#KMI_เปิดโรล
ร้านหนังสือ ‘โทวะ‘ | ช่วงเวลาประมาณ 17:00~ | แยกรูธ
เวลาตอนนี้คงจะเป็นเวลาเลิกเรียน หรือเลิกทำงานสำหรับพวกคุณแล้ว—ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม พวกคุณตัดสินใจที่จะแวะร้าน ‘โทวะ‘ ก่อนที่จะกลับบ้าน พักผ่อนให้เต็มที่
แน่นอนว่า คนที่นั่งเฝ้าร้านอยู่ไม่ใช่ใคร แต่เป็นชายหนุ่มใส่แว่น เจ้าของร้านคนเดิมที่พวกคุณคุ้นตาดี
“สวัสดีตอนเย็น~”
“เป็นยังไงบ้าง? ชีวิตช่วงนี้”
ร้านหนังสือ ‘โทวะ‘ | ช่วงเวลาประมาณ 17:00~ | แยกรูธ
เวลาตอนนี้คงจะเป็นเวลาเลิกเรียน หรือเลิกทำงานสำหรับพวกคุณแล้ว—ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม พวกคุณตัดสินใจที่จะแวะร้าน ‘โทวะ‘ ก่อนที่จะกลับบ้าน พักผ่อนให้เต็มที่
แน่นอนว่า คนที่นั่งเฝ้าร้านอยู่ไม่ใช่ใคร แต่เป็นชายหนุ่มใส่แว่น เจ้าของร้านคนเดิมที่พวกคุณคุ้นตาดี
“สวัสดีตอนเย็น~”
“เป็นยังไงบ้าง? ชีวิตช่วงนี้”
Comments
ร้านโทวะอยู่ค่อนข้างไกลจากบ้านของอุซากิ แต่เพราะชอบในบรรยากาศเลยมักหาโอกาสแวะมาเรื่อยๆ
แม้จะเป็นวันที่อากาศร้อนจัดเช่นวันนี้
“สายัณห์สวัสดิ์ครับ” สภาพเหงื่อซ่กไปทั้งตัว
“รู้สึกเหมือนได้อาบน้ำอีกรอบทุกครั้งที่ออกบ้านเลยล่ะ หวังว่าขากลับอากาศจะเย็นกว่านี้“
“แล้วนางิคุงละครับ ช่วงนี้เป็นไงบ้าง“ เห็นว่ายังไม่มีคนเลยลากขามาหยุดคุยที่หน้าเคาน์เตอร์ก่อน
“เริ่มร้อนแล้วเนอะครับ~…”
เขาพูดตอบคุณทั้งๆที่พัดลมจ่ออยู่ข้างตัว
ตำแหน่งของพัดลมแวบแรกอาจจะไม่เห็น แต่ทันทีที่คุณเดินเข้ามาใกล้เคาน์เตอร์ ก็คงจะสังเกตเห็นอยู่ล่ะนะ
เพราะงั้นตอนที่คุณเดินมา เขาก็เลยกึ่งลากกึ่งยกพัดลมมาให้โดนคุณด้วย
“หลังจากนี้มีแนวโน้มจะร้อนขึ้นอีกน่ะสิครับ~ แย่เลยหนา~…”
“ส่วนผมก็เรื่อยๆ~ จัดหนังสือบ้าง นักตรวจคำผิดให้วิจัยบ้าง สลับกันไปล่ะ~”
“ถ้ายังจะร้อนกว่านี้อีก ผมต้องแย่แน่ๆ เลย“ ตัวเหลวหดลงไปอีก 2 นิ้ว
“อากาศแบบนี้แต่นางิคุงยังดูทำงานได้สบายๆ เลยนะเนี่ย ทั้งๆ ที่มีแค่พัดลมแท้ๆ”
”อ้า ว่าแต่ หนังสือสอนทำขนมอยู่ตรงไหนเหรอครับ?“ นั่นคือเป้าหมายในวันนี้ล่ะ
อีกนิดเขาก็แทบจะกอดพัดลมแล้ว
"เมื่อเช้าก็เริ่มรู้สึกแล้วล่ะว่าอากาศร้อน~ แต่ไม่นึกว่ามันจะร้อนขึ้นเรื่อยๆระหว่างวันน่ะ~ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้จะเปลี่ยนเสื้อให้เหมาะกับอากาศมากกว่านี้ แล้วก็ว่าจะเริ่มเปิดแอร์แล้ว~"
ว่าจบก็ชี้ขึ้นข้างบนให้คุณดู มีแอร์ติดอยู่ประมาณ 2-3ตัวได้
"อยู่ตู้ด้านในสุดซ้ายมือน่ะ~ลองไปเลือกดูก่อนได้หนา~"
"สายัณห์สวัสดิ์นางิซัง~" ◠‿◠ )
เจ้าหนุ่มผมส้มเดินเข้ามาในร้านและทักทายคุณกลับเป็นอย่างแรก
แค่ง้างประตูไว้แป้บเดียวไอร้อนก็เริ่มลอยตามเข้ามาแล้ว พอรู้ตัวก็เลยรีบดันประตูปิดอย่างไว
"ปกติดี เรื่อยๆ"
"ไม่ค่อยมีอะไรพิเศษน่ะ" ว่าตอบพลางสอดส่องสายตาไปทั่วร้าน
"แล้วคุณล่ะ วันนี้เป็นยังไงบ้าง"
"เหงามั้ย?"
“สายันต์สวัสดิ์~ โคโบะจัง~”
เขาเอ่ยทักทายเด็กหนุ่มตอบ และหัวเราะเล็กน้อยให้กับท่าทีตอบสนองต่ออากาศร้อนนั่น จึงอดไม่ได้ที่จะหันพัดลมแบ่งให้คุณเสียหน่อย
“ผมเองก็เรื่อยๆ~ มีลูกค้าเข้าๆออกๆเป็นช่วง แต่ก็เงียบพอสมควรเลย~”
“ตอนแรกก็เหงานิดหน่อย อยู่กับมิเกะสองคน~ แต่พอโคโบะจังมาก็หายเหงาแล้วล่ะหนา~”
"โอ๊ะ ขอบคุณมาก ขอบคุณมาก " คุณหันพัดลมมาให้ก็ถือวิสาสะมายืนรับลมอยู่ใกล้ๆด้วยเลย
"คิก..งั้นเหรอ ถ้างั้นผมจะเป็นคนทำลายความสงบสุขนั้นเองนะ" ☺️
อาจจะหมายความว่าจะอยู่เป็นเพื่อนคุยก็ได้ แต่รูปประโยคก็ยังฟังดูแปลกอยู่ดี
"อีกเดี๋ยวก็จะปิดเทอมฤดูร้อนแล้ว ระหว่างนี้ก็อดทนรออีกหน่อยแล้วกัน~"
"พอจะมีรึเปล่า"
พูดจบเขาก็วางกระดาษใบหนึ่งให้ดู เป็นลิสต์หนังสือที่ต้องการในวันนี้ เขียนไว้ไม่ยาวมาก และส่วนใหญ่ก็เป็นหนังสือเรียนเสริมที่จำเป็นต้องใช้ก่อนสอบล่ะ
"สวัสดีตอนเย็น"
ค้อมหัวให้เล็กน้อย ทางด้านสึกิจังก็ร้อง มิ้ว ทักทายคนแปลกหน้า
"ช่วงนี้ก็เรื่อยๆ แต่อากาศร้อนทำให้ไม่อยากออกไปไหนเลย"
ถอนใจเบาๆ ก็นะ ดูถูกหน้าร้อนของญี่ปุ่นไม่ได้เลยจริงๆ
"จริงสิ นี่คือสึกิจังที่บอกว่าจะพามาไง"
ว่าพลางอุ้มแมวให้ดู
พอเห็นเจ้าแมวที่อีกฝ่ายอุ้มมาด้วย นางิก็อ้าปากกว้าง ถึงจะมองไม่เห็นแววตาที่อยู่ใต้แว่น แต่ออร่าที่แผ่ออกมาก็พอรู้ได้ว่าเขาดีใจสุดๆ
“สึกิจังง~~” เสียงสอง
“มากันไกลทั้งสองคนเลย~ ขอบคุณที่แวะมาหากันหนา~ จริงสิ—“
นางิมุดหายลงไปใต้เคาน์เตอร์ ก่อนจะโผล่ขึ้นมาอีกทีพร้อมกับแมวสามสีในอ้อมกอดหนึ่งตัว ดูสะลึมสะลือเต็มที่เลย
”ส่วนนี่มิเกะคร้าบ~“
"มิเกะซังสินะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยล่ะ"
สึกิจังในอ้อมแขนก็ร้อง มิ้ว อย่างกระตือรือร้น ดูเหมือนจะอยากทักทายแมวเพื่อนใหม่นะ
"มิเกะซังอายุเท่าไหร่แล้วเหรอ?"
ก้มถามเจ้าแมวสามสี ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้คาดหวังให้มันพูดตอบหรอก-
“7 ขวบแล้วล่ะ~ ถือเป็นแมววัยกลางคน แต่เจ้าตัวก็ทำตัวเหมือนแมวแก่อายุ10กว่าปีเลย~ คงเพราะอยู่กับคนแก่มาตลอดล่ะหนา~”
นางิค่อยๆวางมิเกะที่เริ่มตื่นลงบนโต๊ะ เคาน์เตอร์ เมื่อเจ้าเหมียวเห็นคนมาใหม่ ก็ยื่นศีรษะไปหาเพื่อดมกลิ่นอยู่ซักพัก ก่อนจะไถแขนของคุณเบาๆ
ดูเหมือนเธอจะชอบคุณไม่น้อยเลย
เมื่อเจ้าแมวเข้ามานัวเนียที่แขนก็เผลอยิ้มบางๆออกมา
เขาเองก็วางสึกิจังลงบนโต๊ะ หลังจากที่มองเพื่อนใหม่ทั้งสองอยู่สักพักก็ร้อง มิ้ว ออกมาราวกับขออนุญาติก่อนเดินเข้าไปดอมดม
สึกิจังที่เป็นมิตรกับทุกสิ่งบนโลกอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหากับการมีเพื่อนใหม่ และดูเหมือนจะชอบทั้งนางิและมิเกะเช่นเดียวกัน
"ได้เพื่อนเพิ่มแล้วนะสึกิจัง"
ว่าพลางลูบหัวเจ้าแมวเบาๆ
“สึกิจัง~ เป็นเด็กดีหนา~”
นางิใช้เวลาในการลูบสึกิอยู่ซักพักจึงผละมือออก ก่อนจะหันกลับมาหาเออิจิเช่นเดิม
“ฟุรุยะคุงเดินดูรอบๆร้านก่อนมั้ย?~ หรือว่ามีหนังสืออะไรที่สนใจหรือเปล่า~”
"ถ้าเรื่องที่โรงเรียนราบรื่นดีครับอามามิยะซัง...แต่เรื่องผมกับที่บ้านนี่..."
โฮตารุที่ตั้งใจจะแวะมาซื้อหนังสือเพื่อจะช่วยในการตามหาความจริงเกี่ยวกับอะไรก็ตามที่ติดตามเขาอยู่ยิ้มแห้งๆให้กับคนที่เหมือนพี่ชายของเขาอีกคนนึง
"...ยากสุดๆเลยล่ะครับ"
ก่อนจะถอนหายใจเพราะคนที่ควรจะรู้อะไรอย่างคุณตา อามาโนะ ไคมงนั้นไม่ยอมบอกอะไรเลยนี่สิ
น้ำเสียงของเขากระชับขึ้นเล็กน้อย มือที่เท้าคางลดลงเป็นท่านั่งที่เหมาะสมมากขึ้น แล้วก็ลากเก้าอี้อีกตัวออกมาจากหลังโต๊ะมาให้อีกคน
"ถ้ายังไม่พร้อมเล่าก็ไม่เป็นไรนะ~ เห็นโฮตารุจังไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่น่ะ"
"มานั่งพักตากพัดลมเฉยๆก็ได้"
โฮตารุนั่งลงบนเก้าอี้ที่ผู้ใหญ่ลากมาให้
"อามามิยะซังเชื่อเรื่องวิญญาณมั้ยครับ?"
ก่อรจะถามคำถามก่อนเล่าเพราะเรื่องที่เขามีปัญหากับคุณตาก็เกี่ยวกับวิญญาณนี่แหละ
“ถึงผมจะเป็นคนที่ได้เจอเหตุการณ์ประหลาดๆค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับคนอื่นก็เถอะ”
นางิขยับพัดลมให้โดนตัวโฮตารุด้วย เผื่อว่าลมเย็นๆจะช่วยให้สบายใจมากขึ้นอีกหน่อย… ก่อนจะนั่งเงียบรอฟังเรื่องของอีกฝ่าย
ก็นะตอนที่อีกฝ่ายไปจัดการเรื่องงานศพก็น่าจะเคยเห็นความแปลกของบ้านฮิกันบานะ.ทุ่งฮิกันบานะจิ๋วที่บานอยู่ตลอด
"ผมมองเห็นพวกเขาตั้งแต่หกขวบเลยล่ะครับ โดยส่วนใหญ่พวกเขาจะคอยดูแลผมเหมือนกับว่าเป็นครอบครัวเลยล่ะครับ"
+
ทุกอย่างก็ยังปรกติในฐานะครอบครัวสัปเหร่อแหละจนกระทั่ง
"จนกระทั่งน่าจะช่วงหกขวที่ผมไปเล่นในห้องเก็บของของคุณตาแล้วหมดสติไป ตื่นมาอีกทีผมก็ได้ยินเสียงครับ เสียงเหมือนคนใส่เกี้ยะไม้เดินคอยเดินอยู่ข้างๆหรือเดินนำผม"
+
"สวัสดีตอนเย็นครับ นางิซัง"
"ดีเหมือนที่ผ่านๆมาเลยล่ะครับ ถึงมีแอบเหงาที่งานโรงเรียนเพิ่งจบไปนิดหน่อย แล้วนางิซังล่ะครับ?"
เด็กหนุ่มถามเจ้าของร้านกลับไป วันนี้เขามาหายืมหนังสือสูตรขนมเก่า ๆ ดังทุกครั้ง พลางพูดถึงงานโรงเรียนเพราะอีกฝ่ายเองก็แวะมาที่ห้องพวกเขาด้วย
เขาไม่ได้ลุกตามอีกฝ่ายไป เพียงแต่ปล่อยให้เดินดูหนังสือเท่าที่อยาก สำหรับนางิก็เป็นภาพที่ค่อนข้างคุ้นตาดีที่จะเห็นเร็นเดินไปยังมุมหนังสือทำอาหารเป็นที่แรก
“เรื่อยๆล่ะ~ ช่วงงานวัฒนธรรมได้มีไปช่วยงานเด็กๆนิดหน่อย คนยังเยอะแล้วก็คึกครื้นทุกปีเลยหนา~”
เขาพูดพลางมีรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก แต่ก็เปลี่ยนไปมามีบึ้งแสดงความเศร้าใจประโยคสุดท้าย
"ใช่ครับ ปีนี้เหมือนแต่ละห้องเองก็จัดเต็มกันสุดๆเลยด้วยครับ"
เรนพลิกหนังสือดูหลังปกระหว่างพูดคุย เหมือนตอนนี้ที่แขนของเขาจะมีหนังสืออยู่สองเล่มแล้ว
"แล้วห้องเรนเป็นยังไงบ้าง นางิซังสนุกไหมครับ?"
ตอนนั้นที่อีกคนวิ่งมา แถมโดนลากกลับไปอย่างไว ทำเอาเขาเกือบสังเกตไม่ทันว่านั่นคือเรนจัง
"ธีมของห่องเรนจังน่าสนใจมากเลยนะ~ทั้งเรนจังทั้งคนอื่นเล่นสมบทบาทสุดๆ เก่งเก่ง~"
เขาหัวเราะเล็กน้อย
"จริงสิ เรนจังทำเมนูไหนบ้างเหรอ?"
“สวัสดีค้าบ”
เขาเปิดประตูเข้ามาร้านหนังสือเพื่อหาหนังสือรายสัปดาห์เล่มใหม่
“ช่วงนี้ร้อนอย่างกับตกนรกค้าบ”
แน่นอนอยู่แล้วว่าเขาต้องร้อนกว่าคนอื่น ก็เขาเล่นใส่เสื้อฮู้ทตัวเดิมที่ใส่กับฤดูอื่นๆเลย
โชคดีแค่ไหนไม่เป็นลมแดด
“…ต้องเปลี่ยนเป็นแขนสั้นแล้วสิเนี่ย…”
นอกเหนือจากคุณ ก็มีเขาที่ยังติดใส่เสื้อแขนยาว แล้วคลุมด้วยฮาโอริอยู่
…แค่เห็นก็รู้สึกได้ถึงความร้อนอบ
“เธอเองก็ดื่มน้ำเยอะๆ อย่าปล่อยให้ตัวเองขาดน้ำล่ะ~”
“ว่าแต่ หาหนังสืออะไรอยู่หรือเปล่า?~ ถามได้หนา~”
เข้าใจมั้ย ไม่หรอกคุณไม่ต้องเข้าใจเพราะโมโมเสะเอกลักษณ์เกินไป อีกฝ่ายจะสฃสัยก็ไม่แปลก
“ออหนังสือ รู้จักนิยายเล่มมั้ยครับ ผมอยากได้หน่ะครับ”
เขายื่นรูปให้ดู
แน่นอน ได้ยินแวบแรกเขาก็มีเครื่องหมาย ? ขึ้นมาบนหัวเป็นธรรมดา
“…งั้น~ ถ้ากลัวร้อนเกินไปก็ลองแปะพวกคูลฟีเวอร์ไว้ใต้เสื้อก็ได้นะ?~”
…เป็นคำแนะนำที่ฟังแล้วดูตลกสิ้นดี แต่ถ้าอีกฝ่ายพูดเป็นเชิงไม่อยากถอดเสื้อฮู้ดนั่น เขาก็ไม่พูดเชิงให้เปลี่ยนเสื้อซะหรืออะไรหรอก
“หือ?~ ไหนๆ~”
นางิเดินไปดูหนังสือตัวอย่างของอีกฝ่าย เป็นหนังสือแนวไหนกันนะ สยองขวัญ? สืบสวน? แอคชั่น?
เขาเพิ่งคิดได้หลังผ่านไปแล้ว6ปี…
“ออเล่มนี้ นิยายพีเรียดแนวโรแมนติดครับ วิวาร์นองเลือด” (โมเมว่ามีได้เลยนะคะผมมโนขึ้นมา65555)
“ผมต้องทำความเข้าใจบทตัวพี่สาวหน่ะครับ“
เขาชี้ไปในรูปในมือถือและก็ชี้ไปที่ตัวละครพี่สาว
”ผมอ่านในบทของตัวเองไม่เข้าใจเลยหน่ะครับ“
”คิดว่าถ้าอ่านต้นฉบับก็จะเข้าใจ“
เขาเกาหัวและพูดออกไปอย่างกันเองจาทปกติ
แต่ไม่ได้เอะใจเลย
เขาลุกขึ้นหลังพูดจบ ก่อนจะเดินหายไปไล่ดูตามชั้นหนังสือ--แต่ก็ไม่ลืมที่จะส่งเสียงคุยกลับมา
"หนุ่มน้อยเป็นนักแสดงเหรอ?~"
ปิดประตูร้านเบาๆก่อนที่จะหันไปทักทายคนที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์
" มีนิตยสารอะไรใหม่ๆเข้ามาบ้างไหมคะ~? "
“ช่วงนี้เหรอ~? เอ…”
เขาลุกออกมาจากเคาน์เตอร์เพื่อช่วยดูหนังสือมาใหม่ เอียงคอคิดอยู่ซักพักก่อนจะหยิบมาให้ประมาณ 2-3 เล่ม
“มีนิตยสารแฟชั่น กับนิตยสารไลฟ์สไตล์รายเดือนน่ะ~ ช่วงนี้ออกเล่มใหม่พอดีเลย อ้อ แล้วก็นิตยสารเชิงวิทยาศาสตร์”
“ทาคาโนะจังหาเล่มไหนเป็นพิเศษรึเปล่า~?”
" โอ้ว~ มีแต่ของที่น่าสนใจเต็มไปหมดเลย✨️ ซารินะเลือกไม่ถูกเลยค่ะ ฮ่าๆ~ "
" คุณอามามิยะช่วยเลือกให้ซารินะหน่อยได้ไหมคะ🥺 "
หญิงสาวมองนิตยสารที่วางอยู่ตาเป็นประกาย อย่างกะเด็กที่เจอของเล่นที่ถูกใจเลย แต่ว่าถ้าจะซื้อไปหมดก็กลัวจะอ่านไม่ทัน เธอเลยขอคำแนะนำจากคนตรงหน้าแทน
นอกเหนือจากเล่มที่เขาพูดถึงอยู่ แทนที่จะหยิบนิตยสารเล่มใหม่ นางิกลับวางพวกมันลง แล้วเดินไปหยิบเล่มที่เก่ากว่ามาแทน
”ทาคาโนะจังเคยบอกว่าชอบเย็บปักถักร้อยหรือเปล่านะ?~ นิตยสารเล่มนี้ มีพวกแพทเทิร์นการถักโครเชตต์ +
”เล่มใหม่ๆ คอลั่มเย็บปักถักร้อยเหมือนจะโดนเอาออกไปแล้วล่ะ…ก็เลยต้องแนะนำเล่มเก่าหน่อย~“
ไม่ว่าเปล่า เขายื่นนิตยสารเล่มนั่นให้คุณ เผื่อว่าจะลองเปิดดู
“พูดกับหนูหรอคะ..?”
พึมพำออกมา ก่อนจะหันซ้ายหันขวา เมื่อแน่ใจแล้วว่าตรงที่ยืนอยู่มีตัวเองอยู่คนเดียวจึงได้ตัดสินใจตอบกลับไป
“อากาศเริ่มร้อนขึ้นแล้ว เลยตั้งใจว่าจะมาหาหนังสือเมนูอาหารที่ทานคลายร้อนหน่อยน่ะค่ะ“
..แล้วก็หวังว่าคราวนี้จะทำอาหารสำเร็จ ไม่ออกมาเป็นพุดดิ้งไปฝากยูระกับชุนสึเกะอีก
“อ๊ะ ถ้าหนังสือทำอาหารล่ะก็ อยู่ชั้นถัดไปนะ~ เขยิบไปอีกนิดนึง”
เขาขยับนิ้วชี้ไปยังทางเดินระหว่างชั้นหนังสือที่อยูาถัดไปอีกซอกหนึ่ง
“จะว่าไปอากาศก็เริ่มร้อนแล้วเนอะ~… คุณหนูต้องระวังอย่างปล่อยให้ตัวเองเป็นฮีทสโตรคนะ~”
พูดเสร็จก็รีบเดินไปหาหนังสือที่ตัวเองตามหา
‘ไม่ไหว ๆ มีแต่แตงโมแหะ ถ้าเป็นอย่างงี้ชุนสึเกะได้นอนน้ำลายฟูมปากแน่’
“ไม่น่าไหวแหะเล่มนี้..”
เธอพึมพำ ก่อนจะวางหนังสือรวมเมนูจากแตงโมกลับเข้าชั้น ก่อนจะหยิบหนังสืออีกเล่มขึ้นมาเปิดดูคร่าว ๆ
‘ถ้าเป็นเล่มนี้อาจจะทำได้ก็ได้‘
+
“ขอซื้อเล่มนี้ค่ะ ช่วยคิดเงินด้วยค่ะ”
เสียงทักทายที่ดังขึ้นเรียกความสนใจให้เด็กสาวต้องหันไปหา แม้เธอจะชอบแวะร้านหนังสือก่อนกลับบ้านอยู่บ่อยๆ แต่ก็มักเลี่ยงบทสนทนาเสมอ
แต่ครั้งนี้คงจะเลี่ยงไม่ได้
“ ส สวัสดีนะคะ ! ช่วงนี้รู้สึกว่าสนุกสุดๆ เลยล่ะค่ะ แต่ว่าก็รู้สึกเหนื่อยไปด้วย ”
“ แล้วคุณเจ้าของร้านล่ะค่ะ? หรือว่าฉันควรเรียกคุณด้วยชื่ออื่นดี ? ”
เธอถามอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
เห็นอีกฝ่ายดูพูดตะกุกตะกักในทีแรงก็แอบรู้สึกผิดเล็กน้อย กลัวจะทำให้รู้สึกไม่ดี แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายยอมคุยด้วยอยู่ก็เลยคบี่ยิ้มออกมาบางๆ
“อามามิยะ นางิ~ จะเรื่องนามสกุลหรือชื่อต้นก็ได้ ตามใจคุณหนูเลย~“
”แล้วคุณหนูล่ะชื่ออะไร~ พึ่งเคยมาที่นี่ใช่หรือเปล่าหนา~“
เธอบอกตามตรงพร้อมหัวเราะเบาๆ การได้เริ่มต้นคุยกับคนใหม่ๆก็คงจะดีเหมือนกัน หวังว่าอีกคนจะรู้สึกดีขึ้นนะ
" ยินดีที่ได้รู้จักนะคะนางิซัง เรียกฉันว่า ซาจิ ก็ได้ค่ะ "
" จะว่ามาครั้งแรกก็ไม่เชิงหรอกค่ะ ปกติมากับคุณยายหรือเลิกเรียน แต่ว่ามากี่ทีก็หายตัวเร็วยิ่งกว่านินจาเลย "
เจ้าตัวว่าติดตลก ซาจิมักมาเร็วไปเร็วจนบางทีหลายๆคนไม่ทันได้สังเกตเห็น
" พอดีอยากจะได้หนังสือใหม่ไปอ่านแล้วก็ฝากคุณยายด้วยน่ะค่ะ "
เหมือนพออีกคนพูด ก็คลับคล้ายคลับคลาจะเคยเห็นอยู่บ้าง
นางิชะโงกไปตามทิศที่ซาจิเดิน ก่อนจะลุกออกจากที่บ้าง เขายืนกอดอกอยู่หน้าชั้นหนังสือด้วยสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย
“ซาจิจังมีหนังสือประเภทที่สนใจเป็นพิเศษมั้ย?~”
“…เรียกซาจิจังได้หรือเปล่านะ?”
เขาหัวเราะแห้งๆ กังวลว่าจะเรียกแบบสนิทสนมเกินไป
“ ช่วงนี้กำลังสนใจวรรณกรรมเยาวชนน่ะค่ะ พอดีเรื่องเก่าๆที่บ้านอ่านจนครบหมดแล้ว ”
สายตาทอดมองชั้นหนังสือไปด้วย พบว่ามีทั้งหนังสือที่คุ้นตาและไม่เคยเห็น
“ สมกับเป็นร้านหนังสือเลยนะคะ มีเรื่องเก่าๆเยอะเลย ”
อดไม่ได้ที่จะหันไปชมอีกฝ่าย ใต้กรอบแว่นหนาเตอะตอนนี้ซาจิกำลังตาลุกวาวอยู่ ที่นี่เหมือนสรวงสวรรค์ไม่มีผิด