"กำลังกลับบ้านรึจ๊ะ?" เขาถามไปพลางปัดเศษหญ้าเศษดินออกจากตัวท่อนล่าง "หรือว่ากำลังไปซื้ออุปกรณ์ศิลปะสักอย่างล่ะ?"
ก็เป็นตอนนี้เองที่คนข้างตัวขยับลุกขึ้นยืนบ้างเพื่อหลบเศษดินเศษหญ้าที่ส่วนสูงไล่เลี่ยกันーหรือถ้าพูดให้ถูก สูงกว่า เพราะไม่มีสิทธิ์พิเศษใดจากส้นรองเท้าーสีหน้าไม่รู้ว่ากำลังหงิกงอหรือเป็นเพียงสีหน้าปกติอยู่แล้ว
ก็เป็นตอนนี้เองที่คนข้างตัวขยับลุกขึ้นยืนบ้างเพื่อหลบเศษดินเศษหญ้าที่ส่วนสูงไล่เลี่ยกันーหรือถ้าพูดให้ถูก สูงกว่า เพราะไม่มีสิทธิ์พิเศษใดจากส้นรองเท้าーสีหน้าไม่รู้ว่ากำลังหงิกงอหรือเป็นเพียงสีหน้าปกติอยู่แล้ว
Comments
ไรระหยุดปากก่อนจะเผลอพูดธุระของตัวเองออกมา เธอถือกระเป๋าคล้ายกำลังกลับก็จริง แต่ริมแม่น้ำนี่ดูอย่างไรก็ไม่ใช่ทางผ่านเลยสักนิด
”อายานามิซัง…คุยธุระเสร็จแล้วหรอคะ?“
กอดกระเป๋า เหลือบมองทางคนที่ไม่ค่อยคุ้นหน้านิดหน่อยแล้วหลบตา เธอโกหกใครไม่เป็นเสียด้วยสิ
”ฟังดูเป็นเรื่องสำคัญกว่าเรื่องของหนูน่ะค่ะ เอ่อ แต่หนูไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังนะคะ…“
แล้วคนที่ถูกดันออกจากบทสนทนาจึงพยักหน้าลง เนื้อเสียงเรียบกริบไร้วี่แววอารมณ์กล่าวแนะนำตัวเช่นกัน "อายานามิ อากิระ ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
"ผมจะออกไปรอใกล้ๆ ถ้าคุณมีเรื่องส่วนตัวที่ต้องคุย" ถึงจะว่าอย่างนั้นก็ไม่ได้มีทีท่าจะก้าวออกไปจากที่เดิมสักนิด เขายืนรอที่ตรงนั้น ... เหมือนสุนัขสักตัวหนึ่ง
แต่ก่อนจะเหม่อลอยไปไกล ไรระก็รีบพาตัวเองกลับเข้าเรื่อง การมีอยู่ของบุคคลที่สามดูไม่ได้สร้างความอึดอัดใจให้เธอเท่าไหร่
”คือ อายานามิซัง…หนูหมายถึง เอ่อ คุณเจ้าของร้าน“ เปลี่ยนคำเรียกทันทีหลังนึกได้ว่าที่นี่ไม่ได้มีอายานามิคนเดียว
”ช่วยเพิ่มกะทำงานให้หนูอีกได้มั้ยคะ…หรือจะให้ทำควบสองกะวันเดียวกันก็ได้ค่ะ”
"ถ้าถามว่าได้ไหม มันก็ได้หรอกจ้ะ.. แต่งานจะไม่หนักไปใช่ไหมจ๊ะ?" เขาถามไปพลางนึกถึงกฎหมายเรื่องการจ้างงานเยาวชนーอย่างน้อยก็เท่าที่ตนมีความรู้ และดูจะไม่ติดปัญหาอะไร
"ช่วงนี้วาดภาพเยอะกว่าปกติรึจ๊ะ? ถ้างานจะไม่กระทบการเรียนละก็.." คำพูดคำจาติดจะเหมือนบุพการีตอนที่บุตรหลานขอขึ้นค่าขนมอย่างไรอย่างนั้น
ไรระพูดหน้าตาเฉย ดูลำบากใจเรื่องขอเพิ่มกะทำงานมากกว่าเรื่องปัญหาความขัดสนส่วนตัวเสียอีก
”เดือนนี้จ่ายค่าห้องกับค่าแก๊สไปแล้วเลยไม่มีปัญหา แต่เดือนหน้าคงไม่ไหว หนูเลยว่าจะทำงานเพิ่มอีกหน่อย“
เธอรีบพูดเหมือนกลัวโดนดุ “หนูจะไม่ซื้อสีกับแคนวาสเพิ่มแล้วด้วยค่ะ”
สีหน้าเขาเปลี่ยนไปรวดเร็วอย่างกับน้ำในแก้วที่พู่กันเปรอะสีจุ่มลงไป ทีแรกเลิกคิ้วข้างหนึ่ง เปลี่ยนเป็นสองข้าง สูงกว่าเดิม แล้วถึงกดลงมา มุ่นเข้าหากัน สีหน้าเหมือนกับว่าเพิ่งฟังบทละครแอบเสิร์ดที่ชวนให้ติดค้างในใจสักเรื่อง
+