#THK_EVENT05 #THK_สอบปลายภาค #THK_โรลเปิด
ห้องสมุด | ช่วงเตรียมสอบ
ในช่วงเวลาที่เงียบสงบที่ใครหลาย ๆ คนกำลังเตรียมสอบกันอยู่
คุณเดินช้า ๆ ไปตามแนวชั้นหนังสือ ลึกเข้าไปในจุดที่ไม่มีใคร ยื่นมือเลือกเล่มหนึ่งออกมาจากชั้น
ทันทีที่ดึงหนังสือออกจากชั้น
คุณก็จะเห็น... ดวงตาสีดำสนิทที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของชั้นหนังสือกำลังจ้องกลับมา
ห้องสมุด | ช่วงเตรียมสอบ
ในช่วงเวลาที่เงียบสงบที่ใครหลาย ๆ คนกำลังเตรียมสอบกันอยู่
คุณเดินช้า ๆ ไปตามแนวชั้นหนังสือ ลึกเข้าไปในจุดที่ไม่มีใคร ยื่นมือเลือกเล่มหนึ่งออกมาจากชั้น
ทันทีที่ดึงหนังสือออกจากชั้น
คุณก็จะเห็น... ดวงตาสีดำสนิทที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของชั้นหนังสือกำลังจ้องกลับมา
Comments
ไม่มีหนังสือเล่นใดที่เธอสนใจเป็นพิเศษ
เธอเพียงแค่หยุดมือแบบสุ่ม ๆ แล้วเลือกหยิบหนังสือเล่มนั้นออกมาจากชั้น
!!?
หน๊ะ—
ซาจูนะเผลอส่งเสียงแปลก ๆ ออกมาเมื่อสบตายเข้ากับดวงตาสีดำสนิทกระทันหัน
มือเธอเองก็เผลอปล่อยให้หนังสือร่วงไปอยู่ที่ปลายเท้า
เธอไม่ได้หวาดกลัว เพียงแค่ตกใจเล็กน้อยเท่านั้น
ถึงอย่างนั้น เธอกลับแสร้งแสดงออกว่ากลัว ม า ก ให้คนฝั่งตรงข้ามได้รับรู้
“หวา—”
“น่ากลัวจังเลยค่ะ”
“เค้าควรจะกรี้ดด้วยมั้ยคะ”
เธอเอ่ยขึ้นอย่างครุ่นคิด พลางย่อตัวลงหยิบหนังสือที่เพิ่งตกไป
เขากะพริบตาช้า ๆ มองอีกฝ่ายเงียบ ๆ
แสงไฟสลัวจากไฟเพดานกระทบใบหน้าของเขา รอยยิ้มจาง ๆ ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในเงามืด
"แหม... ดีใจจัง กลัวขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย"
ซะที่ไหน จะไม่รู้ได้ยังไงล่ะว่าอีกฝ่ายแกล้งทำ
รอยยิ้มบนใบหน้า กับแววตาที่แสร้งตกใจ …แบบนั้น จะให้เขาดูไม่ออกได้ยังไงกัน
+
"ไม่นึกเลยว่าจะมาเจอเธอที่นี่"
ดวงตาสีดำสนิทสบกับเด็กสาวอีกครั้งเมื่อมายืนอยู่ข้าง ๆ
"จูจังมาทำอะไรเหรอ?"
เขาเอนตัวเล็กน้อย ยื่นหน้าเข้าใกล้พอให้เกิดเงาทาบลงบนไหล่ของเธอ ขณะเอ่ยถาม
www
"ค่ะ ตัวสั่นไปหมดแล้วเนี่ย"
เมื่อเงามืดทาบที่ไหล่ เธอก็เงยหน้าขึ้นมาเขา ระยะห่างที่เหลือเพียงไม่มากทำให้เธอเห็นหน้าของยูได้อย่างชัดเจน
"ไม่นึกว่าจะยูที่นี่เหมือนกันค่ะ"
ก่อนเธอจะเอียงคอเล็กน้อย รอยยิ้มหวานขึ้นประดับใบหน้า
"เบื่อจะตาย ก็เลยลองแวะมา"
"ยูล่ะคะ มาดักคนเหรอ ? "
"ฮึฮึ... ใช่แล้วล่ะ"
คำตอบนั้นเอ่ยออกมาเรียบ ๆ แต่ในน้ำเสียงแฝงแววขบขันบางอย่าง
ยูยืดตัวขึ้นเล็กน้อย เอนศีรษะพิงกับชั้นหนังสือด้านข้างด้วยท่าทีผ่อนคลาย
เมื่อรวมกับเงาสลัวรอบตัวแล้ว บรรยากาศตรงนี้ก็ชวนให้นึกถึงแหล่งชุมนุมของปีศาจร้ายมากกว่าห้องสมุดอันแสนเงียบสงบเสียอีก
"เงียบ ๆ แบบนี้น่าเบื่อจะตาย..."
+
พอเขาเห็นดวงตาดวงนั้น เขาจึงเลือกที่จะจ้องต่อ
" ใครกระพริบตาก่อน แพ้"
เรย์จิชะงักไปในทันที ใบหน้าแข็งค้างพร้อมดวงตาที่เบิกขึ้นเล็กน้อย ราวกับร่างถูกตรึงไว้ด้วยสายตาประหลาดนั้น ห้องสมุดที่เงียบสนิทกลับให้ความรู้สึกอึดอัดชวนน่าขนลุก
หัวใจเขาเต้นระรัวในอก ขนทั่วร่างลุกชัน ขณะที่เขามองกลับไปยังช่องว่างระหว่างชั้นหนังสือนั้น เสียงหายใจของตัวเองดังชัดขึ้นในหัว
+
เขายืนนิ่งตรงนั้นอยู่ครู่หนึ่งเพื่อปรับสีหน้าให้เป็นปกติ พร้อมเหงื่อเย็นที่ไหลซึมตามกรอบหน้าเล็กน้อย
“…ตะ…ตาฝาดแน่ๆ…”
เรย์จิพูดกับตัวเองด้วยเสียงแผ่วเบา
ด้านหลังชั้นหนังสือ ยูที่ยืนอยู่ตรงนั้นกะพริบตาช้า ๆ
จมูกที่โดนขอบหนังสือกระแทกเข้าอย่างจังขึ้นสีแดงจาง ๆ
หลังจากนั้นมีเพียงความเงียบกับบรรยากาศเย็น ๆ เกิดขึ้น
แล้วจู่ ๆ…
เรย์จิจะสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ไม่ควรจะอยู่จากข้างหลัง
กลิ่นของหนังสือในห้องสมุดเจือปนไปกับไอเย็นจากร่างของยูที่ยืนอยู่ข้างหลัง ชิดจนเงาทาบทับกัน
+
พร้อมเสียงกระซิบใกล้หู และลมหายใจน่าขนลุกที่รดต้นคอ
"มันเจ็บนะ เรย์จัง"
เสียงนั้นไม่ได้ดูเหมือนโกรธอะไร หากแต่เจือด้วยรอยยิ้มบางเบาที่น่าขนลุกยิ่งกว่า
เสียงฝีเท้าดังขึ้นด้านหลังพร้อมเงาดำบางอย่างเคลื่อนใกล้เข้ามาทีละนิด
หัวใจเรย์จิเต้นโครมครามจนแทบจะหลุดออกมานอกอก เขากลืนน้ำลายเหนียวลงคอ
+
ยังไม่ทันที่เรย์จิจะตั้งตัว แรงสะกิดเบาๆ จากด้านหลังพร้อมกับเสียงกระซิบข้างใบหูทำให้เขาร้องออกมาเสียงดัง
“เว้ย!!—”
เรย์จิร้องลั่นออกมาอย่างลืมตัว รีบกระชากถุงเกลือออกจากกระเป๋าก่อนจะสาดมันออกไปตามสัญชาตญาณ
+
ฮืออ..ที่นี่มันวังเวงชะมัด..ไม่อยากเข้าไปตรงนั้นเลยอ่าาา
ได้แต่งอแงกับตัวเองอยู่ในใจ ขณะกำลังเดินตามชั้นหนังสือเข้าไปในส่วนลึกที่สุด
เขากวาดสายตามองหาสิ่งที่ต้องการก่อนจะยื่นมือไปหยิบมัน
+
คย๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา───!!!!!!!
ความเงียบสงบของห้องสมุดถูกทำลายลงด้วยเสียงกรี๊ดลั่นไม่เป็นศัพท์ ราวกับเป็นฉากเปิดตัวในหนังสยองขวัญยังไงอย่างงั้น
แววตาดำสนิทเมื่อครู่เริ่มมีประกายบางอย่างคล้ายความพึงพอใจฉายขึ้นชัดเจน
แล้วทันใดนั้น…
“ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ…”
เสียงหัวเราะที่อัดแน่นไปด้วยความพึงพอใจดังขึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่
"ฉันก็.. อยากจะแกล้งให้คนตกใจจริง ๆ นั่นแหละ แต่ไม่นึกเลยว่า..."
พูดจบก็หัวเราะต่อ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะจำเสียงของเขาได้รึยัง
+
ใบหน้าเปื้อนยิ้มของเขาตอนนี้ช่างดูสนุกสนาน…ราวกับปีศาจน้อยที่ได้เล่นของเล่นชิ้นโปรด
“นายเนี่ย... แกล้งทีไรตกใจตลอดเลยนะเอ็นกะจัง”
หาได้ยากที่ตัวเคย์โกะจะมาที่ห้องสมุด
นิสัยทุนเดิมไม่ใช่คนใฝ่เรียนหรือคิดจะอ่านหนังสือแม้จะเป็นช่วงสอบ
แต่ถ้ารอบนี้คะแนนห่วยแตกคงโดนดุหนักกว่าเก่าแน่ สงสัยจะต้องผันตัวเป็นคนตั้งใจเรียนซักวัน
เจ้าตัวเลือกหนังสือไปเรื่อยๆจนเจอเล่มที่ถูกใจ มือค่อยๆหยิบเล่มนั้นออกมาจากชั้น
"..?"
ถึงจะตกใจนิดหน่อยแต่สีหน้ายังคงเดิมไว้ ไม่ใช่ความหวาดกลัวแต่เป็นความประหลาดใจ
+
คิดงั้นแล้วเอาหนังสือสอดกลับไปไว้ที่เดิม
สงสัยช่วงนี้ติวหนักจนเห็นอะไรแปลกๆเข้า
แต่เพื่อความมั่นใจ ขอลองอะไรซักหน่อย
เมื่อคิดงั้น มือที่ยังจับหนังสือไว้ก็ค่อยๆหยิบออกมาอีกรอบช้าๆอีกรอบ เผื่อรอบนี้จะมีอะไรเปลี่ยน
สิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า…ก็ยังคงเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน
ดวงตาคู่นั้น
สีดำสนิท เย็นเยียบ ราวกับถูกสกัดออกมาจากหมึกเก่าแก่ที่ไม่เคยจาง
มันมืดสนิท เหมือนห้วงเหวลึกที่ไร้ก้นบึ้ง
มันจ้องตรงมาราวกับภาพวาด—แต่ไม่มีทางเป็นเพียงภาพ
+
ตาดวงนั้นกะพริบครั้งหนึ่ง
พร้อมกับเสียงหัวเราะน่าขนลุกที่ค่อย ๆ ดังขึ้นมา
ด้วยความที่เป็นคนที่ไม่มีจิตสัมผัส สิ่งแรกที่อยู่ในหัวไม่ใช่เรื่องลี้ลับแต่เป็นคนเสียมากกว่า
จะแกล้งทำเป็นไม่เห็นก็ยังไงอยู่เพราะใจจริงก็แอบสงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
"อืม... คนใช่มั้ยครับ?"
พอถูกจ้องนานๆแบบนี้แอบทำให้นึกถึงคุณแม่...รู้สึกไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่เลยแฮะ
เอาหนังสือกลับที่เดิมอีกรอบดีมั้ยนะ
แล้วในที่สุด…
เสียงหัวเราะเบา ๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้งจากอีกฝั่งของชั้นหนังสือ
มันไม่ใช่เสียงหัวเราะที่สดใส หากแต่ฟังดูสนุกสนาน และแฝงความเย็นเยียบบางอย่างที่อาจทำให้ผิวหนังขนลุกโดยไม่รู้ตัว
ดวงตาหายไปจากชั้นหนังสือ เหมือนกับว่าเจ้าของดวงตานั้นถอยกลับไปในความมืด
"อืม... นั่นสิน้า... คิดว่ายังไงล่ะ"
+
เพราะกำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมเอกสารสำหรับสอบปลายภาค เมื่อถูกดวงตาปริศนาจากช่องว่างมองมาที่เขาก็ดูเหมือนจะตกใจกลัวนิดหน่อย
"อะไรกันหล่ะเนี่ย แต่ดวงตาเองงั้นเหรอ ฮะๆ"
ทำทีหัวเราะกลับเกลื่อน ก่อนที่เขาจะถือทั้งหนังสือที่ตนกำลังหยิบพร้อมกับวางทับเอกสารจำนวนนึง
ก่อนที่เขาจะนึกอะไรแผลงๆ
"หึ...."
ดวงตาสีชมพูจ้องกลับอย่างกับสัตว์ร้ายที่กระหายเลือดเสียอย่างน่าประหลาด...
มันขยับเล็กน้อย เอียงนิด ๆ เหมือนเจ้าของดวงตานั้นกำลังเอียงศีรษะมองอย่างพินิจพิจารณา
แสงไฟจากด้านบนไม่อาจส่องทะลุเงาตรงนั้นได้หมด
และนั่นยิ่งทำให้ดวงตาคู่นั้นดูโดดเด่น… เหมือนลอยอยู่ในเงามืด
แม้จะถูกจ้องกลับ แต่ดวงตานั้นก็ไม่ได้หลบสายตา
ไม่มีแววตกใจ เพียงมองกลับไปนิ่ง ๆ
แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“ไม่กลัวเหรอ?”
เขาตอบอย่างมั่นใจ ในขณะที่ภาพสะท้อนในตาก็เป็นเพียงเนตรสีทมิฬที่เขาไม่หลบหนี แต่กลับจ้องมันตรงๆราวกับเป็นผู้ล่าเสีย(?)
"ทำไมผมจะต้องกลัวด้วยหล่ะ...ในเมื่อมีสิ่งอื่นที่น่ากลัวกว่านี้อีก"
ปริศนาซ่อนเร้นที่เขาถามกลับนั้นไม่อาจเดาคำตอบได้ แสงไฟที่อาจส่องทะลุก็ทำให้เขาเดาไม่ออกว่าเป็นใคร แต่เขาก็แค่อยากแหย่เล่นนิดหน่อย
สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่จ้องมัน แต่หันไปดูกระดาษที่ถือไว้แทน
"...ไม่กลัวงั้นเหรอ"
เขาพึมพำกับตัวเองในลำคอ ก่อนจะคลี่ยิ้มบาง ๆ อย่างนึกสนุก
แต่พอเห็นอีกฝ่ายหันกลับไปสนใจแผ่นกระดาษในมือ แทนที่จะต่อเกมจ้องตา เขาก็ถอนหายใจเบา ๆ
ยูเอนตัวถอยห่างจากชั้นหนังสือ ร่างโปร่งขยับออกจากเงามืดอย่างเงียบงัน เส้นผมดำสนิทไหวตามแรงเคลื่อนไหวเล็กน้อย
+
มือหนาจับสันหนังสือที่ต้องการออกมาจากชั้นวาง พลันปรากฏดวงตาสีดำสนิทจดจ้องมาจากอีกฝั่งหนึ่ง
ดวงตาสีโกเมนมองนิ่งไม่ไหวติง ก่อนจะวางหนังสือลงบนแขน
คิริโยเนะลดศีรษะลงก่อนที่มืออีกข้างจะล้วงเอาสาหร่ายรสบ๊วยขึ้นมาคาบไว้ รสของบ๊วยหวานเปรี้ยวเค็มกระจายไปทั่วปาก
"...."
เขาส่งสาหร่ายอีกชิ้นรอดไปในช่องหนังสือ
ดวงตาสีดำสนิทของยูยังคงจับจ้องอีกฝ่ายเงียบ ๆ ผ่านช่องว่างระหว่างชั้นหนังสือ
…เขาคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะตกใจ
หรืออย่างน้อยก็น่าจะถามอะไรกลับมาบ้าง
แต่กลับกลายเป็นว่า อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรสักคำ
แถมยังหยิบสาหร่ายบ๊วยขึ้นมากินต่อหน้าต่อตา
แล้วยังยื่นชิ้นถัดมาผ่านช่องหนังสือมาให้อีกต่างหาก?
ยูกะพริบตาช้า ๆ
"...?"
+
เขาเอียงคอมองนิ่ง ๆ อยู่สักพัก
หรือนี่... จะเป็นเครื่องเซ่น?
เขาถอยออกมาเล็กน้อย ให้ความมืดกลืนกินทั้งช่องว่างระหว่างหนังสือ ก่อนที่จะเอื้อมมือขึ้นมาช้า ๆ รับสาหร่ายชิ้นนั้นไว้ในมือ
ยูเลื่อนมือกลับมา แผ่นสาหร่ายหายเข้าไปในความมืด
แล้วสาหร่ายก็หายเข้าไปในปาก รสจัดจ้านกระจายทั่วปากให้เขาขมวดคิ้ว
เทนโดเห็นว่าเงามือหลังชั้นหนังสือรับไมตรีของเขาไว้ ก็ล้วงเอาอมยิ้มออกมา
นิ้วเรียวแกะเปลือกอมยิ้มออกก่อนส่งเข้าปากไป ล้างรสชาติบ๊วยในปากออกจนหมด
เขามองเข้าไปในช่องว่างนั้นเล็กน้อย พลางล้วงมือเอาอมยิ้มอีกแท่งออกมาจากกระเป๋ายื่นส่งให้ระหว่างชั้น
"กินเจ้านี่มั้ย"
เสียงทุ้มพูดขึ้น ทว่ายังไม่ได้ส่งให้อีกฝังทันที เขาจับปลายด้ามไว้เหมือนพร้อมจะดึงกลับ