#ESRA_Starlit #ESRA_Roleplay
[3 Feb | หอเต้นรำ]
บทเพลงดังก้องไปทั่วโถงกว้าง แสงจากโคมระย้าสะท้อนกับพื้นหินอ่อนขัดเงา ส่องประกายราวกับดวงดาวที่ระยิบระยับอยู่ใต้ฝ่าเท้า
เชอรีนากวาดตามองฟลอร์เต้นรำ สายตาคู่นั้นหยุดที่ [คุณ] เธอก้าวมาข้างหน้า วาดปลายนิ้วแตะลงบนมือของคุณ
“ท่านผู้เลอโฉม ได้โปรดเต้นรำกับเราสักหนึ่งบทเพลงได้หรือไม่”
[มาบวกได้ทุกเพศทุกวัยนะคะ🕺]
[3 Feb | หอเต้นรำ]
บทเพลงดังก้องไปทั่วโถงกว้าง แสงจากโคมระย้าสะท้อนกับพื้นหินอ่อนขัดเงา ส่องประกายราวกับดวงดาวที่ระยิบระยับอยู่ใต้ฝ่าเท้า
เชอรีนากวาดตามองฟลอร์เต้นรำ สายตาคู่นั้นหยุดที่ [คุณ] เธอก้าวมาข้างหน้า วาดปลายนิ้วแตะลงบนมือของคุณ
“ท่านผู้เลอโฉม ได้โปรดเต้นรำกับเราสักหนึ่งบทเพลงได้หรือไม่”
[มาบวกได้ทุกเพศทุกวัยนะคะ🕺]
Comments
"ท่านเชอรีน่านี้เอง!" เธอค่อยๆเผยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าเพราะด้วยความที่คุ้นเคยกันดีกับท่านผู้หญิงคนนี้!
"อื้ม! เป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยค่ะ🔆" จูลี่โค้งหัวเล็กน้อยเป็นการตอบรับพลางกระชับมืออีกคนเล็กน้อย "มาเต้นรำด้วยกันนะเพคะ!"
”ชุดนี้ทำให้ฮูเลียต์ต้าดูสดใสเหมือนแสงตะวันเลยนะ“
แสงระยับสะท้อนดวงตาของฮูเลียต์ตา เชอรีนาเผลอจ้องลึกเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้
ค่ำคืนนี้ อาจเป็นคืนที่เธออยากให้ยาวนานกว่าที่เคย….
"แฮะ ขอบคุณค่ะ!" เธอหัวเราะเล็กๆ "ท่านเชอรีน่าก็สวยสง่าสุดๆเลย! สวยวันสวยคืนจริงๆ💛✨️" ทั้งคู่กล่าวพูดกันโดยที่ยังคงร่ายรำไปตามจังหวะของเสียงดนตรี
"ท่านเชอรีน่า เป็นอย่างไรบ้างคะ อยู่ที่นี้สบายดีไหม" ก่อนจะทักถามอีกคนต่อ
องค์หญิงเชอรีนาก็ยังคงสง่างามเหมือนเคยเลยนะ
" ....องค์หญิง เราเกรงว่ามันคงจะมากเกินไปสำหรับเรา.... "
ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะกุมมือเธอไว้แล้วก็เถอะ แต่นักบวชธรรมดาอย่างเธอเหมาะสมกับการเต้นรำกับราชวงศ์หรือเปล่านะ
(ฉันเกิดในรัชกาลเชอรีน)
“ดวงแก้วน้อย เราเคยบอกไปแล้วนะว่าที่นี่ไม่ใช่ฟอร์เทอร์เนีย ตอนนี้เราไม่ใช่องค์หญิงของเธอ”
เชอรีนาโน้มตัวเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆพาอัครนักบวชเข้าสู่ฟลอร์เต้นรำ แต่กระนั้นก็อดใจไม่ได้ที่จะแหย่คนเด็กกว่าตรงหน้า
“ตอนนี้เราเป็นแค่ ‘พี่เชอรีน‘ ของเธอเท่านั้น”
“ไหนพูดสิ… พี่เชอรีน”
ปกติก็เรียกองค์หญิงมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว พอบอกให้เปลี่ยนสรรพนามทันทีแบบนี้ เจ้าตัวก็กลับวางตัวไม่ถูกเสียงั้น
หญิงสาวค่อยๆเดินตามอีกฝ่ายไป
" ...แต่ถึงกระนั้น เราเต้นรำไม่เป็นหรอกนะ "
ก็อยู่ในโบสถ์มาตั้งแต่ยังเด็กๆนี่นะ ถึงจะเคยเห็นกลุ่มชนชั้นสูงมากมายมาเต้นรำให้เห็นแล้วก็เถอะ แต่ระหว่างการเต้นรำกับคัมภีร์ เธอคงจะเลือกคัมภีร์มากกว่า
“ไม่เป็นไรหรอกเคลย์ แค่ก้าวตามเรามาก็พอ”
เธอประคองมืออีกฝ่ายแน่นขึ้น นำพาไปตามจังหวะดนตรีช้าๆ
ในค่ำคืนนี้ ไม่มีองค์หญิงรัชทายาท ไม่มีอัครนักบวชแห่งแสงนิรันดร์ มีเพียง ‘พี่เชอรีน’ และ ‘เคลย์แมนไทน์’ ที่กำลังเต้นรำภายใต้แสงโคมระย้าเท่านั้น
“อย่าได้กังวลไปเลยค่ะ เราจะช่วยนำเอง”
เธอจับมือลูนาเรียมั่น ก่อนพาอีกฝ่ายก้าวตามจังหวะเพลงไปยังฟลอร์เต้นรำ ทั้งยังคอยจับจังหวะของลูนาเรียอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ก้าวขัดกับกันและกัน
"ขอบคุณนะคะ... ฉันจะพยายามก้าวให้เข้ากับคุณให้ได้ค่ะ"
เธอค่อย ๆ ผ่อนคลายลงทีละนิด หัวใจเริ่มเต้นเป็นจังหวะเดียวกับเสียงเพลงและจังหวะก้าวของพวกเธอ บรรยากาศรอบข้างดูเหมือนจะเงียบลงไปชั่วขณะ เหลือเพียงจังหวะของการเต้นรำที่สอดประสานกันอย่างลงตัว
“ทำได้ดีมากค่ะ…”
เธอกระซิบ พลางหมุนตัวพาคู่เต้นรำไปตามจังหวะ
เธอคลี่ยิ้มตอบรับด้วยความยินดีเมื่อมีคนเอ่ยชวนเต้นรำ ก่อนมือจะจับกระโปรงโค้งให้อีกฝ่ายเล็กน้อยเพื่อแนะนำตัว
"ฉันอีสลินค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"
ถึงเธอจะคุ้นหน้าหญิงสาวตรงหน้าอยู่บ้างแต่กระนั้นก็ไม่แน่ใจว่าเคยมีโอกาสแนะนำตัวออกไปรึยัง
“อีสลิน…” เธอลองเอ่ยชื่ออีกฝ่ายออกมาแผ่วเบา คล้ายกับตั้งใจจดจำมันไว้ให้ขึ้นใจ “เป็นชื่อที่งดงามมากค่ะ…”
เธอผ่อนปลายนิ้วไล้เบา ๆ บนหลังมือ ก่อนจะค่อย ๆ จับจูงให้ก้าวเข้าสู่ฟลอร์เต้นรำ
“เชอรีนา… จะเรียกเราว่าเชอรีนก็ได้…“
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคะ…อีสลิน”
เมื่อทั้งสองมาหยุดอยู่บนฟลอร์เธอก็โค้งให้คู่เต้นรำ ใบหน้ามีรอยยิ้มสดใสประดับยามที่ฝีเท้าก้าวตามจังหวะพลางเอ่ยปากชวนคุย
"ปกติคุณเชอรีนชอบเต้นรำอยู่แล้วเหรอคะ?"
“สำหรับชนชั้นสูง การเต้นรำถือเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง…” เธอเอ่ยเสียงนุ่ม “การแสดงออกถึงอำนาจ ความสง่างาม หากว่าชำนาญมันมากพอ ทุกสายตาจะมาหยุดอยู่ที่คุณ…”
เธอหมุนตัวอีสลินอย่างแผ่วเบา ก่อนจะยิ้มมุมปาก “แต่หากถามว่าเราชอบมันหรือไม่… บางทีอาจขึ้นอยู่กับคู่เต้นรำด้วยก็ได้”
เธอเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางขณะที่คอยเงี่ยหูฟังจังหวะดนตรีไปด้วย
"ความสนุกที่ได้ใช้เวลากับคู่เต้นรำและได้ขยับตัวตามเสียงดนตรีแบบนี้ ไม่ใช่โอกาสที่หาได้บ่อยๆเลยนะคะ"
ดังนั้นเธอจึงตั้งตารองานปฐมนิเทศและงานเต้นรำไม่น้อย
“บางทีความสนุกแบบนั้นก็น่าจดจำยิ่งกว่าค่ะ“
เธอเอ่ยเสียงแผ่ว รอยยิ้มอบอุ่นปรากฏขึ้น ชื่นชมเด็กสาวตรงหน้าในใจเงียบๆ
“ท่านพ่อเป็นคนสอนเราเต้นรำ ท่านบอกเสมอว่าการเต้นคืออิสระ และทุกจังหวะที่ย่างก้าวคือบทสนทนาที่ไร้ถ้อยคำ”
“…เรายินดีที่ได้อีสลินเป็นคู่สนทนาในครั้งนี้นะคะ”
เซเรน่าที่กำลังแซ่บกับอาหารภายในงานพวกแซนวิสหรือบิสกิตชิ้นเล็กน้อยเธอสนใจกับอาหารจนมารู้ตัวอีกทีก็ถูกเรียวมืออ่อนของอีกฝ่าย
วางลงยฝ่ามือเธอจนรู้สึกประหลาดใจ จนแทบอยากเลิกคิ้วขึ้นใช้นิ้วมือชี้สลับไปมาระหว่างตัวเองกับอีกฝ่ายพร้อมแววตาลุกวาวอย่างตื่นเต้น
"ขอฉันหรอ..ขอฉันหรอได้สิๆ!!!"
ทันทีที่เสียงดนตรีดังขึ้น เธอก็พาเซเรน่าหมุนเข้าสู่จังหวะของบทเพลง พาเธอก้าวไปตามท่วงท่าที่สง่างาม แต่เต็มไปด้วยความนุ่มนวล ดั่งต้องการให้รู้สึกสบายใจที่สุดในการเต้นรำครั้งนี้
ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับมีแววขบขัน ราวกับกำลังสนุกกับปฏิกิริยาของเจ้าหญิงน้อยตรงหน้า
เธอเอ่ยขึ้นอย่างตกใจเมื่อมือข้างที่ถูกกระชับอย่างนุ่มนวลถูกพาก้าวมาสู่ฟลอร์เต้นรำอันงดงามมือข้างที่ไปจกเปิบแซ่บโซนอาหารมาเลียทำความสะอาดอันแล้วค่อยเช็ดน้ำลายที่กระโปรงตนเอง
เมื่อดนตรีได้เริ่มบรรเลงขึ้นเวลาแห่งเวทยมนต์นิทานได้เริ่มขึ้นเสียงฝีเท้าก้าววนเป็นจังวะ ทุกทวนท่าของเชอรีนาอย่างสง่างามทำให้เธอยกยิ้มขึ้นมาอย่างมีความสุข
นั้นคงเป็นสิ่งได้เห็น
“ไม่ต้องกังวลค่ะ มือของคุณสะอาดแล้ว”
เธอเอ่ยกระซิบแผ่วเบา พร้อมยกยิ้มให้อีกฝ่ายที่ดูสนุกกับการเต้นรำ
ทุกครั้งที่เชอรีนาพาเธอเต้นไปตามจังวะและดูไม่ได้รังเกียจเธอก็ทำให้จะร้องเพลงออกมาไม่ได้
"อยากจะแฉดฉายที่พัดพาอุ่นล้ำไปตามลม ♫ดั่งถนนในที่ลับตาเปิดอ้ารอให้ชม จะทางใดงามกว่าเห็นมาเจิดจ้าน่าภิรมย์ นี่วันแฮปปี้ที่สุดจริงๆเลย♫ ✨"
"อ่า..อะแฮ่มเอาเป็นว่า เอาใหม่ตั้งแต่ต้นดีกว่านะ"
เธอกระแอมไออกมาเล็กน้อยเหมือนเธอจะร้องเพลงผิดบรรยากาศไปหน่อย
“ทำไมถึงหยุดล่ะคะ? บทเพลงของคุณน่าฟังออก”
“ร้องอีกสิคะ เราอยากฟัง”
เธอแกล้งเอ่ยหยอกพลางยิ้มกว้าง รอคอยปฏิกิริยาของอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู