"ฉันรู้สึกว่า การทำตัวให้คุ้นชินกับความกลัวไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ฉันมีความกลัวหลายอย่างที่ตัวเองยังชินกับมันไม่ได้ ฉันก็เลย..คิดว่านิชิโนยะซังเก่งมากๆ"
"ถามได้รึเปล่าคะ..? เรื่องที่คุณกลัว มากกว่าความสูงน่ะค่ะ"
"อะ แต่ถ้าไม่สะดวกจะตอบก็ไม่เป็นไรค่ะ"
"ถามได้รึเปล่าคะ..? เรื่องที่คุณกลัว มากกว่าความสูงน่ะค่ะ"
"อะ แต่ถ้าไม่สะดวกจะตอบก็ไม่เป็นไรค่ะ"
Comments
“…ผมไม่ได้เก่งหรอกครับ”
เขาหัวเราะเบา ๆ คล้ายจะกลบเกลื่อน
“แค่พยายามทำให้ตัวเองคุ้นชินกับมันเท่านั้นเอง”
เขาเบนสายตาออกไปด้านนอก หรี่ตามองวิวเมืองยามค่ำคืนจากบนชิงช้าสวรรค์
“…เรื่องที่กลัวมากกว่าความสูงเหรอครับ?”
+
“คงเป็น… การสูญเสียครับ..“
เสียงของเขาเบากว่าเดิมเล็กน้อย
“ผมคิดว่าตัวเองชินกับมันแล้ว แต่เอาเข้าจริง…ก็ยังคงกลัวอยู่ดี”
เขาเว้นช่วง ก่อนจะคลี่ยิ้มบาง ๆ ที่ดูเหมือนมีบางอย่างซ่อนอยู่
“แต่ก็นะ… ถึงจะกลัว แต่ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไปนี่ครับ..”
คำตอบที่ได้ยินทำให้เธอเบิกตากว้าง ด้วยความที่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยคำนั้นออกมา
รู้สึกราวกับมีบางๆอย่างกระแทกเข้าที่หน้าอกอย่างจัง ขณะที่เธอรับฟังอีกฝ่ายเอ่ยจนจบ ดวงตาสีกลีบบัวมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเป
"นั่นมัน..เหมือนกับ.."
หยดน้ำกลิ้งออกจากตา หยดลงบนหลังมือที่กุมไว้บนหน้าตัก
"..เอ๊ะ?"
เธอยกมือแตะที่แก้ม เหมือนไม่รู้ตัวว่าร้องไห้ออกมาตอนไหน
+
แต่น้ำตาก็ไม่หยุดไหลสักที
"คือว่า.."
ถึงอย่างนั้นก็ไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดออกไปยังไงดี จึงรีบยกมือบังหน้าไว้ก่อน
สังเกตท่าที มือที่ยกขึ้นปิดหน้า ความพยายามเช็ดน้ำตาออกอย่างลนลาน ราวกับไม่อยากให้เขาเห็น
เขาเบือนสายตาออกไปชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“…ไม่เป็นไรนะครับ”
“ถ้าคุณยังไม่อยากพูดตอนนี้… ก็ไม่เป็นไร”
เขาพูดด้วยโทนเสียงที่แผ่วเบาแต่มั่นคง แสดงออกถึงความเข้าใจ
"ฉันไม่อยากให้คุณเข้าใจผิด ..ว่าคุณทำให้ฉันร้องไห้ ไม่อยากให้คุณไม่สบายใจน่ะค่ะ.."
ถึงจะรู้ว่าพูดไปอาจไม่ได้ช่วยอะไร แต่เธอเองก็ไม่อยากให้เขาเข้าใจไปในทิศทางนั้น
พอสงบใจได้ เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้น ใต้ตายังมีรอยแดงอยู่เล็กน้อย ดวงตาไหววูบไปครู่หนึ่ง
+