"อย่างนี้แสดงว่า คิโนชิตะซัง ก็มีความสุขกับการทำงานศิลปะสินะคะ เซนเซย์คิดว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีนะคะ"
"แล้ว..พอจะเล่าปัญหาสุขภาพให้เซนเซย์ฟังได้มั้ยคะ? สะดวกใจมั้ย? หรือว่ามีอะไรที่อยากจะคุยกับเซนเซย์บ้างรึเปล่า"
เพราะคิดว่าบางที เธอมิอาจคาดเดาว่าเด็กคนนี้จะมีความสุขกับที่เป็นอยู่แล้ว หรือว่ามีส่วนหนึ่งในใจที่ก็อยากจะเล่นกีฬาบ้าง
"แล้ว..พอจะเล่าปัญหาสุขภาพให้เซนเซย์ฟังได้มั้ยคะ? สะดวกใจมั้ย? หรือว่ามีอะไรที่อยากจะคุยกับเซนเซย์บ้างรึเปล่า"
เพราะคิดว่าบางที เธอมิอาจคาดเดาว่าเด็กคนนี้จะมีความสุขกับที่เป็นอยู่แล้ว หรือว่ามีส่วนหนึ่งในใจที่ก็อยากจะเล่นกีฬาบ้าง
Comments
เพราะแบบนั้น คาบพละส่วนมากเธอถึงนั่งอยู่ริมสนาม นั่งเหม่อลอย ไม่ก็วาดรูป
“แต่นอกเหนือจากนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ เอ่อ ก็มีนิดหน่อยค่ะ อย่างเรื่องค่าข้าว…“
เธอก้มมองเข่าตัวเอง นึกถึงเงินจากผู้ปกครองที่เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ ตามเดือนที่ผ่านไป
บางครั้ง สำหรับบางคน ความบกพร่องทางกายอาจจะกลายเป็นปมด้อยในใจได้ เป็นเรื่องอันตรายที่จะต้องระวังทั้งจากการชวนคุยก็ดี เรื่องใดๆก็ดี..
อย่างน้อยแล้ว...ในตอนนี้ที่เด็กน้อยกล่าวว่าไม่มีปัญหาใดๆนอกจากเรื่องค่าข้าว....นี่ก็เป็นเรื่องน่าเป็นห่วงอีกเรื่องหนึ่ง
+
"กะ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะ? ฐานะทางการเงินที่บ้านไม่ค่อยดีเหรอคะคิโนะชิตะซัง?"
ไรระนั่งตัวตรงขึ้นมา พยายามปะติดปะต่อความทรงจำ
”จำได้แค่ว่าวันหนึ่งหนูก็มาอยู่ที่เมืองนี้แล้วค่ะ ไม่รู้ว่าผู้ปกครองเป็นใคร แต่เขาจะส่งเงินมาให้ทุกเดือนค่ะ“
แววตาไม่ได้ดูเศร้าสร้อย เธอพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ
”เรื่องของเรื่องคือ เอ่อ เงินของแต่ละเดือนค่อยๆลดลงน่ะค่ะ…“
เรื่องแบบนี้ แต่ทว่าแววตานั้นกลับดูเป็นปกติ การตัดสินใจจะทำยังไงดี...เอ่ยไถ่ถามถึงความรู้สึก หรือกล่าวพูดไปตามนั้นว่าใม่ใช่เรื่องที่คิดมากอะไร ทุกอย่างล้วนมีผลลัพท์
"เพราะอย่างนั้นแล้ว คิโนะชิตะซังถึงต้องทำงานพิเศษไปด้วยสินะคะ"
คางเกยมือตัวเองประสานกัน มองดูแล้วเด็กคนนี้เก่งมากๆเลย..
อาหารที่อาจารย์สั่งตามมาทีละอย่างสองอย่าง วางบนโต๊ะเล็กๆ จนแทบล้น ไรระเหลือบมองโต๊ะสลับกับคนตรงหน้า
ตอนนี้กินได้แล้วหรือยังนะ…