“…”
มองอีกคนแล้วกระพริบตาปริบๆ ไหงเร่งเดินเร็วขึ้นกว่าเดิมกันนะ
“ก็นายจะรีบเดินทำไมเล่า”
พูดเเล้วก็เร่งเดินเร็วขึ้นเล็กน้อยเพื่อจะได้เดินตามอีกฝ่ายทัน
“ไอติมมันไม่หนีนายไปไหนหรอกนะ”
เขาพูดนิ่งพร้อมมองอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะหงุดหงิดนิดหน่อย แต่เจ้าตัวไม่รู้สาเหตุที่อีกคนหงุดหงิดหรอก
มองอีกคนแล้วกระพริบตาปริบๆ ไหงเร่งเดินเร็วขึ้นกว่าเดิมกันนะ
“ก็นายจะรีบเดินทำไมเล่า”
พูดเเล้วก็เร่งเดินเร็วขึ้นเล็กน้อยเพื่อจะได้เดินตามอีกฝ่ายทัน
“ไอติมมันไม่หนีนายไปไหนหรอกนะ”
เขาพูดนิ่งพร้อมมองอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะหงุดหงิดนิดหน่อย แต่เจ้าตัวไม่รู้สาเหตุที่อีกคนหงุดหงิดหรอก
Comments
'เจ้าเบื๊อก ที่ฉันเดินเร็วมันไม่ใช่เพราะไอติมสักหน่อย! มันเพราะนายต่างหาก'
เขาคิดในใจขณะที่ฝีเท้าของเขาก็ไม่ได้ลดความเร็วลงเลย
"ใช่ ฉันกลัวว่ามันจะหนีฉันไป"
เขากำลังหมายถึงการที่ไอติมถูกขายไปจนหมด แต่เขาไม่รู้ว่าอีกคนจะเข้าใจเหมือนกับที่เขาเข้าใจรึป่าว
"นายไม่คิดบ้างหรอว่าไอติมมันหนีนายได้จริงๆ"
“นายเป็นคนแปลกๆดีนะ..กลัวไอติมหนีเนี่ย”
ความเข้าใจที่ถูกบิดเบือน ไม่ได้เข้าใจเหมือนอีกคนเลยสักนิด เข้าใจว่าอีกฝ่ายกลัวไอติมหนีจริงๆ
“ไม่อ่ะ ไม่เคยคิดว่ามันจะหนีได้เลย”
“แต่ถ้ามีแขนขางอกออกมาคงเป็นอีกเรื่องนึง”
พูดไปก็จินตนาการไอติมมีแขนขางอกออกมาไปด้วย
เร็นยืนนิ่งเมื่อได้ยินคำพูดอีกคน ตกใจนิดหน่อยไม่คิดว่าจะซื่อบื้อขนาดนี้
”ไม่ใช่แบบนั้นสิรุ่นพี่ ฉันหมายถึง ฉันกลัวว่าไอติมจะหมดก่อนที่เราจะไปถึงกันต่างหากเล่า“
คิ้วขมวดเข้าหากันขณะที่กำลังอธิบายให้อีกคนเข้าใจตรงกัน
‘เข้าใจว่าไอติมมีแขนขา เนี่ยนะ ให้ตายเถอะ!’
เขามองอีกคนอธิบายด้วยหน้านิ่งๆก่อนเบี่ยงสายตาไปอีกทาง
“อย่างงั้นเองสินะ..อืม”
“เข้าใจเเล้ว”
อยู่ๆก็รู้สึกอับอายขายขึ้หน้าประชาชนยังไงไม่รู้ แต่เก็บอาการเอาไว้สุดฤทธิ์
“รีบเดินไปร้านไอติมกันดีกว่า นายกลัวหมดนี่เนอะ”
เดินเร่งความไวยิ่งกว่าเดิมจนนำอีกคนไป
แล้วเรื่องอะไรที่เขาจะยอม ก็วิ่งนำไปเลยสิ
"ฮ่า! ใครถึงก่อนจะเป็นคนชนะ"
เเละบทลงโทษของผู้แพ้คือให้เร็นเลี้ยงไอติม เอาง่ายๆคือเป็นการ'บังคับ'
( กินไอติมให้อร่อยนะเด็กๆ 🤣 )