“สำหรับผมสิ่งนี้ฟังดูเข้าท่ากว่าตู้กดน้ำนะครับ แล้วคุณล่ะว่าไง?”
นั่นอาจเป็นคำเชิญชวนหาผู้สมรู้ร่วมคิดในการกระทำความผิด
นั่นอาจเป็นคำเชิญชวนหาผู้สมรู้ร่วมคิดในการกระทำความผิด
Comments
เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ
" ถ้าแอลแต่หัววันแบบนี้ลูกสาวผมรู้เพราะได้กลิ่นเข้าล่ะก็ต้องโดนโกรธเอาแน่ ๆ ไว้ตกกลางคืนหรือวันหน้าที่มีโอกาสจะดึกว่าครับ "
เรนจิว่าจบก็เดินไปกดกาแฟกระป๋องเย็น ๆ มาจากตู้กดน้ำ โชคดีมากเลยที่กระป๋องไม่ติด
แต่เขาก็ยังไม่ได้เปิดกระป๋องดื่มทันทีเมื่อหยิบมันขึ้นมาแล้ว
+
" ผมฟ้องหย่าเธอไปได้หลายปีแล้ว "
เขาตัดสินใจเปิดประเด็นสนทนาด้วยตัวเองจะได้รู้ ๆ กันไปเลยว่าเขากำลังเจอกับอะไรอยู่
+
" ผมเองก็กำลังจะมีรักครั้งใหม่แล้วด้วยเลยกังวลมาก ๆ ว่าเธอจะมาสร้างปัญหาอะไรในชีวิตของผมรึเปล่า รวมถึงชีวิตของลูกอีก.. "
" อา..เหมือนจะพูดมากไปแล้ว ขอโทษนะครับโทโฮเซนเซที่ให้มาฟังเรื่องไร้สาระในครอบครัวผม "
เรนจิหัวเราะแหะ ๆ ทิ้งท้ายหลังจากพูดจบประโยค
“งั้นไม่เกรงใจล่ะ" เขาว่า
"ถ้ายังไงก็ถือซะว่าเราถือความลับของกันและกันอยู่แล้วกันนะครับ ฮิโระทากะเซนเซย์”
เป็นคำกล่าวที่ไม่จริงจังนักพลางยกปากขวดสีเข้มขึ้นจรดริมฝีปาก รับ+
โนกามิถูกพาเข้ามาเป็นพยานของเรื่องราวในครอบครัวไปโดยปริยาย เขาปล่อยให้คู่สนทนาเล่าเรื่องที่อยากเล่าส่วนตัวเองรับบทผู้ฟัง—เหมือนตอนที่เขานั่งฟังปัญหาทางบ้านของนักเรียน—ก็แค่รอบนี้เป็นนักเรียนที่อายุเท่ากันและตัวใหญ่กว่าเขานิดหน่อย
“ไม่หรอก คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเรากับปัญหาครอบครัวดูจะเป็นของคู่กัน +
กล่าวโดยบุรุษที่ในกรอบทะเบียนสมรสยังเป็นกระดาษที่ว่างเปล่า นัยน์ตาของเขาหลุบต่ำ มองดูใบไม้แห้งที่ร่วงจากลำต้นผิดฤดูกาล เหมือนความรักของคนอับโชคบางคนที่ร่วงโรยไม่ได้ผลิบาน
“...เป็นเรื่องยากใช่ไหมครับ การสร้างครอบครัว?”