#KMI_Kenkoushindan
#KMI_เปิดโรล | แถวโรงยิม | แยกรูท
ประตูโรงยิมข้างหลังปิดลง คิราริหายใจเข้าเต็มปอดก่อนที่จะถอนออกมาเฮือกใหญ่ มือขวาเลื่อนขึ้นมาแถวข้อพับแขนซ้ายราวปลอบประโยน เธอไม่ได้เกลียดการตรวจร่างกาย เสียแต่ว่าเธอไม่ชอบเข็ม เวลาเพียงไม่กี่นาทีมันมากพอที่จะทำให้เธอรู้สึกหน้ามืด เพราะงั้นเลยเลือกที่จะเดินออกมาทางประตูข้างหวังสงบใจก่อนกลับไปรวมกลุ่มกับคนอื่น
#KMI_เปิดโรล | แถวโรงยิม | แยกรูท
ประตูโรงยิมข้างหลังปิดลง คิราริหายใจเข้าเต็มปอดก่อนที่จะถอนออกมาเฮือกใหญ่ มือขวาเลื่อนขึ้นมาแถวข้อพับแขนซ้ายราวปลอบประโยน เธอไม่ได้เกลียดการตรวจร่างกาย เสียแต่ว่าเธอไม่ชอบเข็ม เวลาเพียงไม่กี่นาทีมันมากพอที่จะทำให้เธอรู้สึกหน้ามืด เพราะงั้นเลยเลือกที่จะเดินออกมาทางประตูข้างหวังสงบใจก่อนกลับไปรวมกลุ่มกับคนอื่น
Comments
เหมือนสีหน้าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สังเกตจากมือที่กุมแถวข้อพับแขนซ้าย คงพึ่งฉีดยาเสร็จมา
“ ฉีดยาไม่สนุกเลยเนอะ? ”
“ เธอนั่งก่อนมั้ย เดี๋ยวเราวิ่งออกไปซื้อน้ำให้! ”
พูดทักด้วยน้ำเสียงหวานแล้วยิ้ม —มือเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า
ปากขยับเป็นคำว่า ขอบคุณนะคะ แต่เหมือนเสียงจะส่งออกไปไม่ถึง
คิราริมองตามอีกฝ่ายที่กำลังวิ่งไปตรงตู้กดน้ำที่ห่างออกไปไม่ไกล ผมลอนสีน้ำตาลถูกตัดด้วยผ้าสีแดงลายจุดนั้นยากที่จะลืมหากเคยพบแล้วครั้งหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเคยมาซื้อซีดีที่ร้านที่เธอทำงานพิเศษอยู่ แต่เมื่อกี้ภาษาญี่ปุ่น?
คิราริตกลงในภวังค์อีกเช่นเคย...
“ เราเห็นว่ามีน้ำหวาน น่าจะช่วยทำให้หายหน้ามืดได้ —อะนี่! ”
หอบเล็กน้อย รามูเนะรสส้มถูกยัดเข้าไปในมือของอีกฝ่าย พร้อมยื่นขวดน้ำที่มีไอเย็นไปประกบแก้มของคนตรงหน้า
” ฮี่ๆ เย็นมั้ย? ส่วนอันนี้น้ำเปล่า— in case เผื่อไว้! ”
รู้สึกเหมือนจะเคยเจอกันนะ? ปอยผมสีฟ้า.. กลิ่นอายของร้านซีดี…?
เธอถือกระป๋องน้ำโซดาที่ได้รับมาอย่างใจเย็น เกรงว่ามันจะระเบิดหากถูกเปิดออกตอนนี้
ไม่ใช่ขวดแก้วแบบที่เธอชอบซื้อเป็นประจำแต่เป็นกระป๋องขนาดพกพาที่หาได้ตามตู้กดน้ำอัตโนมัติ รสส้ม... รสใหม่รึเปล่านะ
“อ๊ะ ขอบคุณนะคะ คุณ...” คิราริรีบขอบคุณคนตรงหน้าเพราะกลัวว่าเขาจะวิ่งหายไปอีกครั้ง
“ คิราริจัง? ”เขาทักทายด้วยใบหน้าที่ไม่มั่นใจเพราะกลัวว่าตัวเองจะทักคนผิด ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายที่ไม่ดีนักสายตาของเขาก็แสดงความเป็นห่วงทันที
“ คิราริจังไหวรึเปล่า หาที่นั่งพักก่อนไหม ? ” เขาเอ่ยถามทั้งมือที่รองหลังระวังไว้ให้เธออีกแรง
“อื้ม ไม่ได้เป็นอะไรมาก ขอบคุณนะ” เธอพูดเสียงอ่อนพลางลูบแขนซ้ายเบาๆ
ตาโตใสจ้องมาราวกับจะถามต่อว่า ไม่เป็นไรจริงๆนะ ทำเอาคิราริอมยิ้มอย่างเอ็นดู ความรู้สึกมวนท้องเมื่อครู่หายวับไปกับตา
“ห้อง E ตรวจร่างกายกันเสร็จหมดแล้วเหรอ” เธอเริ่มบทสนทนาใหม่เพื่อไม่ให้เพื่อนตรงหน้าต้องเป็นกังวล
“ อื้ม เรียบร้อยแล้วล่ะ ” หัวฟูพยักหน้าขึ้นลงเป็นคำตอบก่อนที่ตากลมจะสบน้ำในดวงตาใสคู่ตรงหน้าอยู่เสมอ
” คิราริจังตรวจเสร็จนานแล้วหรอ “
” ได้ทานน้ำหรือหาอะไรรองท้องรึยัง ? “ เขาเอ่ยถามพลางเอียงศีรษะเล็กน้อยด้วยความเป็นห่วง
“เพิ่งเสร็จเมื่อกี้เลย"
พอโดนทักก็นึกขึ้นได้ว่าปีนี้เธอเตรียมตัวมาดีกว่าครั้งก่อน
คิราริหยิบช็อคโกแลตแท่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ต หักครึ่งหนึ่งก่อนที่จะยื่นให้คนตรงหน้า
“เธอเองก็เพิ่งตรวจเลือดมาใช่มั้ย“ ไม่แน่ใจว่าของหวานในมือจะถูกปากเขามากน้อยแค่ไหน แต่ก็เสนอไปก่อนแล้ว
สายตาคู่คมหันไปมองคนมาใหม่ที่เหมือนจะยังไม่เห็นว่าเขาอยู่ตรงนี้
...? ดูหน้าซีดๆนะ
"ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?"
แม้น้ำเสียงจะเรียบนิ่งแต่ก็ไม่ได้ดูใจร้ายอะไร
“ข ขอโทษค่ะ!“ เธอโพล่งขึ้นมาอย่างเลิ่กลั่ก ก้มหัวขอโทษร่างสูงยกใหญ่จนอีกฝ่ายน่าจะตกใจไม่แพ้กัน พอเงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆก็เหมือนจะเคยเห็นหน้าที่ไหนมาก่อน เพื่อนร่วมชั้นที่เคยผ่านหน้าผ่านตากันเมื่อปีที่แล้ว? ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะชื่อ
“....โมริฮาระซัง?”
เพื่อนร่วมชิ้นสินะ เหมือนจะชื่อ... คิระซัง?
นึกได้แบบนั้นก็พยักหน้าให้นิดๆเป็นการตอบรับว่าใช่ อีกฝ่ายเรียกชื่อเขาถูก
"หน้าซีดๆนะครับ" แล้วชายหนุ่มก็เลือกที่จะทักออกไปตรงๆ
เธอพยักหน้าเชิงขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงเป็นใย
”เมื่อกี้โดนเจาะเลือดนิดหน่อยค่ะ“ เธอเล่าพลางลูบแขนซ้าย สีหน้าของเธอดูดีขึ้นบ้างเมื่อได้สูดอากาศข้างนอก
”โมริฮาระซังกลัวเข็มรึเปล่าคะ“ เธอถามอีกฝ่าย
ส่วนเรื่องกลัวเข็ม เรียกว่าไม่ชอบแต่ก็สามารถพยายามทำเหมือนมองผ่านไปได้ได้ไหมนะ...
"คิระซังกลัวเข็มหรอครับ?"
แล้วในเมื่อไม่อยากพูดถึงเรื่องตัวเองสักเท่าไหร่ ยูเซย์เลยแก้ปัญหาโดยการถามกลับไปแทนโดยที่ไม่ได้ตอบคำถามที่ได้รับมา
“นิดหน่อยค่ะ แถมเมื่อกี้โดนคุณพยาบาลเจาะไปตั้งสามรอบแน่ะ” เธอโอดครวญ ปีนี้ก็คงช้ำไปสักอาทิตย์ โชคยังดีที่ช่วงนี้อุณหภูมิยังไม่สูงเกินจะใส่เครื่องแบบประจำ ถ้าต้องมาโรงเรียนในสภาพที่แขนเป็นรอยเขียวช้ำให้ทุกคนเห็นก็คงจะไม่น่าดูเท่าไหร่