“เข้าใจแล้วครับ” เขาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะอยู่เงียบ ๆ โดยไม่ได้ชวนคุยอะไร
สายตามองเธอ บางครั้งก็มองบรรยากาศและผู้คนโดยรอบคล้ายกำลังคิดอะไรบางอย่าง
ปล่อยเวลาล่วงเลยไป…
สายตามองเธอ บางครั้งก็มองบรรยากาศและผู้คนโดยรอบคล้ายกำลังคิดอะไรบางอย่าง
ปล่อยเวลาล่วงเลยไป…
Comments
“จริงด้วย~ ระหว่างนี้เรามาคุยต่อกันเรื่องที่ค้างไว้ตอนอยู่ชานชาลาดีไหม?”
เธอเอียงคอนิด ๆ พลางส่งยิ้มบางให้
“ฉันยังอยากรู้จักไคโตะคุงให้มากกว่านี้อีกตั้งหลายเรื่องเลย”
ดวงตาทอประกายขณะมองเขา ราวกับรอฟังเรื่องราวต่อ
มากกว่านี้อีกเหรอ—
นึกถึงบทสนทนาที่คุยกันก่อนหน้านั้นว่าคุยอะไรไปบ้างแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรือมีความลับอะไรหรอก…
และเขารู้ว่าเธอสนใจแม้มันอาจจะเป็นเรื่องน่าเบื่อ กลับกันเป็นเขาเองที่รู้สึกว่าทุก ๆ เรื่องมันดูทั่วไปเสียจนไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องอะไรบ้างดีนี่สิ
“งั้น— เซนะซังอยากรู้เรื่องอะไรเหรอครับ”
เธอยิ้มบาง ๆ พลางเหลือบมองเขา “ขอเป็นเรื่องที่ไคโตะคุงคิดว่า ‘เป็นตัวเอง’ มากที่สุดก็แล้วกัน~”
เธอแตะปลายนิ้วที่ริมฝีปากเหมือนใช้ความคิด ก่อนจะเอียงศีรษะเล็กน้อย
“อื้ม~ หรือถ้าเลือกไม่ถูก จะเป็นเรื่องที่ไคโตะคุงชอบมาก ๆ ก็ได้นะ”
เธอยิ้มให้ราวกับจะบอกว่าไม่ว่าเขาจะเลือกเล่าเรื่องอะไร เธอก็พร้อมจะฟังอย่างตั้งใจเสมอ
หลุบตาลงครุ่นคิดไปด้วย ฟังดูเหมือนง่ายแต่ยากจัง
นึกไล่เรียงจากความทรงจำว่าเคยบอกเรื่องไหนกับเธอไปแล้วบ้าง ไม่ใช่แค่ที่คุยกันวันนี้ แต่รวมถึงวันก่อน ๆ…มีอะไรที่ยังไม่เคยพูดถึงบ้างนะ รู้สึกเหมือนพูดเรื่องของตัวเองไปหมดแล้วเลย…
ไม่สิ คงมีอยู่นั่นแหละ แต่บางเรื่องพูดไปแล้วจะดีเหรอ ตอนนี้?
เงียบอยู่พักหนึ่งเลยล่ะ
ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย “แต่ไม่ต้องคิดมากก็ได้นะ ไม่ใช่ว่าต้องเป็นเรื่องที่ ‘ไม่เคยเล่ามาก่อน’ ก็ได้”
เธอเอียงคอนิด ๆ
“งั้น..ทำไมไคโตะคุงถึงชอบถ่ายรูปเหรอ?“
ปกติมักจะมีแต่คนบอกว่าเขาเข้าใจยาก แต่เธอ—รู้สึกว่ามีหลายครั้งที่เหมือนจะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะเขาแสดงออกชัด…นี่เธอกำลังมองเขามากแค่ไหนกันนะ?
“เหตุผลเหรอครับ…”
ไม่เคยตอบคำถามนี้อย่างจริงจังเท่าไร แต่ก็ไม่ใช่คำถามกว้างอย่างก่อนหน้านี้ เขาเริ่มเรียบเรียงถ่อยคำ
+