครใจแล้ว… ยินดีต้อนรับเข้าสู่ตำแหน่งแรงงานเพิ่มนะครับ ‘คุณหัวหน้าห้อง 2-A’”
ดวงตาคมกริบจับจ้องอยู่กับหน้ากระดาษ แต่ในความสงบเหล่านั้น เขารับรู้ได้ตั้งแต่ต้น—กลิ่นประจำตัวของโทคิที่แผ่วผ่านอากาศมาตั้งแต่เจ้าตัวก้าวเข้ามาในห้องสมุด
แม้จะทำเป็นไม่สนใจ แต่สายตาก็แอบชำเลืองมองอยู่บ้าง
(+)
พอชายหนุ่มผมสีน้ำตาลปรากฏตัวขึ้นจากมุมลับ ซากิฮิโตะก็หันไปยิ้มบางๆ ให้
“ยินดีต้อนรับครับ... คุณหัวหน้าห้อง 2-A เอสุมิ โทคิ”
เขาเน้นคำเรียกอย่างเป็นทางการเสียจนอีกฝ่ายอาจรู้สึกขนลุกเล่นๆ
—ก็แหม... ใครเริ่มก่อน ก็ต้องเตรียมสวนกลับแบบนี้ล่ะนะ
เผลอไผลไปเพียงพริบตาเดียวเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเหล่านักเรียนก็ได้กระจายตัวกันห่างจากบริเวณอาคารเรียนเหลือเพียงเสียงส่วนน้อยที่ ' ยังคงอยู่ '
ยูมิเลื่อนประตูห้องสมุดอย่างเบามือก่อนจะเดินเข้าไปอย่างเงียบเชียบหวังจะหาวรรณกรรมสักเล่มอ่านระหว่างทำงานของห้องเรียน
เสียงการสนทนาดังมาไม่ใกล้ไม่ไกลทำเอาร่างกายสะดุ้งโหยงอัตโนมัติ
มือเรียวค่อย ๆ จับชั้นวางก่อนจะชะเง้อดูเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นมนุษย์เเน่ ๆ เเล้วเขาก็ระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งอก
ก่อนจะหันหลังเข้าชั้นหนังสือเเละเอ่ยชมออกมาเบา ๆ
" ถึงจะไม่รู้ว่าอยู่ปีไหนเเต่ขยันจังเลยน้า "
กลิ่นนี้
เคย์จูโร่ที่มาห้องสมุดเพื่อหายืมอะไรกลับไปอ่านทำจมูกฟุดฟิดกับกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ เขาชะโงกหน้าออกมาจากชั้นวางที่เรียงรายและเจอเข้ากับคนที่คาดไว้
“ซาคาอิคุงนี่นา ^^ ”
ยิ้มตาตี่ทักทายด้วยน้ำเสียงสบายอารมณ์เช่นทุกที
“ทบทวนการบ้านอยู่เหรอ?”
“โอ้โห ซากิ นายก็ดังใช่เล่นนะ”
เขายิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียงทักทายด้วยแววตาขี้เล่น
“ว่าแต่…จำชื่อกันได้ด้วยเหรอครับ? แบบนี้ก็ดีใจเลยสิ”
+
เขาหลับตาลงช้า ๆ แล้วแอบลืมขึ้นข้างหนึ่ง มองอีกฝ่ายอย่างลอบสำรวจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อน ๆ แฝงความหยอกล้อ
“แต่จะดีใจกว่านี้…ถ้าครั้งหน้าคุณเรียกชื่อผม แทนนามสกุลนะครับ”
+
“ถ้าคุณยังไม่รีบไปไหน…มานั่งด้วยกันไหมครับ? ผมกำลังต้องการคนช่วยเบี่ยงเบนความตั้งในการทำงาน
อยู่ซะด้วยสิ“
หัวเราะเบา ๆ อีกรอบ
“ถือว่าให้กำลังใจฟรี แลกกับชื่อก็ได้ แบบ win-win น่ะครับ”
กลิ่นของใครบางคนที่มักสร้างความวุ่นวายเล็กๆ ให้กับบรรยากาศรอบตัว ไม่ใช่ว่าพวกเขาสนิทกันเป็นพิเศษหรอก แต่บางที... อาจเพราะเป็นคนประเภทเดียวกัน คล้ายกันในบางด้าน เลยเหมือนถูกแรงบางอย่างดึงดูดให้เข้ามาใกล้
แม้จะไม่ได้มองว่าเป็นมิตร หรือศัตรู—แต่ก็ไม่ใช่คนแปลกหน้า
เรียกได้ว่าเป็น "รุ่นพี่ที่รู้จักกันดี" มากกว่า
+
“ฮ่ะๆ ฉันไม่ได้รู้จักเท่ามุเซย์หรอกนะ”
เขาหยุดมือจากปลายปากกา เงยหน้าขึ้นตอบมุเซย์พร้อมรอยยิ้มบาง ก่อนจะหันไปทางรุ่นพี่ที่เพิ่งเข้ามา แล้วเอ่ยแนะนำอย่างเป็นกันเอง
“มุเซย์ นี่รุ่นพี่ที่ฉันรู้จัก—รุ่นพี่โคสึกิ เคย์จูโร่”
จากนั้นเขาหันกลับมาอีกครั้ง
“รุ่นพี่โคสึกิ นี่น้องชายของผมครับ ซาคาอิ มุเซย์”