#esra_roleplay | #ESRA_Starlit [หอเต้นรำ]
เสียงซุบซิบต่างดังขึ้นไม่ขาดสายเมื่อร่างขอคนที่ผู้คนมักเห็นเธอในเสื้อผ้าที่รุงรังหรือผมที่ไม่อาจหวีให้เรียบร้อย
เดินเข้ามาในงานพร้อมกับนักเรียนคนสนิทอีกคน แม้คนสนิทคนนั้นจะขอตัวไปทำธุระและปล่อยให้เธออยู่คนเดียว
เสียงติฉินนินทาก็ยังคงดังไม่หยุด
'อยากถอดรองเท้าจะแย่แล้วสิ'
เสียงซุบซิบต่างดังขึ้นไม่ขาดสายเมื่อร่างขอคนที่ผู้คนมักเห็นเธอในเสื้อผ้าที่รุงรังหรือผมที่ไม่อาจหวีให้เรียบร้อย
เดินเข้ามาในงานพร้อมกับนักเรียนคนสนิทอีกคน แม้คนสนิทคนนั้นจะขอตัวไปทำธุระและปล่อยให้เธออยู่คนเดียว
เสียงติฉินนินทาก็ยังคงดังไม่หยุด
'อยากถอดรองเท้าจะแย่แล้วสิ'
Comments
ท่ามกลางผู้คนมากมายในงานสายตาของเธอถูกดึงดูดด้วยคนๆนึง นั้นมันสหายนักแม่นปืนของเธอไม่ใช่หรือไร แต่ดูแล้วนี้เป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดน่าดู
“คุณเซเรนา ทำอะไรอยู่เหรอคะ”
ลาลิวาน่าก้าวเข้าหาพร้อมทักทายอย่างเป็นกันเอง
เธอวิ่งเข้าไปหาอีกในตอนแรกเธอจะเดินสี่ขาไปหาด้วยซ้ำแต่เพราะชุดที่เทะทะเกินจนเกือบจะกลายเป็นสะดุดส้นสูงของตัวเองแต่ก็ทรงตัวได้จนมาหยุดตรงหน้าอีกฝ่ายพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"อ่อก็ยืนไงละคะ ยืนด้วย2ขา"
เธอตอบสหายนักแม่นปืนด้วยน้ำเสียงที่ใสซื่อและเปี้ยมด้วยความมั้นใจสุดโต้งสุดๆ
ใช่แล้วเรื่องที่เจ้าหล่อนยืนด้วยสองขาแบบคนปกตินั้นแหละ นอกจากตอนอยู่ในสนามยิงปืนก็ไม่ค่อยได้เห็นภาพแบบนี้เท่าไหร่
“จะว่าไป ว่ากันตามตรงนะคะ“
”คุณเซเรนาคิดยังไงกับงานเลี้ยงนี้เหรอคะ“
ในประโยคหลังเรียกได้ว่าลีลี่กระซิบข้างหูเลยล่ะ อาจจะเพราะบรรยากาศรอบๆเธอจึงถามไปแบบนั้น
เธอทำตาเขน้ำลายยืดใส่อีกฝ่ายที่จู่ๆก้พูดออกมาวาเป็นภาพที่หาได้ยากคนอย่างเซเรน่าคงจะเข้าใจยากหรือซื่อเกินที่จะตอบคำถามนั้น
"หืมม คิดยังไงหรอ..."
คำถามที่ถูกเอ่ยออกมาจากลาลิวาน่าทำให้เธอนำนิ้วมือเรียวมากุมคางของตนเองคิ้วขมวดลงมา นั้นคงเป็นใบหน้าจริงจังนอกจากตอนอยู่ในสนามยิงปืนแน่ๆ
"ไม่ชอบรองเท้าอยากถอดมาก..ถอดตอนนี้เลยได้ไหม"
+
“เดี๋ยวค่ะ เดี๋ยว-จะถอดกลางงานไม่ได้นะคะ”
“ใช่แล้ว คุณเซเรนาเอางี้นะคะ อะแฮ่ม หนีไปกับฉันไหมคะหนีไปในที่ๆไม่มีใครหาพวกเราเจอ(?)”
ลีลี่ก็พูดให้ดูยิ่งใหญ่ไปอย่างนั้นเพื่อหลอกล่อความสนใจของเซเรนา ที่จริงนั้นคือการชวนให้ไปที่ระเบียงด้วยกันส่วนหลังจากนั้นน่ะไว้ค่อยหาทางอีกทีแล้วกัน‘:3
เคียร่าเดินเข้ามาในชุดราตรีสีฟ้าอ่อน เธออมยิ้มทันทีที่เห็นเพื่อนของตัวเอง ทว่าเสียงนินทาที่ว่า เธอเองก็ได้ยินเช่นกัน…
“สวัสดีจ้ะเซเรนา
งานนี้ยังน่าตื่นเต้นเหมือนเคยเลยนะคะ…”
มางานเต้นรำกี่ครั้งก็ไม่ชิน เพราะบ้านเธอไม่ใช่แบบนี้เลย
เสียงฝีเท้าดังเฉียบคมอย่างหนักแน่นเพียงเสียงนั้นก็ทำให้เซเรน่าหันเหความสนใจไปหาผู้เข้ามาทักทายตน แววตาอันสดใสเผยออกมาและรอยยิ้มฉีกกว้างเผยอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
" หวัดดีดดดดเคเค"
ความสงบเสงี่ยมเจียมตัวเมื่อกี้หายโดยพลันเธอเข้าไปกอดคลอเคลียเคียร่าราวกับเด็ก
"ฉันรู้แต่ฉันก็ไม่ชอบ ฉันอยากถอดรองเท้า รองเท้าส้นสูงมันอึดอัด"
"ทุกคนใส่กันไปได้ยังไงกัน หืม!"
แต่เวลานี้ กาลเทศะสำคัญมากเลยนะ”
เธอลูบๆ หัวเพื่อนหญิงของตน แน่นอนว่าเธอเห็นด้วยเรื่องรองเท้า แต่เวลานี้ถ้าถอดคงไม่ดี
“เว้นแต่ว่า… ถ้าเราใส่กระโปรงยาวล่ะก็
คงไม่มีใครสังเกตเห็น” /พูดกระซิบพร้อมหัวเราะคิกคักเบาๆ
"แต่ฉันใส่สั้นนะ ดูสิ"
เธอพูดพร้อมใช้เรียวมือยกเปิดชายกระโปรงถกขึ้ตมาให้เห็นว่ามันสั้นเกินไปที่จะปกปิดขาตั้งแต่น่องลงไป
ยังดีที่ภาพที่เซเรนาพึงกระทำไม่ได้เกิดภาพบาดสีเจ้าหญิง
เพราะตัวกระโปรงยังมีผ้าชีฟองฟูๆประดัยอัดแน่นเอาไว้จนเป็นกองเซ็นเซอร์ที่ดี
“ฉันเห็นแล้วจ้ะ ลำบากหน่อยนะ
แต่หากเป็นกระโปรงสั้น ในแง่ดีก็ช่วยเคลื่อนไหวได้คล่องตัวขึ้น”
จะว่าได้อย่างก็เสียอย่างย่อมได้
เธอแลบลิ้นออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยตอนที่เคียร่ามาห้ามเธอถกกระโปรงให้สูงไปกว่านี้
"ใช่.. แต่ก็ไม่ชอบอยู่ดี.. แล้วเคเคละ"
"สายชุดยาวๆแบบนั้นไม่อึดอัดหรอฉันว่าใส่แบบนั้อึดอัดพอๆกับการใส่ที่รัดเอวเลย"
เธอพูดไปมาพร้อมใช้มือกำกีะโปรยงให้หยับยู่ยี่ไปมา
ซิลเวสเทียร์มองตามจุดมุ่งหมายของเป้าสายตาของผู้คน เธอชั่งใจอยู่พักหนึ่ง จึงตัดสินใจเข้าไปทัก
“ สายันต์สวัสดิ์ค่ะ รุ่นพี่ ”
เธอคำนับคนตำแหน่งสูงกว่า ก่อนจะกวาดสายตาเขม็งไปรอบ ๆ ทำให้ผู้คนละสายตาไปจากจุดนี้ไปได้บ้าง ก่อนจะหันกลับมาหาแล้วส่งยิ้มให้อีกฝ่าย
“ สนุกกับงานไหมคะ ”
ทันทีที่เด็กสาวตรงหน้ากวาดสายตาไปทั่วเสียงที่เธอได้ยินก็พลันหายไปอย่างทันตา
"โอ๊... สวัสดีนะๆ"
"สนุกหรอ... อืมมมมมมมในทางไหนละ"
สาวรุ่นพี่เดินเข้าไปใกล้รุ่นน้องตรงหน้าพร้อมถามอย่างสงสัย
"บั้บว่านะบั้บว่า ได้ใส่ชุดสวยๆแต่มันก็อุดอัด รองเท้าด้วยของกินก็เยอะอร่อย ดนตรีก็ถูกใจนั้นเรียกว่าสนุกไหมนะ?"
“นั่นสินะคะ เป็นชุดที่ดูสวยแปลกตาดีนะคะ“ เธอเอ่ยชม แม้จะรู้สึกว่ามันยังดูไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่นักก็ตาม
เธอมองลงไปที่รองเท้าของอีกฝ่าย ” ถ้าเจ็บเท้าล่ะก็ไปนั่งพักก่อนดีไหมคะ“
เธอยกยิ้มอย่างปากแมวและมองชุดอีกใ่าอย่างถูกอกถูกใจอื่มๆๆ
"หืมเปล่า.. ฉันไม่ได้เจ็บเท้าหรอแค่"
"ใส่รองเท้าแล้วไม่สบายนะ เธอไม่สิทุกคนใส่รองเท้สเดินทุกวันกันไปได้ไง"
ซิลเวสเทียร์เลิ่กคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อคนตรงหน้าแสดงความคิดที่ไม่ค่อยเหมือนใครออกมาอีกครั้ง องค์หญิงคนนี้ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจได้อยู่เสมอ
สำหรับคนที่แต่งตัวสุภาพเรียบร้อยและเป็นระเบียบอยู่แทบจะตลอดเวลาอย่างเธอจึงไม่ค่อยเข้าใจนัก
(+)
” และที่สำคัญที่สุด หากไม่ใส่รองเท้าอาจจะให้เท้าของท่านได้รับบาดเจ็บจากการเดินทางได้นะคะ “
เสียงทุ้มต่ำที่คุณเคยดังขึ้นจากด้านหลังของหญิงสาวจากแดนใต้
หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จในที่สุดเขาก็ได้มารวมงานแม้จะไม่อยากมาเลยก็ตาม
" ขออภัยในความล่าช้า กระหม่อมจัดการธุระเสร็จแล้ว.. "
แม้ใบหน้าจะเรียบเฉยแต่ในแววตาฉายแววความประหลาดใจกับท่าทีที่นิ่งสงบที่นานๆทีจะได้พบเห็น
เซเรน่าที่ได้ยินเสียงคุ้นเคยรีบวิ่งแจนกระโดดไปหาคนสนิทของเธออย่างโดยเร็วเมื่อกี้ที่เธอนิ่งเงียบคงเป็นอาการตาฝาดของอีกฝ่ายเป็นแน่
"ไม่เป็นไรไมรอส ฉันรอนายได้เสมอตราบได้ที่เป็นนาย"
เธอยกยิ้มขึ้นมาพร้อมนำมือทาบลงกับอกอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
ขอเพียงอีกฝ่ายอยู่ข้างกายเธอก็เพียงพอแล้ว
"ไมรอสๆแต่งตัวหล่อมากๆมีคนมาขอเต้นรำยังๆ"
เธอเอ่ยถามอีกฝ่ายอย่างสนใจ
ดวงตาสีเข้มหรี่ลงเล็กน้อย เหมือนชั่ววูบมันจะสั่นไหวและแฝงไปด้วยความห่วงใยเล็กน้อย
แต่ก็เพียงชั่วคราว
" ไม่หรอกขอรับ ท่านก็รู้ว่ากระหม่อมไม่ควรจะทักผู้ใดสุ่มสี่สุ่มห้า "
เขากล่าวเสียงแผ่วพลางดันตัวของหญิงสาวให้ออกหาง
ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มนั้นทำให้ชายหนุ่มรู้สึก..
อารมณ์เสีย
มือเรียวยกขึ้นมาสัมผัสต้นคอของอีกฝ่าบก่อนจะกดลงไปเบาๆ
" เครื่องประดับนี้.. ไม่เหมาะกับท่านนะ "
มือใหญ่หนาของอีกฝ่ายที่ค่อยๆเอื้อจับปรับเครื่องประดับของเธอ
เสียงน้ำลายกลืนลงลำคอเบาๆพร้อมกับมือเรียวน้อยที่ถูกออกห่างจสกอกอีกฝ่ายมาแตะเบาๆที่ข้อมือของไมรอส
"รูมเมท...เลือกให้ มะเอามะถอนๆ"
เธอตอบอย่างเสียงสั่นเทาเล็กน้อยก่อนจะทำท่างอแงใส่อีกฝ่ายแทบจะลงนอนร้องแอ้
" นี้ไมรอสถ้านายยังไม่มีใครเต้นด้วยมาเต้นกับฉันไหม? ทำเหมือนทุกปี"
เมื่อได้สติก็ผละตัวออกมาเล็กอย่างน้อยเขาก็รู้สึกสบายใจที่เซเรน่าทำตัวงี่เง่ามากกว่า
พอองค์หญิงจากแดนใต้กล่าวเช่นนั้นจะมีหรือที่ผู้ติดตามเช่นเขาจะขัดใจ
คนผิวเข้มโค้งตัวเล็กน้อยพลางประคองฝ่ามือเล็กของหญิงสาว
" องค์หญิงเซเรน่า ได้โปรดให้เกียรติเต้นรำกับกระหม่อมสักหนึ่งบทเพลงได้ไหมขอรับ? "
แน่นอนจะมีหรอที่เธอจะไม่อยากย้อนวันวานที่หอมหวานราวเกลือทะเลกับอีกฝ่าย
เธอส่งเรียวมืออ่อนเข้าไปจับข้อมือของไมรอสแล้วพาพุ่งไปที่กลางคนกำลังเต้นรำกันนั้นคงเป็นคำตอบสำหรับเธอด้วยใบหน้าเปี้ยมรอยยิ้ม
เมือซาริน่าเห็นเซเรน่าเธอก็รีบเข้าไปทักทายด้วยน้ำเสียงสดใสทันที
"เซเรน่า!"
"ทำไมถึงอยู่คนเดียวล่ะคะ?"
เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัยปนเป็นห่วง
"อ่อ..ไมรอสบอกไปทำธุระนะ"
เธอตอบด้วยแววตาใสจ้องคนที่ตัวเล็กกว่าตัวเองเพียงเล็ก
"แล้วซิซินละทำไมอยู่คนเดียว วันนี้แต่งชุดมาสะสวยแท้ๆ"
ตามนิสัยความสมาธิสั้นของเธอดูเหมือนจะกลายเป็นการเปลี่ยนบทสนทนาใหม่แทน
เธอยิ้มกว้างจนตาแทบปิด
"จริง ๆ แล้วซาริน่าไม่ถนัดเข้าสังคมน่ะค่ะ เลยพยายามปลีกตัวอยู่"
ถึงจะมียศสูงและต้องออกงานเป็นประจำ ซารน่าก็ไม่เคยชอบแวดวงสังคมชั้นสูงเลยสักนิด
"อืมมมม....ไม่ซิซิน ฉันจะพาเธอเข้าสังคมเอง"
ใบหน้ามุ้งมั่นเต็มเปี่ยมไปด้วยปณิธานอันแรงกล้าก่อนจะจูงมืออีกฝ่ายและพาวิ่งฝ่ายฝูงชนเข้ามาในฟลอร์งานเต้นรำ
"อีก1ปีเราก็จะจบแล้วนะ ต้องใช้ชีวิตเพื่อการเมืองแล้วเพราะ.."
+
เธอกระชิบร่างของอีกฝ่าย มือเรียเธอโอบเอวของซาริน่าเข้ามากระชับด้วยรอยยิ้มขี้เล่นของเธอ
"ฉันเต้นเป็นฝ่ายชายให้เธอชั่วคราวได้นะ"
"มาสนุกให้เต็มที่กันเถอะ!"
ซาริน่ากล่าวเหมือนลืมไปแล้วว่าไมรอสกล่าว(ดุ)อะไรกับตนไว้
"เอ๊ะ เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ"
เธอกล่าวพลางยิ้มใสซื่อ