#KMI_Nyugakushiki
#KMI_เปิดโรล
โรลเปิด | แยกรูท | 9:30น.
ณ วันเปิดภาคเรียน
มีเด็กสาวคนหนึ่งที่ดูแล้วไม่คุ้นกับโรงเรียนใหม่ซักเท่าไหร่ได้เอาแต่คิดและสงสัยว่า
‘ฉันควรไปที่ไหน…? ใครซักคนช่วยด้วย…ฉันไม่รู้คนเยอะจริงๆ’
หรือเธอจะหลงทางกันนะ แต่เธอก็ไม่มีไอเดียอยู่ดีว่าควรไปที่ไหนดีในเมื่อรอบข้างก็เต็มไปด้วยนักเรียนปี1มากมาย แต่เธอก็ไม่กล้าเข้าไปทักถามใครอยู่ดี…
(+ได้ค่ะ❤️🩹)
#KMI_เปิดโรล
โรลเปิด | แยกรูท | 9:30น.
ณ วันเปิดภาคเรียน
มีเด็กสาวคนหนึ่งที่ดูแล้วไม่คุ้นกับโรงเรียนใหม่ซักเท่าไหร่ได้เอาแต่คิดและสงสัยว่า
‘ฉันควรไปที่ไหน…? ใครซักคนช่วยด้วย…ฉันไม่รู้คนเยอะจริงๆ’
หรือเธอจะหลงทางกันนะ แต่เธอก็ไม่มีไอเดียอยู่ดีว่าควรไปที่ไหนดีในเมื่อรอบข้างก็เต็มไปด้วยนักเรียนปี1มากมาย แต่เธอก็ไม่กล้าเข้าไปทักถามใครอยู่ดี…
(+ได้ค่ะ❤️🩹)
Comments
หันกลับมาพอเด็กหญิงร่างสูงใบหน้าดูดุ สายตาที่เรียวคมสบเข้ากับอีกฝ่าย ก่อนเธอจะเอ่ยถามขึ้น
"เป็นอะไรรึเปล่า? ตัวสั่นยังกับหาทางออกจากวงกตอุนไกเคียวไม่ได้น่ะ"
[อุนไกเคียว โยวไคที่ดึงคนเข้าไปในกระจก ถ้าจิตไม่แข็งพอจะกลับออกมาไม่ได้]
คำเปรียบเปรยนี่ช่างดูแปลก
“???”
“โอ้ คือว่า..ฉันต้องไปลงทะเบียนที่ไหน?”
แต่ก็ทำหน้างงๆอยู่ว่าอุนไกเคียวคืออะไรน้อ ไม่เคยได้ยินเลย
"ฉันว่างพอดี เดี๋ยวพาไป"
เด็กสาวร่างสูงค่อยๆเดินนำ อีกฝ่ายไปยังจุดลงทะเบียน
“คนก็เยอะเหมือนกันนะเนี่ย..”
และเมื่อเธอนึกขึ้นได้
“แล้ว..ฉันจะรู้ได้ไงว่า อยู่ห้องไหน”
ตายจริง เธอยังไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ห้องอะไรกัน คงต้องรบกวนอีกฝ่ายซะแล้ว—
เธอชี้บอกอีกฝ่าน มองห่างออกไปไม่ไกลก็พบกลุ่มนิฮงจินมุง ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกว่ากระดานอยู่ตรงนั้น
"น่าจะเคยหาชื่อตัวเองนะ ทำเหมือนตอนเข้า ม.ต้นนั่นแหละ เดี๋ยวฉันจะรออยู่ตรงนี้ก็แล้วกัน"
“คุณรอฉันไว้นะคะ อย่าไปไหน”
เธอค่อยๆตะเกลี่ยตะกลายเดินเข้าไปกลางมุงเบียดๆเยียดๆ อั้ก….
ใช้สายตาอันดีเลิศ(?)มองหาชื่อตัวเองอยู่ซักพัก
‘เริ่มจากตรงกลางดีกว่า..แล้วท้ายๆ..’
‘หืมไม่เห็นแฮะ หรือว่าจะ..’
‘!!’
เธออึ้งอยู่ซักพัก เพราะว่าเธออุตส่าห์ตั้งนานสรุปว่าอยู่ที่ต้นๆซะงั้น
‘เจอแล้ว..’
มุดๆเดินกลับมามองหาหญิงสาวสุดเท่คนนั้น
เขาเห็นเด็กสาวคนหนึ่งท่าทีคล้ายกำลังหลงทาง คาดว่าเธอคนจะอยู่ปี1เช่นเดียวกับคนตึงได้เดินเข้าไปหา
"สวัสดีครับ ผมอยู่ปี 1 กำลังจะเข้าไปที่หอประชุมสนใจไปด้วยกันไหมครับ"
เขาเอ่ยอย่างเป็นมิตรพร้อมรอยยิ้ม
“เอ๋..คุณจะพาไปหรอ ถ้างั้นก็ รบกวนด้วยนะคะ!“
หลังจากพูดเสร็จก็ก้มลงแบบลนๆ และคิดในใจ
‘มีคนมาช่วยแล้ว!! เป็นเกียรติจริงๆ‘
ระหว่างนั้นมีแรงสะกิดเบา ๆ จากด้านหลังของอีกฝ่าย — โนโซมิยิ้มและยกมือขึ้นมาทักทายเมื่อคนตรงหน้าหันมา
“ โอ๊ะ- เธอเองก็อยู่ปี 1 ใช่ไหม ? ใกล้เวลาลงชื่อเข้าหอประชุมแล้วนะ ไม่ไปเหรอ ? ”
ว่าจบก็ชี้ไปที่โรงยิมที่อยู่ไม่ไกล
“อ่ะ เอ่..โอ้ ใช่แล้ว ไปทางนั้นงั้นหรอขอบคุณนะคะ!”
เธอกำลังเดินไปแต่ก็เกือบถามชื่ออีกฝ่ายไปซะสนิท จึงหันกลับไป
“ว่าแต่..คุณคือ?”
“ ฉันเองก็อยู่ปี 1 ล่ะ ไปด้วยกันเถอะ ! ”
พูดจบเจ้าตัวก็จับแขนเสื้อของอีกฝ่ายและดึงเบา ๆ ให้เดินไปด้วยกัน — ระหว่างทางเดินก็ชวนเพื่อนใหม่คุยไม่ขาดปาก
“ อืม.. ว่าแต่เธอชื่ออะไรเอ่ย? ได้ไปดูบอร์ดรายชื่อหรือยัง เธออยู่ห้องไหนเหรอ? ”
ดูเหมือนจะตื่นเต้นไปหน่อยก็เลยถามไม่หยุดซะงั้น ..
เมื่อเธอเห็นอีกฝ่ายได้จับแขนเสื้อของตนว่าอยากให้เดินไปด้วยกัน เธอก็ไม่ลังเลที่จะไปด้วย
“อิชิคาวะ..อิชิคาวะ คุโรฮะ น่ะ..”
“เอ่…ยังไม่ได้ดูบอร์ดเลย พอดีว่าไม่รู้อยู่ที่ไหนน่ะสิ”
โดนอีกฝ่ายถล่มด้วยคำถามมากมายก็หน้าเหวอไปที😦 ถามไวเกินไปแล้วว ตอบไม่ทันจริงๆ
“ งั้นไปดูรายชื่อกันก่อนไหม? ฉันว่าเรายังมีเวลาอีกนิดหน่อย ”
โนโซมิพูดพลางเดินนำไปยังบอร์ดรายชื่อที่มีคนมุงอยู่จำนวนหนึ่ง
แน่นอนว่าตัวเธอได้ดูไปแล้วแต่แค่อยากพาอีกคนมาเฉย ๆ น่ะ
“อ อื้ม รอหน่อยนะอย่าพึ่งไปไหน..”
เธอเข้าไปในมุงวนหาชื่อตัวเองอยู่ซักพักหนึ่ง
’ตรงนี้…ห้องนี้…หื้ม..อ๋า อยู่นี่ไง‘
’1-A? อืมๆโอเค‘
เธอออกมาจากมุงคนพร้อมตะโกนเรียกให้อีกฝ่ายพอได้ยิน
”คุณ!!..คือว่าฉันอยู่ห้องAน่ะ“
"อ๊ะ!? ขอโทษทีค่ะ!"
เมื่อตั้งตัวได้ก็ก้มหัวขอโทษดีๆ
“คุณเป็นอะไรมั้ย??”
มีใครซักคนมาชนไหล่ของตนจนหมวกของอีกฝ่ายตกไป
และก็ช่วยก้มลงไปเก็บทันที
“อ่ะ หมวกของคุณน่ะ..”
เธอจ้องตาอีกฝ่ายแบบรู้สึกผิดเล็กน้อยหวังว่าตัวเธอจะไม่ได้ขวางทางเธอจนไปชนกับตัวเองใช่ไหม—
ยิ้มร่ารับหมวกมาก่อนจะได้สบตาอีกฝ่ายดีๆ
"ว้าว! ตาสองสีด้วยล่ะ! เท่ไปเลยย!"
ตื่นเต้นจัดจนเผลอส่งเสียงดัง
"นี่ๆ เป็นสีตาจริงๆ หรือคอนแทคเลนส์เหรอ!"
ยิ่งคำถามโดยไม่ได้เกรงใจอีกฝ่ายเลย
รู้สึกตกใจเล็กน้อยแต่มากที่สุดเมื่อมีใครซักคนมาถามเรื่องสีตา
เธอคิดในใจ
’ใส่ผ้าปิดตามาก็จบๆ’
“อะ เอ่อ เป็นสีตาจริงๆ..น่ะ‘
พูดเสร็จก็นำมือทั้งสองข้างมาปิดหน้าอย่างเขินอาย
’เอ้ะ เมื่อกี้เค้าบอกว่าเท่หรอ? บ้าจริง‘
ตื่นเต้นจนหงอนบนหัวกระดิกไปมา
"ว่าแต่ไม่เคยเห็นหน้าเลยค่ะ เป็นเด็กใหม่ใช่ไหมนะ?"
พยายามเอียงตัวดูใบหน้าอีกฝ่ายที่โดนมือบัง
”!! เอ่อ ขอบคุณนะ..ดีใจที่คุณชอบ..“
โล่งใจก็แล้วไป เปลือกตาจองตนก็เริ่มที่จะผ่อนคลายลงมา เริ่มรู้สึกสบายใจขึ้นมานิดนึงแล้วล่ะ
”ใช่ค่ะ..เด็กใหม่ คุณล่ะ?“
“โย้ชๆๆๆ—!! ขอทางหน่อย”
“ว้าก—-! ระวัง—-!!”
รึริที่กำลังวิ่งสับทีนแตกมาทางนี้กับเห็นเธอขวางทางอยู่ทำให้เบรกไม่ทันแล้วล้มพับทับเทอไปเต็มแรง
“อะยาไบๆๆๆ👽⁉️ ขอโทษทีน้า”
แหะๆๆ เกาหัวแก้เขินก่อนแต่ยังไม่ลุก
“แอ่ก..”
จู่ๆก็มีคนมาชนเธอจนล้มเสียได้ แถมยังทับกันอีก ทีนี้ก็ทำตัวไม่ถูกเลยแฮะ
สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือตาเหลือกไปที
“คุณ เป็นอะไรไหม?”
ก่อนจะลุกเต็มที่แล้วยืดเส้นยืดสายเหมือนบิดออกกำลังกาย
“เอ้า-ลุกมาสิ แต่เอ๋???”
“ตาสองสีเหรอ-!! เป็นคนจากนอกโลกหรือเปล่า??!!”
กำลังจะยื่นมือไปช่วยเธอลุก แต่ก็รีบรุดไปนั่งยองแล้วกุมมือเขย่าไปมาแบบตื่นเต้น👽👽👽⁉️⁉️⁉️
ตอนนั้นเธอยังลุกไม่ออกเพราะอาการตื่นคนยังไม่หาย—
แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายพูดถึงสีตาตัวเองก็อึ้งโดยทันดีทันใด
“หมายความว่ายังไง—? นอกโลกหรอ?”
แต่ดึงมือจากอีกฝ่ายด้วยความตกใจเอาขึ้นมาปิดตาสื่อถึงว่า อย่ามองนะเราอาย กรี้ด—
ท่ามกลางผู้คนพลุกพล่าน นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนนึงที่ดูเหมือนจะต้องการความช่วยเหลืออยู่
"สวัสดีครับ เธอเป็นเด็กใหม่ใช่ไหม"
"มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า"
ฮารุโตะทักถามอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้มอันเป็นมิตร
“อื้ม ใช่แล้ว”
“เอ่อ..ก็ ก็คือว่า ที่ลงทะเบียนอยู่ไหนหรอ หลงทาง..น่ะ”
คนเยอะๆแบบนี้และตื่นที่ขนาดนี้ก็ไม่แปลกที่จะกลัวและหลงทาง
"ที่ละทะเบียนอยู่ที่โรงยิมน่ะ"
ฮารุโตะกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมรอยยิ้มบางของเขา
"ให้ผมไปส่งไหมครับ เธอจะได้ไม่หลงระหว่างทางไปไง"
(ขอโทษที่มาตอบช้านะคะ😭💔)
กริ๊ง~
เสียงกระดิ่งแววดังผ่านหูของเด็กสาวที่ยืนหวาดหวั่นท่ามกลางเหล่านักเรียนที่เหนี่ยวแน่น
กริ๊ง~ กริ๊ง~
มันยังคงส่งเสียงเพียงแต่มันค่อยๆเบาลงอย่างช้าๆ
กริ๊ง
“ ถ้าไม่รีบจะสายเอานะ ”
ทันใดนั้นเสียงกระดิ่งก็ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับแววเสียงปริศนาจากทางด้านหลัง แต่หากหันกลับไปก็คงพบแต่ผู้คนมากมายเช่นกัน
กริ๊ง~ กริ๊ง~
ตอนนี้เสียงมันกลับมาดังอยู่ด้านหน้าราวกับบอกให้ตามไป
‘เสียง อะไร?”
หันซ้ายมองขวาหน้าหลังแม้กระทั้งเงยหน้าขึ้นมองเสียงก็ค่อยๆหายไป เธอได้เอาแต่คิดว่าคงไม่มีเจ้าที่คนไหนมาหลอกหรอกมั้ง
กริ๊ง..
ฟุบ!! “ใครน่ะ”
“เอ๋? อะไรเนี่ย..ใครพูดกันนะ”
และก็หันหัวกลับไปซักยินก็ได้ยินเสียงกระดิ่งอีกครั้งตรงหน้าเธอหยุดมองคิดซักพักหนึ่ง
‘เชื่อใจได้มั้ยเนี่ย..’
เพียงแค่เสียงก็ตอบกลับมาทันทีและไร้ซึ่งเสียงกระดิ่งอีกต่อไป..
“ แต่ก็ยังดีกว่ายืนทำอะไรถูกอยู่ตรงนี้นะครับ~ ”
ก่อนที่ร่างสูงนั้นจะเดิมผ่านอีกคนที่ยังดูไม่ต่างจากก่อนหน้าเท่าไหร่ เขามอบยิ้มบนในใบหน้าให้ มือที่เรียวยาวนั้นค่อยๆชูกระดิ่งขึ้นและสั่นมัน
กริ๊ง~
“ พอจะสงบใจได้หรือยังครับ~ ”
เธอก็เห็นที่มาของเสียงกระดิ่งนั่นซักที
คนๆนี้สินะ ดูลึกลับแปลกๆ
แล้วก็หน้าเหวอ😦
“สงบใจก็ได้ ว่าแต่กระดิ่งนั่นคืออะไร”
ไหล่ที่ยักขึ้นของหญิงสาวของได้คลายลงอย่าบอกไม่ถูก
เพราะเสียงกระดิ่ง หรืออาจจะเพราะเห็นต้นตอของเสียงแล้ว
“ ว่ากันว่าเสียงกระดิ่ง…คือเสียงสวรรค์จากพระผู้เป็นเจ้าน่ะ ”
พูดจบก็ยื่นมันลงบนฝ่ามือของอีกคนราวกับให้เป็นของขวัญ
“ เพราะงั้นเวลาได้ยินเสียงกระดิ่ง มนุษย์ถึงเบาใจยังไงล่ะครับ~ ฮุ ฮุ ”
มือข้างหนึ่งกระชับหมวกบนหัวของอีกคนนิดหน่อยเพื่อจัดให้มันเข้าที่บ้างสำหรับวันแรกในช่วงมัธยมปลาย
“ ดูดีแล้วนะครับ~ มั่นใจได้~ ”
แต่ก็รับมันไปแล้วสิ- จากนั้นเธอก็มองอีกฝ่ายเป็นพระผู้เป็นเจ้าเลยทันที🙏
จากนั้นก็เห็นอีกฝ่ายนำมือมันจัดหมวกให้ตนก็ตัวกระตุกนิดหน่อยจนถึงมากที่สุด แต่ก็ยอมให้จัดแต่โดยดี
“เอ่อ ขอบคุณนะ..”