#ESRA_Starlit | #ESRA_Roleplay |
[3 FEB | หอเต้นรำ] โรลเปิดแยกรูท+โกงเวลา
หลังจากพูดคุยกับผู้คนในงานมาครู่หนึ่ง ลินเดนีก็ขอถอนตัวออกจากบทสนทนามานั่งบนโซฟายาวเพื่อพักขาเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเพิ่งสังเกตเห็น [คุณ] ที่บังเอิญนั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามเธอ
"หืม? ไม่ทันสังเกตุเลย" เธอกล่าวพร้อมคลี่ยิ้ม
"หนีสังคมอยู่เหรอคะ?" ยิงถามยียวนออกไปใส่ [คุณ] ก่อนหัวเราะออกมาเบา ๆ
[3 FEB | หอเต้นรำ] โรลเปิดแยกรูท+โกงเวลา
หลังจากพูดคุยกับผู้คนในงานมาครู่หนึ่ง ลินเดนีก็ขอถอนตัวออกจากบทสนทนามานั่งบนโซฟายาวเพื่อพักขาเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเพิ่งสังเกตเห็น [คุณ] ที่บังเอิญนั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามเธอ
"หืม? ไม่ทันสังเกตุเลย" เธอกล่าวพร้อมคลี่ยิ้ม
"หนีสังคมอยู่เหรอคะ?" ยิงถามยียวนออกไปใส่ [คุณ] ก่อนหัวเราะออกมาเบา ๆ
Comments
"ส สายัณห์สวัสดิ์ท่านหญิงลินเดนี“ รีบละสายตากลับมาที่แก้วเครื่องดื่มในมือแทน
”เรามานั่งพักนิดหน่อย"
ถึงแม้ท่าทางและคำพูดของลินเดนีจะฟังดูหยอกเย้าแต่เบสเตียห์ไม่ได้รู้สึกว่าถูกยั่วโมโหหรืออะไร แต่จะบอกว่าชินกับท่าทางและคำพูดของท่านหญิงก็คงจะไม่ถูกนัก
+
ลินเดนีตอบกลับคำถามของอีกฝ่ายไปพร้อมคงรอยยิ้มตามมารยาทบนใบหน้า ความจริงแล้วเธอไม่มีเรื่องชวนอีกฝ่ายคุยด้วยซ้ำ แต่จะปล่อยให้บรรยากาศเงียบเชียบเข้าปกคลุมทั้งที่เพิ่งได้คุยกันก็ไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างลินพิศวาส เธอจึงเอ่ยปากหยอกเย้าคนตรงหน้าออกไปเพราะเห็นว่าเบสเตียห์น่าแกล้งดี
พูดจบก็สบสายตาอีกฝ่ายพร้อมเลื่อนมือไปเกลี่ยสร้อยบริเวณต้นขาของตน เพราะแน่ใจแน่ ๆ ว่าต่อให้คนตรงหน้าไม่ตั้งใจมองแต่แรก แต่มีสิ่งรบเร้าขนาดนี้ก็คงมีมองซ้ำบ้างแล้วล่ะ
ว่าแล้วก็เกือบหัวเราะออกมาเสียแล้ว
"เรา..มิได้มองอะไรทั้งนั้น"ปฏิเสธเสียงเบา ใจลนลานจนแทบไม่รู้จะวางตัวยังไงเลยยกน้ำขึ้นจิบกลบเกลื่อนพลางคุมสีหน้าให้นิ่ง
เพราะยิ่งทำตัวไม่ถูกก็ยิ่งเหมือนสารภาพไปกลายๆ ว่าตัวเองเผลอมองจริงๆ..
“หรือว่าท่านหญิงเมื่อยเพราะมีคนชวนเต้นเยอะ?"พาเปลี่ยนเรื่อง+
"ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่น่าแปลกใจ..เพราะท่านหญิงดูโดดเด่นมาก"
แท้จริงแม้ไม่ผินหน้ามอง คนถูกทักก็ทราบอยู่แล้วว่าเจ้าของน้ำเสียงเร้าอารมณ์ (โกรธ) คือใคร และเพราะรู้เช่นเห็นชาติอีกฝ่ายดีพอสมควรนั่นแล เธอจึงเลือกที่จะเมินเจตนาในคำพูดเหล่านั้นไปเสียอย่างเคย
"การเข้าสังคมตลอดเวลามันเหนื่อยนี่คะ"
"พี่"
+
ตัวอย่างก็เช่น..การพูดตอบลินเดนีด้วยภาษาออร์คเชี่ยนเมื่อสักครู่เป็นต้น
"ไม่เอาน่าเอส เธอดูเข้าสังคมง่ายกว่าฉันแท้ ๆ "
เอ่ยออกไปตามความคิดผสมคสามเป็นจริง เอสเม่ที่ใส่ใจผู้อื่นเสมอนั้นน่าคบหามากกว่าสาวเจ้าอารมณ์อย่างลินอยู่แล้ว เรื่องนี้ใคร ๆ ก็ทราบดี แต่ถึงกระนั้นคำพูดในประโยคก็ไม่ได้แฝงความผิดหวังต่อเจ้าตัวแต่อย่างใด
"ระหว่างพักก็กินอะไรสักหน่อยล่ะ"
น้ำเสียงที่แฝงความห่วงใยของลินเดนี หากไม่ใช่คนใกล้ชิดคงหาฟังได้ยากนัก
“ลองเดาสิคะว่าฉันหนีอะไรอยู่”
เธอตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจเมื่อเงยหน้าพบลินเดนี รุ่นพี่ที่เธอสนิทด้วย ทั้งเคยชินแล้วกับท่าทีของเจ้าหล่อน เด็กสาวโบกมือน้อย ๆ ให้พัฟบอลเสิร์ฟเครื่องดื่มกับคนที่เพิ่งนั่งลง เดาว่าหล่อนคงเหนื่อย
ตอบคำถามอีกฝ่ายออกไปพร้อมกลั้วหัวเราะเบา ๆ อย่างหยอกล้อ เธอรับน้ำจากพัฟบอลอีกฝ่ายมาถือไว้ก่อนจิบนิดหน่อย
"ใช้งานพัฟบอลเสียคุ้มเชียวนะ"
เอ่ยแซวการกระทำที่คนตรงหน้าเรียกใช้งานเจ้าพัฟบอลตัวน้อยเข้า แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ได้มีเจตนาว่าร้ายใด ๆ ลินเดนีเลื่อนมือของตนไปเกลี่ยขนนุ่มของ 'มิโล' ด้วยความเอ็นดู ทำเอา 'เมิร์ฟ' พัฟบอลของเธอแสดงท่าทางหงอยออกมา
อิโซลเดอเลิกคิ้วรับคำพูดหยอกล้อของเด็กสาวรุ่นพี่พร้อมพ่นหัวเราะเสียงเบา ก่อนจะส่ายหน้า ดวงตามองตามภาพที่ลินเดนีกำลังเล่นกับพัฟบอลของเธอ
“ก็แค่ให้เขาทำสิ่งที่ต้องทำเท่านั้นเองค่ะ”
เธอไม่นึกถือสาคำแซว เพราะถ้ามองจากผ้าคลุมและเข็มกลัดบนตัวมิโลแล้วคงรู้ว่าเขาไม่เคยถูกหมางเมิน
“คืนนี้เลือกชุดได้ดีนะคะ”
ละสายตามาสบกับนัยต์ตาอีกฝ่าย เอ่ยกล่าวขอบคุณไปพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า โดยไม่ลืมที่จะชมกลับไปด้วย
เพิ่งสังเกตว่าพัฟบอลของตนเองนั้นบินวนไปวนมาแถวหญิงสาวคนตรงข้ามตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่แน่ใจ เธอจึงดุออกไปเพราะเจ้านั่นไม่ยอมกลับมาอยู่ข้างเธอ
"เมิร์ฟ กลับมานี่"
แต่ดูเหมือนว่าจะถูกพัฟบอลตัวเองงอนเข้าเสียแล้ว
"ขอโทษด้วย เมิร์ฟเขาดื้อน่ะ"
“ช่างเถอะค่ะ”
เธอพูดถึงเจ้าตัวเล็กที่บินวนไปมาไม่อยู่สุข นิ้วเรียวเอื้อมไปจิ้มกลางหน้าผากของเมิร์ฟ
“งอนไม่เข้าเรื่องเสียจริง”
ดวงตาสีทองปรายหาพัฟบอลของตน มิโลรีบเข้ามาปลอบเพื่อนตัวน้อยทันทีอย่างรู้งาน
“เตรียมตัวสำหรับการขึ้นปีสี่ไว้อย่างไรบ้างล่ะคะ? ลินเดนี”