#ESRA_Roleplay (โรลเปิด|แยกรูท)
[𝟭 𝗙𝗲𝗯. 𝗖𝗲𝗹𝗲𝘀𝘁𝗶𝗮𝗹 𝗕𝗹𝗼𝘀𝘀𝗼𝗺𝘀|06.30 น.]
อากาศยามรุ่งอรุณสดใสเย็นสบาย กำลังพอเหมาะกับการนั่งเล่นพักผ่อนก่อนเข้าวิชาเรียนยามเช้าตามตารางเวลา
ทำให้ [คุณ] ตัดสินใจมาเดินเล่น ณ สวนหลังสถาบัน จนมาพบกับบุตรไวเคานต์ท่านนึงกำลังปักร้อยผ้าอยู่อย่างสงบโดยไม่ทันเห็นบุคคลซึ่งเดินผ่านมา ราวกับว่ากำลังตั้งใจทำสิ่งสำคัญอยู่
ทักทายหน่อยมั้ย?
[𝟭 𝗙𝗲𝗯. 𝗖𝗲𝗹𝗲𝘀𝘁𝗶𝗮𝗹 𝗕𝗹𝗼𝘀𝘀𝗼𝗺𝘀|06.30 น.]
อากาศยามรุ่งอรุณสดใสเย็นสบาย กำลังพอเหมาะกับการนั่งเล่นพักผ่อนก่อนเข้าวิชาเรียนยามเช้าตามตารางเวลา
ทำให้ [คุณ] ตัดสินใจมาเดินเล่น ณ สวนหลังสถาบัน จนมาพบกับบุตรไวเคานต์ท่านนึงกำลังปักร้อยผ้าอยู่อย่างสงบโดยไม่ทันเห็นบุคคลซึ่งเดินผ่านมา ราวกับว่ากำลังตั้งใจทำสิ่งสำคัญอยู่
ทักทายหน่อยมั้ย?
Comments
“ หากไม่เป็นอันรบกวนของเธอมาก จึงขอทายทักค่ะ “
นางฮวากล่าวอย่างสุภาพก่อนที่สายตาเลื่อนไปมองยังผ้าปักของหญิงสาวตรงหน้าทันใด
" อรุณสวัสดิ์ค่ะ ฟงเซียน "
" ไม่รบกวนมากมายอะไรค่ะ เชิญ "
พาฟีเลียกล่าวด้วยเสียงเรียบเฉยตามแบบฉบับของเจ้านาง ก่อนแปรมือข้างที่ประคองเข็มไว้ไปทางม้านั่งข้างตัวเป็นนัยว่าอนุญาตให้นั่งร่วมกัน
วันนี้พัฟบอลของหล่อนยังนอนพักอยู่ในหอนอน จึงไม่คิดจะรบกวนเจ้าก้อนขนให้มาด้วยกัน
“ ปักผ้าอยู่หรือคะ “ แม้จะรู้คำตอบแก่ใจ
ดูไปก็คลับคล้ายคลับคลากับแมวอยากรู้อยากเห็น
" ค่ะ..เป็นของฝากให้ท่านแม่หลังปิดภาคเรียน " นางว่าพลางปักผืนผัาต่อ สิ่งที่กำลังปักคือดอกคามิเลียสีขาว และจากขนาดผ้าคงเตรียมไว้ปักดอกอื่นๆ เพียงว่าคามิเลียนั้นใหญ่กว่าอละอยู่ใจกลาง
" ฉันมักจะปักดอกไม้แรกที่เห็นกับดอกอื่นๆ ไปให้ท่านทุกปี "
ท่าทางที่ดูตั้งใจของเธอช่างดูประณีตและสง่างามนัก เอาซะเขาต้องครุ่นคิดเลยว่าจะเข้าไปชวนคุยดีไหม แต่สุดท้ายก็อยากทักทายเสียหน่อย
"อรุณสวัสดิ์ครับ เลดี้"
"ขยันแต่เช้าเลยนะครับผม"
พาฟีเลียเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของน้ำเสียงทักทาย พบว่าเป็นเพื่อนร่วมจึงลดกรอบสะดึงลงแปรมือทาบอกโค้งหัวลงเล็กน้อย
" อรุณสวัสดิ์ค่ะ..ริชมอนด์ "
" วันนี้ตื่นเช้าหรอคะ " นางโน้มตัวขึ้นก่อนมองสิ่งที่เขาว่า 'ขยัน'
" แค่งานอดิเรกก่อนเข้าเรียนค่ะ..ไม่ได้มากมายอะไร " มือนุ่มเริ่มปักเข็มลงบนผ้าต่อ
"ไม่ต้องมากพิธีหรอก ยังไงเราก็เพื่อนร่วมชั้นกันนี่นา"
"นอนไม่หลับน่ะ ก็เลยออกมาเดินเล่น งานอดิเรกเหรอ? แต่เธอดูช่ำชองมากเลยนะ"
เขาพูดด้วยเสียงสบายๆ ก่อนจะถือวิสาสะนั่งด้วย แต่เว้นระยะให้เหมาะสม
สำหรับเธอการแสดงความเคารพเล็กน้อยก็ถือว่าเป็นเครื่องป้องกันตัวระดับนึง แต่ก็เพราะโดนสอนมาด้วยจึงเป็นนิสัย
" ค่ะ..ฉันทำทุกปีของการเปิดเรียนวันแรก "
" เป็นของฝากให้ท่านแม่ " นางปรายตามองสิ่งที่กำลังปักอย่างปราณีต
" หากนอนไม่หลับลองแช่น้ำอุ่นก่อนนอน อาจช่วยได้นะคะ "
"ฉันเองก็อยากลองทำบ้างจัง เธอพอจะสอนฉันบ้างได้มั้ย?"
หากอีกฝ่ายต้องการแบบนั้นเขาก็ไม่ขัดข้อง เจ้าตัวนั่งมองอย่างสนใจ หากทำแบบเธอบ้าง ท่านแม่เขาจะประทับใจมั้ยนะ
"ฉันจะลองนำวิธีของเธอไปใช้ดูละกัน"
พอวินซ์อยากลองทำเธอจึงยอมวางมือจากของที่ทำอยู่ ไปหยิบอุปกรณ์สำรองข้างตัวขึ้นมาเอาผ้าขึงสะดึงให้แน่นไม่หย่อน เป็นผ้าลายปักตรงซึ่งเป็นพืันฐาน และหยิบเข็มมาสอดด้ายสีส้มมัดปมให้เรียบร้อยแล้วยื่นให้
"เวลาปักให้ปักจากข้างใต้ขึ้นมาข้างบน เพราะฉะนั้นระวังมือด้วยนะคะ"
"ปักจากจุดนอกสุดของดอกไม้ ดึงให้ด้ายตึงแล้วปักลงบนจุดในสุด" เธอชี้
(ตย.ภาพประกอบ🤲)
ดวงตาสีมรกตเหลือบมองไปพบสาวที่กำลังปักร้อยผ้าอยู่ ก่อนเพ่งพินิจใบหน้า จึงพบว่าเป็นเพื่อนร่วมห้องที่คุ้นตามานาน จึงเดินเข้าไปทักทายเสียงใส
"สวัสดีค่ะ คุณพาฟีเลีย ฉันขอเข้ามานั่งด้วยได้ไหมคะ?"
" ยินดีค่ะ เชิญ " เสียงนุ่มสุขุมของหญิงสาวว่าพลางโน้มนั่งตรงและปรายมือลงข้างตัวเชื้อเชิญให้นั่ง
" วันนี้ตื่นเช้าหรอคะ " สำหรับเธอมันเป็นเวลาที่ดี..แต่สำหรับคนอื่นอาจจะเช้าเกินไปก็ได้
"ปักผ้าหรอคะ...ฮื้อ" ดวงตาสีเขียวมรกตเปล่งประกายขึ้นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น เธอก็ปักผ้าเป็นเหมือนกัน "ปักได้สวยมากเลยค่ะ ✨ ดูปราณีตมากๆ จะปักเป็นอะไรหรอคะ?"
"ใช่ค่ะ.." ฟาเลียว่าพลางทอดสายตามองสิ่งบนตัก มันเพิ่งเริ่มได้แค่ตัวกลีบดอกไม่กี่กลีบเท่านั้นจากที่ร่างเอาไว้
"ดอกคามิเลียสีขาวค่ะ เป็นดอกไม้ดอกแรกที่ฉันเห็นในรั้วโรงเรียน..จะเอาไปฝากท่านแม่ทุกปี"
"ถ้าคุณอยากปักด้วยจะใช้อันสำรองข้างๆ ฉันก็ไม่ว่าอะไรนะคะ ฟลัวร์ริเซีย"
"ถ้าไม่รังเกียจ เรียกฉันว่าชาร์ลีนได้เลยนะคะ ละก็ ถ้าไม่รบกวน...ฉันขอนะคะ" มือเรียวหยิบผ้าปักอันสำรองก่อนที่จะคิดว่าตัวเองอยากทำอะไรดี
"หื้ม...ดอกอะไรดีน้า..." พืมพำเสียงเบาพลางคิดไปด้วย
คามิเลียหนุ่มก้าวขายาวอย่างเงียบงันลอบเข้าใกล้หญิงสาวจากด้านหลัง‘ ก่อนเอ่ยกล่าวทักทายด้วยเสียงนุ่มนวล
“ เลดี้ ”
"อึก-!" เนตรสวยหยีลงข้างนึงเพราะความเจ็บแต่มันก็เพียงนิดเพราะไร้โลหิตออกมา จึงละมือลงแล้วหันไปมองคนหลังพฤกษา
"ท่านชาย..ทำข้าตาตื่นได้ดีทีเดียว" นางกล่าวหยอกล้อ สีหน้านั้นเรียบนิ่งทว่าสายตาบ่งบอกว่ามิได้ถือสาที่เจ้าตัวโผล่มาเช่นนี้
“ ข้าขอโทษครับ ” ใบหน้าเศร้าหงอยเผยชัดเจน หากมีหูหางคงลู่ตกลงคล้ายสุนัขขาวทรงเลี้ยง, นึกโล่งใจอยู่บ้างเมื่อมองไล่ชัดแล้วไร้โลหิต
“ ข้าไม่ควรเลย ”
ความรู้สึกผิด
เด่นชัดบนนัยน์ตาสองคู่นี้.
"แคลคะ..ฉันไม่เป็นไร"
"คุณแค่เล่นเอง ฉันไม่ถือสาหรอกค่ะ" มือวางกรอบสะดึงลงบนตักก่อนเลื่อนมือลูบข้างแก้มของใบหน้าเศร้าสร้อยหวังปลอบโยน แล้วละวางลงข้างตัว เป็นการเชื้อเชิญทางอ้อมให้นั่งร่วมกัน
"รังเกียจมั้ยคะ?" ฟาเลียเอียงคอคลี่ยิ้มให้อ่อนๆ
วิลเฮลมิน่าที่กำลังเดินเล่นไปมาก็ดันมาเจอใครสักคน เธอกำลังนั่งปักผ้าอยู่อย่างเงียบสงบ ริมฝีปากวาดรอยยิ้มจางๆ
จะทักทายดีมั้ยนะ
“หากไม่เสียมารยาท ฉันขอดูหน่อยได้มั้ยคะ” เธอเอ่ยถามความสงสัยที่ก่อเกิดกับลายผ้าปักของหญิงสาว
" อรุณสวัสดิ์ค่ะ โคซิโม "
" ฉันอนุญาตให้ดูค่ะ เพียงว่าคุณจะจับต้องไม่ได้..ฉันตั้งใจให้มารดาจับต้องผ้าผืนนี้เป็นคนแรก "
นางกล่าวด้วยท่าทีสงบ ลมเย็นพัดผ่านล้อเกี่ยวกับเกศาให้พริ้วระแก้มนวล ก่อนผายมือที่ว่างข้างๆ ให้นั่งและมีกรอบสะดึงสำรองกับอุปกรณ์อื่นอยู่ด้วย ถ้าจะหยิบมาใช้ก็ไม่ว่า
" หากมิรังเกียจ "
อืม…
จำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“ฉันไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนี้มานานแล้วค่ะ” เธอเอ่ยยามที่หย่อนกายลงนั่งข้างๆ บุตรีไวเคานต์ มือที่สวมถุงมือทั้งสองบรรจงถอดออก ก่อนที่เธอจะหยิบอุปกรณ์ขึ้นมาจ้องมอง
ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าเธอทำมันไม่ได้
”เหตุใดจึงมาอยู่ตรงนี้คนเดียวกัน เลดี้?“
" หรือไม่อย่างนั้นฉันจะช่วยพาทำ "
พาฟีเลียลดมือกลับมาที่เข็มของตนพร้อมลงปักผ้าลายดอกคามิเลียต่อจากที่ค้างคาเอาไว้ ลวดลายประณีตพิถีพิถันราวช่ำชองมานานหลายปี
" ฉันชอบบรรยากาศเย็นๆ ช่วงเช้าค่ะ..แสงแดดอ่อนไม่แรงจนเกินไป "
" ที่สวนหลังก็เงียบสงบด้วย ฉันไม่ชอบที่คนพลุกพล่านน่ะค่ะ "
" องค์หญิงล่ะคะ? "
ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะปักอะไรดี ถึงอย่างนั้นเธอก็ปล่อยให้มือของเธอขยับไปตามดั้งใจนึก
“งั้นหรือ“ เธอฮึมฮัมในคอเบาๆ พลางฟังอีกฝ่ายเอ่ยพูด
”แค่เดินผ่านมาน่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่แถวนี้“ หญิงสาวไหวไหล่เล็กน้อยยามที่ตอบคำถามของบุตรีไวเคานต์ข้างๆ
"ที่บอกว่าเดินผ่าน..จุดหมายจะไปที่ไหนหรอคะถึงผ่านมาทางนี้?"
เธอนึกสงสัยเพราะว่าสวนหลังโรงเรียนต้องเดินผ่านอาคารทั้งเข้าและออก แล้วนางก็ไม่ได้อยู่ไกลจากทางเข้าออกแบบปลีกวิเวกซะด้วย บังเอิญเห็นตนเข้าล่ะมั้ง..
เมื่อเราเห็นท่านหนังสือกฎหมายในมือก็ถูกปิดลงเสียแทบทันที
“อรุณสวัสดิ์ ท่านหญิง”
ร่างสูงก้าวเข้าหาท่านหญิงเลอโฉมพลางเอ่ยทักทาย
“ดูท่านกำลังเพลิดเพลินมากเลยทีเดียว..”
“หากมิเป็นการรบกวนท่านมากนัก เราขอร่วมนั่งกับทานได้หรือไม่”
ดวงตาผีเสื้ออันเป็นเอกลักษณ์เจ้านางเปรยมองสาวเจ้าเรือนผมสีฟ้า พลันพบว่าเป็นผู้ใดจึงละมือข้างนึงจากเข็มระนาบเนินอกโค้งหัวทักทาย
" อรุณสวัสดิ์เช่นกันค่ะ องค์หญิงเนฟิลอส " สิ้นการคำนับจึงโน้มกายนั่งตัวตรงตามเดิม
" ถูกต้องอย่างที่เห็น ฉันมักเพลิดเพลินกับงานอดิเรกอยู่เสมอค่ะ "
" แน่นอนค่ะองค์หญิง..เชิญ " นางกรีดปลายนิ้วเชิญลงข้างกาย
" อ่านสิ่งใดอยู่ฤาคะ "
ศีรษะโน้มลงบางเบาพลางเอ่ยขอบคุณ เรานั่งลงข้างเพื่อนร่วมรุ่นจัดชุดเสียจนเข้าที่jเรียบร้อย
"ประมวลกฎหมายเอลโวเรียน่ะ"
"เราคิดว่ายังไงก็ควรที่จะศึกษาเอาไว้"
หน้าปกหนังหนังสือเล่มหน้าหันไปหาผู้เอ่ยถามก่อนวางมันกลับลงบนตัก
"แล้วท่านหญิงล่ะ กำลังปักสิ่งใดอยู่...งามมิน้อยเลย"
สายตามองอย่างสนอกสนใจ ตัวโน้มเข้าหาเล็กน้อยมิใกล้จนน่าเกลียด
"ประมวลกฎหมาย..อ่านสิ่งนั้นในยามเช้าได้ น่านับถือนะคะ"
หล่อนยกมือข้างนั้นดึงกระชับผ้าคลุมสีฟ้าอ่อนขึ้นคลุมกายบดบังจากแรงลมในอรุณ พลันกายนั้นโน้มมาพร้อมคำถาม จึงยื่นให้พอดูออก
"ของขวัญให้ท่านแม่น่ะค่ะ"
"ดอกคามิเลียขาว ดอกไม้แรกที่ฉันพบในเปิดเทอมแรก"
“เรารู้สึกกระปี้ประเป่าเวลาได้อ่านหนังสือเพียงเท่านั้น”
พลางว่ามือหน้าจริงไล้ไปตามตัวอักษรของหน้าสือบนหน้าปก ใบหนน้าผินไปหาสิ่งที่สาวงามยื่นมาให้ เราเชยชมสิ่งนั้นอยู่ครู่หนึ่งด่อนเอ่ยต่อ
“ท่านแม่ของท่านต้องประทับใจกับของขวัญชิ้นนี้เป็นแน่ท่านพาฟีเลีย” ของขวัญที่ทำด้วยใจมักมีคุณค่าทางใจกับผู้รับเสมอ "ขออภัยหากละลาบละล้วงท่าน แต่ดอกคามิเลียสีขาวนั้นมีความหมายใด เป็นพิเศษหรือไม่”
ในขณะที่กำลังอิ่มเอมไปกับบรรยากาศโดยรอบพลันสายตาก็มองเห็นคนคุ้นเคย แววตาประกายวับขึ้นอย่างไม่ปิดบัง ก่อนย้ายตัวเองเข้าไปหาอีกฝ่าย
ชะงักเล็กน้อยเพราะเห็นว่าเพื่อนสนิทตนดูจะตั้งอกตั้งใจกับสิ่งที่กำลังทำอยู่จึงเลือกที่จะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆอย่างช้าๆแทน
“วันนี้อากาศดีจังเลยเนอะ”
"อืม..ฉันนึกว่าต้องไปปลุกเธอตอนไปหาบับบี้แล้วซะอีกนะคะ"
"อากาศดีเลยออกมาเดินเล่นหรอคะ?"
เธอหัวเราะคิกคักออกมาเบาๆ ก่อนยกยิ้มสดใสส่งให้กับเพื่อนสาวคนสวย
“อื้อ วันนี้อากาศดีก็เลยอยากออกมาเดินเล่นรับบรรยากาศดีๆสักหน่อยน่ะค่ะ”
เอลิเซ่กล่าวพลางเอียงคอไปดูสิ่งในมือของอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนยกยิ้มอย่างมีเลศนัย
“สิ่งนี้... ทำให้เขาหรือคะ?”
"..คะ?" พาฟีเลียปริบตางุนงงเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงมองสิ่งที่ทำพลันแก้มอุ่นรู้สึกร้อนขึ้นมา
"ให้ท่านแม่ต่างหากค่ะ" หญิงสาวซึ่งมักมีสีหน้าเรียบเฉยเกิดขมวดคิ้วอ่อนๆ เขอะเขินขึ้นมาซะงั้น
"อะไรทำให้คิดแบบนั้นคะ เอลี่..?"
คงเพราะจะยังไม่คุ้นชินกับที่นอนใหม่ หรือความตื่นเต้นที่ได้นอนห้องเดียวกับพวกท่านพี่ ทำให้กาลาดริเอลล่า ริเวท วาเลสทรา จิตใจไม่สงบพอที่จะออกมาเดินทำใจในสวน
และเป็นตอนนั้นเองที่เธอเห็นหญิงสาวอีกคนที่มานั่งทำอะไรลับๆ ล่อๆ และด้วยความอยากใส่ใจจึงเดินเข้าไปหาคำตอบ
“ขอโทษค่ะ ดิฉันเกือบจะนึกว่าเป็นผีประจำโรงเรียนตนไหนมานั่งดักคนอยู่ซะอีก
แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่”
" ฉันไม่คิดว่านั่นเป็นคำทักทายที่ดีสำหรับคนที่ไม่เคยเจอหน้ากันนะคะ " เสียงนุ่มทว่าสุขุมเอ่ยตอบก่อนจะทอดสายตามองที่อกเสื้ออีกฝ่าย
" สำหรับรุ่นน้อง "
" อรุณสวัสดิ์ "
“ตายจริง นั่น—-คงจะต้องขออภัยด้วยที่การรักษามารยาทอันดีไม่ใช่จุดแข็งของเรา”
เธอเริ่มดึงชายกระโปรงทำท่าถอนสายบัวตามแบบแผน
“นามของเราคือกาลาดริเอลล่า ริเวท วาเลสทรา เจ้าหญิงแห่งเร็กซ์วาเลสทรา”
ลุกขึ้นมายืนปกติแล้วผายมือไปยังผ้าปักในมือ
“ขอให้ท่านรุ่นพี่อย่าได้หยุดมือจากสิ่งที่ทำอยู่เลย เพราะเราเองก็กำลังสนใจว่ามันจะออกมาเป็นอะไร”
" เช่นนั้นคุณคงต้องเรียนรู้อีกมากในรั้วโรงเรียน องค์หญิง " นางกล่าวว่าจบจึงเปรยมือขึ้นทาบกลางอกพร้อมโค้งศีรษะลงตอบแทนการถอนสายบังที่เจ้านางทำไม่ได้ขณะนั่งอยู่
" พาฟีเลีย เมลิโอร่า เมลันทาเธีย บุตรีไวเคานต์ค่ะ " กายสง่าโน้มตัวขึ้น
" หากสนใจเพียงนั้น ลองด้วยตัวเองดีฤาไม่? " นางแปรมือไปที่ข้างตัวอันมีที่ว่างสำหรับอีกคนพร้อมอุปกรณ์สำรอง
“เราเองก็หวังว่าโรงเรียนจะทำได้ดีกว่าที่บ้านเราในเรื่องนั้นอยู่ค่ะ”
นั่งลงไปที่ว่างข้างๆ พยามยามเว้นช่องว่างไว้พอสมควร
“ถ้าไม่เป็นที่รังเกียจจนเกินไป ขอดิฉันนั่งดูเฉยๆ ก็พอแล้วล่ะค่ะ มิสเมลันทาเธีย
…แล้วนี่มันก็ยังเช้าเกินไปสำหรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ด้วย”
เธอป้องปากหาว ปรายตามองอุปกรณ์สำรองนั่นอีกหน
“มันเรียกว่า ‘โคเชตต์’ รึเปล่านะคะ?”
" ไม่ใช่ค่ะ..องค์หญิง โครเชต์ คือการถักไหมพรมให้เป็นผืนหรือตุ๊กตา และใช้ตะขอ "
" สิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่คือการปักผ้าค่ะ การใช้ด้ายและเข็มในการเย็บปักผ้าให้เป็นรูปร่าง " ฟาเลียกล่าวพลางลงเข็มปักรูปที่ตนทำค้างเอาไว้อยู่
" เมื่อคืนนอนดึกรึคะ "