#KMI_VolunteerCamp | #KMi_เปิดโรล
นักเรียนปีหนึ่งพร้อมหมวกคาดผ้าสีส้มยืนอยู่ใต้ต้นไม้ มือถือไอศกรีมสีแดงที่กำลังละลายท่ามกลางอากาศหน้าร้อน รุยหันมาสบตาคุณเข้าโดยบังเอิญ ดวงตาฉายแววขี้เล่นก่อนจะหักไอศกรีมในมือเป็นสองส่วนแล้วยื่นไม้ที่ใหญ่กว่าให้คุณ
"ทานด้วยกันสิ แต่ต้องเก็บเรื่องที่ผมอู้งานเป็นความลับนะ"
(ผ่านมารับสินบนกันค่ะ🤫)
นักเรียนปีหนึ่งพร้อมหมวกคาดผ้าสีส้มยืนอยู่ใต้ต้นไม้ มือถือไอศกรีมสีแดงที่กำลังละลายท่ามกลางอากาศหน้าร้อน รุยหันมาสบตาคุณเข้าโดยบังเอิญ ดวงตาฉายแววขี้เล่นก่อนจะหักไอศกรีมในมือเป็นสองส่วนแล้วยื่นไม้ที่ใหญ่กว่าให้คุณ
"ทานด้วยกันสิ แต่ต้องเก็บเรื่องที่ผมอู้งานเป็นความลับนะ"
(ผ่านมารับสินบนกันค่ะ🤫)
Comments
เขากะพริบตาสองสามทีกับสินบนที่ยื่นมา
แต่พอตาได้มองยิ้มอีกฝ่าย
มือก็ดันเผลอรับมาดื้อ ๆ
“อ๋า”
“เอาอันนั้นมาอีกจะรับปากเลย”
ตาเล็งอีกอันที่อยู่ในมือคุณ
แกล้ง
(..)
รุยอ้ำอึ้ง แต่ก็กลัวถูกจับได้เกินกว่าจะลังเลอยู่นานกว่านี้ จึงรีบยื่นให้พร้อมกับรอยยิ้มแฝงความเว้าวอนเล็ก ๆ
"ก็ได้ครับ แต่สัญญานะว่าจะไม่บอกใคร" เหมือนจะทำหน้าจริงจังแต่กลัยดูเหมือนลูดหมากลัวถูกจับได้มากกว่า
“ล้อเล่นครับ”
มือดันคืนให้คุณ
ตั้งครึ่งชิ้นแถมคุณยังยกอันที่ใหญ่ให้อีก
“ไม่บอกใครหรอก”
“เธอชื่อ..?”
"ง—งั้นหรอกเหรอ" เจ้าตัวโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด
"ผมโมริฮิโระ รุย ปีหนึ่ง ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ" พูดจบก็เอียงคอเล็กน้อย นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองไปที่อีกฝ่าย
"แล้วคุณล่ะ?"
มองสีดำสนิทค้างนิดหน่อย
“โฮโจ อากิฮิโกะ ปีสองน่ะ .. โมริคุง?”
ยิ้มตาปิด ถึงท้ายประโยคจะไม่มั่นใจนิดหน่อย
“สนุกไหม ค่าย”
เริ่มเดินไปหาที่ร่ม ๆ นั่ง
พูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ขณะเดิมตามอีกฝ่ายไปหาที่ร่ม ๆ พักบ้าง
"ตอนแรกก็สนุก แต่พอยืนอยู่ที่เดียวนาน ๆ ก็ชักเบื่อนิดหน่อย อ้อ! ผมยืนโบกธงข้ามถนนน่ะครับ"
"แล้วรุ่นพี่ล่ะครับ ทำอะไรมางั้นเหรอ"
เขาที่เดินร้อนระอุมาอย่างโซซัดโซเซอยู่ๆก็มีคนยื่นของหวานที่มีไแเย็นมาให้ตรงหน้า
เขามองอีกฝ่ายลังเลอยู่ไม่น้อยแต่ก็เลือกงับส่วนเกินที่อีกฝ่ายหักจนขาด
และเอื้อมือไปหยิบแท่งที่มีส่วนน้อยกว่าของอีกฝ่ายมาแทน
"ขอบคุณ" กล่าวออกมาเรียบๆไม่หวือหวา
แต่ก็เอาอันที่โดนกัดไปก่อนหน้านี้เข้าปากตัวเองแบบไม่คิดมาก
"ดูเหนื่อย ๆ นะครับ ไปทำงานตรงไหนมาล่ะ"
เอ่ยทักขึ้นหลังจากสังเกตุคนตรงหน้าอยู่สักพัก
ใต้ผืนฟ้าสีคราม แดดทอแสงเจิดจ้าจนเรียกเหงื่อเกาะตามข้างแก้ม สายตาที่ดูจะสู้แสงแดดไม่ไหวก้มหน้ากะพริบลงเพื่อให้หยดน้ำกลิ้งตกลงไปลงบนผืนทรายขาวเม็ดละเอียด
เงยหน้าขึ้นอีกครั้งก็สบตาเข้ากับคนที่เคยพบกันโดยบังเอิญ แถมยังเผลอยื่นมือไปรับไอติมจากมืออีกฝ่ายด้วยสีหน้างงงวย
“ขอบคุณนะ...แต่ให้แท่งนี้กับผมจะดีเหรอ?”
มันได้เยอะกว่าอีกไม้เลยนะ
"ดีสิ ๆ ~" กล่าวขึ้นก่อนจะกัดไอศกรีมแท่งเล็กที่เหลืออยู่ในมือ
"แต่ถ้าถูกจับได้ อิบุกิซังต้องช่วยผมนะครับ"
แม้จะฟังคล้ายคำขอร้อง แต่ท่าทีและน้ำเสียงไม่ได้มีความจริงจังนัก หากแต่คล้ายหยอกล้อมากกว่า
“ผมเองก็รับสินบนมาแล้ว จะพยายามแก้ตัวให้แล้วกันน้า~”
แต่แก้ตัวขึ้นไหมก็ต้องดูว่าคนที่จับได้เป็นใครแหละ เรื่องนี้ต้องอย่าท้าพิสูจน์นัก
“ไปหาเจ้านี่มาจากตรงไหนเนี่ย?”
ถามถึงที่มาของกินในมือ เผื่อจะซื้อไปแบ่งให้เพื่อนตัวเองบ้าง
"เดินเข้าไปในซอยตรงนั้นจะเจอร้านขายของ คุณยายที่เป็นเจ้าของร้านใจดีมากเลยครับ"
"ผมโบกธงอยู่แถวนี้ ก็เลยเดินสำรวจจนเจอโดยบังเอิญน่ะ อิบุกิซังอยากได้อีกแท่งมั้ย?"
“โอ้...งั้นผมลองเดินไปสำรวจที่ทางบ้างดีกว่า ดูซิว่ามีอะไรน่ากินอีกมั้ย
บอกตามตรง ผมค่อนข้างอยากกินอีกนะ มันน่าจะมีรสที่เปรี้ยวๆ หรือไม่ก็กินแล้วสดชื่นหน่อย”
ที่พูดมาก็ส่วนนึงก็ส่วนนึง แต่ความจริงอีกอย่างคือเขาอยากออกหาเรื่องเดินเล่นต่ออีกหน่อยก็เท่านั้นเอง
"ห้ามขอคืนทีหลังล่ะ"เช็ดเหงื่อที่เปื้อนหน้าอยู่แล้วรับไอติมมา
"แบ่งขนมไม่เก่งเลยนะ"มองไอติมที่ขนาดไม่เท่ากันก่อนจะเริ่มกิน
"เจ้านี่มันแบ่งให้เท่ากันได้ด้วยเหรอ?" น้ำเสียงติดความสงสัยเพราะตั้งแต่เกิดมา 17 ปีก็ไม่เคยหักให้เท่ากันได้สักครั้ง
"ไม่เอาคืนหรอกครับ แต่ขอผมอู้งานต่ออีกนิดนะ" พูดพร้อมปาดเหงื่อบนหน้าผาก ใบหน้าแดงจากอากาศร้อนเป็นสัญญาณชัดว่าถ้าไม่ได้อะไรเย็น ๆ มาคลายร้อน เขาคงล้มพับเพราะลมแดด
"ก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดแล้วนี่
อย่าให้ใครมาเห็นเราแอบกินกันก็แล้วกัน"อาโออิเองก็ยังไม่อยากให้ใครตามกลับไปตากแดดร้อนๆ เหมือนกัน
"แล้วทำไมถึงซื้อแบบแบ่งได้มา?"ถ้าตัวเองไม่โผล่มาพอดีอีกฝ่ายจะกินคนเดียวเลยรึไงกัน
"พอแบ่งกันแล้วมันอร่อยกว่าเดิม แล้วก็เลือกมาแบบไม่รู้ตัวซะอย่างงั้น" ว่าจบก็กัดไอติมที่เหลืออยู่ไม่มาก
"ว่าแต่ รุ่นพี่มาทำอะไรแถวนี้ล่ะ" มองอีกฝ่ายด้วยเเววตาใสซื่ออย่างรอตอบ
"มาล่าเด็กอู้งาน"พูดเล่นด้วยสีหน้าเรียบนิ่งจนเหมือนจริงจังระกิน
"คนเก็บกวาดก็มีเยอะ จะมีคนหลบออกมาบ้างก็ได้นี่"ยังไม่อยากเป็นพวกทำงานจนฝืนสังขารตัวเองหรอก
"ก็เลยบอกไปไงว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดแล้ว"ชี้รุ่นน้อง
"ต—ตกใจหมด" ท่าทางยังไม่คลายตกใจดีแต่แฝงไว้ด้วยความโล่งใจ
"รุ่นพี่มาจากแถวหาดเหรอ แถวนั้นมีอะไรน่าสนใจบ้างมั้ยครับ"
"ผมมัวแต่โบกธงให้เด็ก ๆ ข้ามถนนเลยยังไม่ได้แวะไปชมหาดสักที" น้ำเสียงของเขาฟังดูอยากรู้อยากเห็น