คำพูดของเขาฟังดูง่าย
ง่ายจนเหมือนไม่ใช่เรื่องเดียวกับที่ติดค้างอยู่ในใจเธอมานาน
เธอควรจะยิ้ม—ตอบว่า “ไม่เป็นไร” แล้วก็หัวเราะกลบเกลื่อนเหมือน‘ทุกครั้ง’ที่ผ่านมา
เพราะยังไง…มันก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่
ใช่ไหมนะ?
“อื้อ ไม่ใช่ความผิดเธอหรอก ก็แค่…”
+
ง่ายจนเหมือนไม่ใช่เรื่องเดียวกับที่ติดค้างอยู่ในใจเธอมานาน
เธอควรจะยิ้ม—ตอบว่า “ไม่เป็นไร” แล้วก็หัวเราะกลบเกลื่อนเหมือน‘ทุกครั้ง’ที่ผ่านมา
เพราะยังไง…มันก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่
ใช่ไหมนะ?
“อื้อ ไม่ใช่ความผิดเธอหรอก ก็แค่…”
+
Comments
“เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม นาโอโตะคุง”
“เธอจะบอกฉันใช่ไหม”
ประโยคนั้นค่อย ๆ หลุดออกมา
ไม่ดัง แต่หนักแน่น และจริงจังกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เธอพูดเรื่องนี้ และพูดมากขนาดนี้กับเขาเลยก็ว่าได้
"พ่อแม่บอกแบบนั้นเหรอครับ? ผมนึกว่าบ้านชิฮารุอยู่ที่เกาะเหมือนกันซะอีก..."
พอได้ยินว่าให้เล่าให้ฟังก็โคลงหัวเหมือนกำลังคิด คงเพราะเป็นครั้งแรกที่ดูจริงจัง
"จะให้เล่าตรงนี้เลยเหรอครับ เราไปหาที่นั่งกันดีไหม?"
ยืนอยู่ตรงนี้คงมีคนผ่านไปมาและผูกกระดาษกับไม้ไผ่
เธอดูสับสน ก่อนที่จะเดินออกไปด้วยกัน ไปยังที่ ๆ แสงไฟยังส่องถึง แต่ก็พอให้รู้สึกได้ว่าโลกเล็กลงเหลือแค่สองคน
ทุกก้าว หัวใจยิ่งเต้นแรง ไม่ใช่แบบที่อ่านในนิยายรักหรือบทสารภาพใจ ไม่อ่อนหวาน ไม่อบอุ่น แต่เป็นแบบคนที่กลัวจะได้ยินคำตอบที่ไม่อยากรู้
พวกเขาหยุดที่ม้านั่งตัวนึง ใต้ต้นไผ่ที่ยังมีทังซะกุห้อยอยู่ประปราย
เรานั่งลงตรงนั้น เธอเหลือบมองคุณ
และไม่ได้พูดอะไรออกไป