[1FED|หน้าประตูทางเข้าอคาเดมี่|ย้อนเวลาไปเมื่อ 11:30]
ยามสายของวันนี้ คุณ กำลังกินลมชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของอคาเดมี่ กระทั่งหางตาของ คุณ ได้เหลือบมองออกไปหลังลั้วประตู
คุณ ได้เห็นเลดี้ที่กำลังยืนเหม่อลอยอยู่หน้าลั้วอคาเดมี่หญิงสาวเจ้าของดวงตาสีเขียวอ่อนหันมาสบมองด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะเอ่ยคำหนึ่งขึ้นมา
"สวัสดียามสายค่ะ?" น้ำเสียงใสเอ่ยทักทาย
(มาโรลเนียนรู้จักได้นะคะ)
ยามสายของวันนี้ คุณ กำลังกินลมชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของอคาเดมี่ กระทั่งหางตาของ คุณ ได้เหลือบมองออกไปหลังลั้วประตู
คุณ ได้เห็นเลดี้ที่กำลังยืนเหม่อลอยอยู่หน้าลั้วอคาเดมี่หญิงสาวเจ้าของดวงตาสีเขียวอ่อนหันมาสบมองด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะเอ่ยคำหนึ่งขึ้นมา
"สวัสดียามสายค่ะ?" น้ำเสียงใสเอ่ยทักทาย
(มาโรลเนียนรู้จักได้นะคะ)
Comments
“สวัสดี?”
ไม่ได้ตั้งใจจะมองแต่ดันเผลอหันหน้าไปทางนั้นเสียได้
ต้องตอบรับอย่างเสียไม่ได้—เจ้าหญิงในชุดลำลองถอดแว่นตากันแดดสีชาส่งให้พัฟบอลเก็บ เผยให้เห็นดวงตาคู่คมที่เลื่อนมาสบกับอวัยวะเดียวกันของอีกฝ่าย
“ไม่เข้ามาหรือคะ?”
เพราะยังไม่ทราบชื่อจึงไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นรูมเมทของตน แต่เห็นถือกระเป๋ายืนเหม่ออยู่นอกรั้วเลยเดาไปก่อนว่าเป็นนักเรียน
นี่เธอยืนเหม่อลอยอีกแลเวเหรอเนี่ย!?
นางบ่นอยู่ในใจแล้วยังคงส่งสายตาเรียบเฉยให้เจ้าของเลือนผมสีดำเงางาม เมื่อนางเอ่ยทักอีกครั้ง
ความประหม่าเข้าครอบงำทั้งที่ตัวเธอเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาเองแท้ๆ นางสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อสงบสติอารมณ์
"เข้าค่ะ" นางก้าวเดินเข้ามาด้านใน
"ดิชั้น ชื่อลาจูรีน่า เดอร์มายองตี้ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"
“ยินดีที่ได้พบคุณ”
ลาจูรีน่า? เหมือนเพิ่งได้ยินชื่อเมื่อไม่นานมานี้—ไม่ทันได้สงสัยต่อ เจ้าคู่หูก้อนขนก็เข้ามากระซิบคำบางอย่างให้หายคาใจ
“โอ้” รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฎที่มุมปาก “ลาจูรีน่า…นั่นชื่อเพื่อนร่วมห้องพักของเรา”
เมื่อเช้านี่เองที่หล่อนได้ยินชื่อนี้จากพัฟบอล
“มาสิ เราจะพาคุณไปส่งที่ห้องพัก”
"เพื่อนร่วมห้อง?"
ใบหน้าราบเรียบดั่งรูปปั้นเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อยแม้จะไม่ได้แตกต่างจากก่อนหน้านั้นนัก
"ค่ะงั้นเราไปห้องกันเถอะค่ะ" เธอสาวเท้าเข้ามาใกล้
"คุณไดอาน่าอยู่ปี3ใช่ไหมคะ"
นางรู้สึกคุ้นๆว่าอีกฝ่ายอายุมากกว่าเธอ 1 ปี
ตอบรับสั้นๆ ขณะเดินตรงไปทางหอพัก
“เท่าที่ทราบคือคุณอยู่ปีสอง...”
เว้นจังหวะพลางเหลือบมองคนด้านข้าง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีข้อมูลอะไรผิดพลาดจึงกล่าวต่อ
“...และนอกจากพวกเรา ยังมีปีหนึ่งอีกสองคน” ซึ่งหล่อนก็ยังไม่ทันเห็นหน้าค่าตา—บางทีหากขึ้นไปที่ห้องอาจเจอพวกเขาก็ได้
“ว่าแต่...คุณไม่ได้มีสัตว์เลี้ยงมาด้วยใช่ไหม?”
"ถ้าเจอหน้ากัยพวกเรารองมาจัด ปาร์ตี้น้ำชาเล็กๆแนะนำตัวให้รุ่นน้องกับพวกเรารู้จักกันดีไหมคะ"
"ออ พับบอลของฉันชอบบินเล่นไปทั่วอคาเดมี่ อีกเดี๋ยวก็คงมาหาฉันเองล่ะค่ะ"
ช่วงสาย สาวผิวสีน่ำผึ้งผมบรอนถักเปียหลายช่อยืนชมวิวควบคู่กับกระดาษแผนที่เพื่อเข้าใจสถานที่ใหม่ที่เธอจะอยู่นับจากนี้ให้คุ้นชิน สายตาสีแดงสะดุดตากับหญ้งงามท่านหนึ่ง
เธอมองคุณด้วยความอัศจรรย์ในทรงผมที่มีเอกลักษณ์ จนถูกเธอทักทายกลับ จึงได้รู้ตัวว่าเผลอจับจ้องมองนานเกินไป
“... ส สวัสดีเจ้าค่ะ”
“ถ้าเผลอมองนานไป ต้องขออภัยด้วย... คือว่า ผมของคุณ สวยมากเลยน่ะค่ะ”
หลังจากที่เธอเหม่อลอยมองดูเจ้าใสไหมบนท้องฟ้า เธอก็ก้าวเดินเข้ามาด้านในลั้วอคาเดมี่แสนคุ้นเคย
หญิงสาวมองดูเจ้าของดวงตาสีแดงงามคล้ายเพชรทัพทิมอันเลอโฉม
"ฉันไม่ติอะไรหริกค่ะ ไม่ต้องขอโทษหรอก"เธอพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนชะงักเมื่อถูกชม จะงอยยาวประดับด้วยดอกระฆังส่ายไปมาอย่างชอบใจ
"ขอบคุณที่ชมค่ะ ดวงตาของเลดี้เองก็งดงามราวกับเพชรพลอย"
”ขอบคุณที่ชมเช่นกันเจ้าค่ะ“
”...“
”ฉันชื่อ เซย์เฮริค่ะ เซย์เฮริ โอโรธามนัส ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ“ เซย์เฮริเริ่มแนะนำตัวอย่างนอบน้อมและด้วยน้ำเสียงที่ใครฟังก็รู้สึกเยียวยาใจ มันทั้งไพเราะและนุ่มนวล
จะงอยยาวโค้งขึ้นบอกถึงความผ่อนคลายของลาจูรี่
นอกจากจะใบหน้าน่านักและรอมยิ้มสดใสยังมีเสียงที่ไพรเราะจนนางรู้สึกผ่อนคลายยิ่งกว่าเดิม
"เลดี้เพิ่งย้ายมาใช่ไหมคะ"
เธอหรี่สายตามองแผนที่อคาเดมี่บนมือสีร้ำผึ้ง ก็พอเดาได้ว่าอาจอยู่ปี1
“เจ้าค่ะ ฉันพึ่งได้มาเรียนที่นี่ เลยกำลังเดินดูสถานที่ตามแผนที่ ตอนเริ่มเรียนจริงจะได้ไม่หลงทางน่ะค่ะ”
“พอได้ออกมาข้างยอกลำพังครั้งแรก เลยรู้สึกต้องพยายามเตรียมตัวเตรียมใจมากกว่าปกติหลายเท่าตัวเลย แต่ก็จะพยายามเจ้าค่ะ”
"ถ้าเลดี้ไม่รังเกียจ มาเดินชมไปพร้อมกับดินฉันไหมคะ"
การช่วยเหลือรุ่นน้องคือหน้าที่หนึ่งของรุ่นพี่ที่ดี
"ความน่ารักและสดใสของเลดี้รวมถึงความพยายาม มันต้องผ่านพ้นไปด้วยดีแน่ๆค่ะ"
เธอพูดให้กำลังใจอีกฝ่ายแล้วก้าวเดินอย่างเอื่อยเพื่อนำพาหญิงสาวไปชมอคาเดมี่
"เอ่อ...สวัสดีครับ"
หลังจากเขาได้เก็บของเข้าห้องแล้วมาเดินซักหน่อย เขาก็ได้เจอกับหญิงสาวที่จะเตรียมตัวเข้าหอพัก
"พึ่งมาหรอครับ ผมเอาก็...เอ่อ...พึ่งมาเข่นกันครับ"
เหมือนจะประหม่าเล็กน้อย แต่ก็ยังสบายดีอยู่ อีกฝ่ายดูสะดุดตาดี
"งั้นเหรอคะ" เธอพูดขึ้นด้วยใบหน้าเรียบ
แต่ภายในใจนั้น นี่ฉันดันทักไปจนได้เอายังไงดีจะพูดยังไงดีเนี่ยบรรยากาศดูเงียบเกินไปแล้ว คิดสิคิดลาจูรี่!!!!
ความเงียบครอบงำได้ไม่นานหญิงสาวก็พูดขึ้นมาว่า
"วันนี้อากาศเย็นสบายดีนะคะ ไม่หนาวเกินไปไม่ร้องเกินไป"
//เธอเดินเข้ามาด้านในอคาเดมี่
"มัน.....ก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวนิดนึงด้วย คุณเองก็เหมือนกันใช่ไหมครับ"
ไอเรื่องการปรับตัวเข้ากับอากาศยิ่งร่างกายอ่อนแอแบบนี้ก็ลำบากมาก
เธอถามอย่างสงสัยพรางมองชายตรงหน้าที่พูดจาตะกุกตะกัก ประหม่าไม่ต่างอะไรจากตัวเธอ
"เราเดินไปคุยไปกันดีไหมคะ" เธอเสนอความคิด"อะ ล่ะก็ดิฉันชื่อลาจูรีน่า เดอร์มายองตี้ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"
"แต่ว่าก็เป็นที่ที่สวยสำหรับผม"
ถ้าจะให้เทียบประเทศของเขากับเพื่อนบ้านอื่นๆ ประเทศเขาก็มีสิ่งร่วมคือสภาพอากาศนี่แหละ แต่วัฒนธรรมอะไรนี่มันไม่เหมือนกันเลย
"เอ่อ อิซซาคาร์ที่ 4 เบโนวิช แห่งซาโลมครับ"
ขนาดที่นี่อากาศเปลี่ยนนิดหน่อยเธอก็เป็นหวัดอ่อนๆแล้ว ไม่อยากนึกถ้าอยู่นั่นเธออาจป่วยง่าย
" คุณพูดแบบนี้ฉันชักอยากไปดูความสวยงามของที่นั่นแล้วสิ"
บางทีอาจมีผีเสื้อปีกแปลกๆก็ได้
"ชื่อนี้มีความหมายอัำรหรือเปล่าคะ"เธอถามอีกครั้งเพราะมันเป็นชื่อที่ไพรเราะและแปลกใหม่