"..การทำตัวให้ชินกับความสูญเสียไม่ใช่เรื่องง่าย.. สำหรับฉันแล้ว ฉันเองก็จัดการความกลัวในเรื่องนั้นไม่ได้เลยค่ะ"
"การตื่นมาโดยที่รู้ว่าไม่มีสิ่งสำคัญอยู่กับเราอีก แล้วก้าวเท้าเริ่มแต่ละวันด้วยความรู้สึกนั้นมันยากลำบากจริงๆ
..แค่พยุงตัวลุกขึ้นมาได้ ก็สุดยอดมากแล้วค่ะ"
เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง พลางคลี่ยิ้มบางๆ
+
"การตื่นมาโดยที่รู้ว่าไม่มีสิ่งสำคัญอยู่กับเราอีก แล้วก้าวเท้าเริ่มแต่ละวันด้วยความรู้สึกนั้นมันยากลำบากจริงๆ
..แค่พยุงตัวลุกขึ้นมาได้ ก็สุดยอดมากแล้วค่ะ"
เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง พลางคลี่ยิ้มบางๆ
+
Comments
"ถึงจะแก้ไขความจริงที่การสูญเสียมันน่ากลัวไม่ได้ ..แต่ก็ทำให้รู้ว่า ไม่ได้มีแค่เราที่เผชิญหน้ากับความกลัวแบบนี้อยู่คนเดียว"
"การรับรู้ว่ามีผู้คนที่เจอแบบนี้เป็นเพื่อน อาจจะ..ช่วยให้ก้าวต่อไปได้ในระดับนึง ละมั้งคะ?"
“…ใช่ครับ”
ทาคุมิเอ่ยเสียงแผ่ว คล้ายกับกำลังทบทวนบางอย่างในใจ
“ผมเองก็ยังรับมือกับมันได้ไม่ดีนักหรอก”
เขาเผลอกำมือแน่นขึ้นเล็กน้อย โดยไม่รู้ตัว
“แต่…ถ้ามีคนที่เข้าใจ แม้จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรได้ทั้งหมด แต่ก็คงช่วยให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเกินไปจริง ๆ”
+
“…ขอบคุณนะครับ โมริสึกิซัง”
"ฉันเองก็เคย.. ต้องรับมือกับความสูญเสียเหมือนกัน.. จนถึงตอนนี้ก็ไม่คิดว่าตัวเองจัดการได้ดีเท่าไหร่" เธอยิ้มบางๆพลางหลุบตาลง
"..ฉันอาจ..ไม่ใช่เพื่อนที่คุณวางใจด้วย หรือช่วยอะไรไม่ได้มากนัก แต่ฉันก็ไม่อยากให้คุณแบกรับความเจ็บปวดนั้นด้วยตัวคนเดียว..น่ะค่ะ"
"ขอโทษที่ฉันถามอะไรไม่ดีออกไปด้วยนะคะ"
“…คุณไม่ได้พูดอะไรไม่ดีหรอกครับ”
เขาตอบกลับเสียงเรียบ แต่ในน้ำเสียงนั้นมีความนุ่มนวลเล็กน้อย
“และ… ผมก็ไม่คิดว่าคุณช่วยอะไรไม่ได้”
“…ผมเองก็ยังจัดการกับมันไม่ได้เหมือนกัน”
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเบนสายตากลับไปมองท้องฟ้าอีกครั้ง
+
เป็นอีกครั้งที่ริมฝีปากของเขาคลี่ยิ้มบาง ๆ ออกมา แม้จะจางราวกับหมอกจางในฤดูหนาว แต่ก็มีความอบอุ่นเจืออยู่ในนั้น