อายานามิคนน้องยืนอยู่ที่เดิม ส่วนคนพี่ーคิ้วข้างหนึ่งเลิกขึ้นเหมือนว่าประหลาดใจ
"ถ้าถามว่าได้ไหม มันก็ได้หรอกจ้ะ.. แต่งานจะไม่หนักไปใช่ไหมจ๊ะ?" เขาถามไปพลางนึกถึงกฎหมายเรื่องการจ้างงานเยาวชนーอย่างน้อยก็เท่าที่ตนมีความรู้ และดูจะไม่ติดปัญหาอะไร
"ช่วงนี้วาดภาพเยอะกว่าปกติรึจ๊ะ? ถ้างานจะไม่กระทบการเรียนละก็.." คำพูดคำจาติดจะเหมือนบุพการีตอนที่บุตรหลานขอขึ้นค่าขนมอย่างไรอย่างนั้น
"ถ้าถามว่าได้ไหม มันก็ได้หรอกจ้ะ.. แต่งานจะไม่หนักไปใช่ไหมจ๊ะ?" เขาถามไปพลางนึกถึงกฎหมายเรื่องการจ้างงานเยาวชนーอย่างน้อยก็เท่าที่ตนมีความรู้ และดูจะไม่ติดปัญหาอะไร
"ช่วงนี้วาดภาพเยอะกว่าปกติรึจ๊ะ? ถ้างานจะไม่กระทบการเรียนละก็.." คำพูดคำจาติดจะเหมือนบุพการีตอนที่บุตรหลานขอขึ้นค่าขนมอย่างไรอย่างนั้น
Comments
ไรระพูดหน้าตาเฉย ดูลำบากใจเรื่องขอเพิ่มกะทำงานมากกว่าเรื่องปัญหาความขัดสนส่วนตัวเสียอีก
”เดือนนี้จ่ายค่าห้องกับค่าแก๊สไปแล้วเลยไม่มีปัญหา แต่เดือนหน้าคงไม่ไหว หนูเลยว่าจะทำงานเพิ่มอีกหน่อย“
เธอรีบพูดเหมือนกลัวโดนดุ “หนูจะไม่ซื้อสีกับแคนวาสเพิ่มแล้วด้วยค่ะ”
สีหน้าเขาเปลี่ยนไปรวดเร็วอย่างกับน้ำในแก้วที่พู่กันเปรอะสีจุ่มลงไป ทีแรกเลิกคิ้วข้างหนึ่ง เปลี่ยนเป็นสองข้าง สูงกว่าเดิม แล้วถึงกดลงมา มุ่นเข้าหากัน สีหน้าเหมือนกับว่าเพิ่งฟังบทละครแอบเสิร์ดที่ชวนให้ติดค้างในใจสักเรื่อง
+
มือยังยกค้างไว้อย่างเดิม แต่ปลายนิ้วงอลงเล็กน้อย โค้งเข้าหาอุ้งมือ
"ส่วนเรื่องที่สอง.. ฉันไม่รู้ค่าห้อง ค่าแก๊สที่ต้องจ่ายแต่ละเดือน แต่ถ้ารวมค่าอาหาร ค่ากินอยู่อย่างอื่นด้วยแล้ว.. มันฟังดูไม่ใช่ภาระที่เด็กมัธยมปลายควรต้องรับผิดชอบ..?"
ไม่ใช่ญาติ พ่อ แม่ แต่เป็นแค่ ‘ผู้ปกครอง’
ไรระนิ่งคิดถึงเรื่องเดือนหน้า เดือนหน้าหน้า แล้วก็สรุปเอาเองด้วยน้ำเสียงเหมือนเป็นเรื่องเล็กเสียเหลือเกิน
”แต่เดือนก่อนหนูก็หาค่าห้องเองนะคะ เงินที่ส่งมาลดลงไปเยอะเลย หนูว่าเขาเองก็คงทำงานเหนื่อย เอ่อ ถ้าหนูทำงานเพิ่มขึ้นน่าจะช่วยแบ่งเบาไปได้สักนิด…?“
"ปัญหาไม่ใช่เรื่องว่าทำได้หรือไม่ได้เสียหน่อยนี่จ๊ะ แต่เธอไม่ควรต้องทำเรื่องนี้แต่แรก.." เขากวาดมือไปด้านข้าง เหมือนกำลังตั้งใจจะอธิบายถึงมุมมองตนーแล้วก็หยุด คล้ายกับนึกขึ้นได้ว่าไม่ใช่เรื่องที่ควรถกเถียง
+
"ประมวลกฎหมายแพ่ง มาตราที่ 820" เขากระซิบพอให้ผู้เป็นพี่ได้ยิน ".. การอุปการะเลี้ยงดูเด็กเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองทางกฎหมาย ไม่ใช่ของพี่"
+