ห้วงความเงียบเดินเข้ามาร่วมวงสนทนาครู่หนึ่งแล้วก็หายไป แทนที่ด้วยเสียงหลุดขำของซาร์นาย เขาหัวเราะแล้วก็ปล่อยพัฟบอลเป็นอิสระ
"ฮะๆ น่าเสียดาย แต่ว่า ผิด!"
"3 ครั้งนั่นล่ะถูกต้องแล้ว ท่านระแวงเสียจนไม่เชื่อคำเฉลยของเรา น่าน้อยใจนะแบบนั้น" เขาว่า น้ำเสียงไม่ได้แสดงอาการน้อยใจแต่ทำท่าซับน้ำตาทิพย์
"ฮะๆ น่าเสียดาย แต่ว่า ผิด!"
"3 ครั้งนั่นล่ะถูกต้องแล้ว ท่านระแวงเสียจนไม่เชื่อคำเฉลยของเรา น่าน้อยใจนะแบบนั้น" เขาว่า น้ำเสียงไม่ได้แสดงอาการน้อยใจแต่ทำท่าซับน้ำตาทิพย์
Comments
อดไม่ำด้ที่จะทำสีกน้าเสียหายขึ้นมาแม้จะไม่มีรางวัลก็ตาม
”ก็ท่าทีของเจ้าดูเกมือนกำลังจะโกหกเลยนิ…อีกอย่าง ข้าคิดว่าเกสรมันจะจับยากกว่านั้นซะอีก?“
เอลิกสับสนกับความง่ายในการจับของอีกฝ่ายในใจคิดว่าทุกคนก็ใช้เวลาพอๆกับตนมาตลอด พอรู้แบบนี้ก็ทำเอาคาดไม่ถึง
”นี่เจ้าทำได้ยังไงกัน…เก่งขนาดนั้นเชียว?“
เมื่อมองไปภาพของซาร์นายที่ดูบึกบึนกว่าปกติก็เข้ามาแทนทีราวดับฟิลเตอร์
“เราก็พูดไปอย่างงั้น ถ้าจะพูดให้ถูกคือจังหวะมากกว่า ตอนนั้นบังเอิญเดินผ่านเกสรที่ลอยเอื่อยพอดีน่ะนะ”
“และถ้าไม่ได้เจ้าเล็กคอยชี้เป้า ก็คงลำบากกว่านี้” ว่าพลางลูบหัวพัฟบอลเบาๆ
เขายกแก้วที่หุ้มดอกไม้นั้นขึ้นมา ทำท่าเหมือนเวลาจะชนแก้ว ใช่ ไม่มีธรรมเนียมเอาดอกไม้นี้มาชนกันหรอก แต่ใครสน
“เอ้า แด่โชคของเราและท่าน ให้ได้ดีดั่งใจหวัง
เขาพยักหน้าให้อีกฝ่ายด้วยมุมปากที่ยิ้มเล็กน้อย
เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่ายจึงยกแก้วดอกไม้ขึ้นมาชนด้วย
“แด่โชคของพวกเรา”
“แบบนี้ก็รู้สึกดีมากไม่ใช่น้อยเลยนะ ฮะๆ”
ราวกับความเหน็ดเหนื่อยจากการจับดอกไม้ได้หายไป เขารู้สึกดีมากจริงๆ
”จากนี้ไปเจ้าก็จะกลับหอพักแล้วหรอ?“
ซาร์นายพยักหน้า สายตาเหลือบมองดวงจันทร์เล็กน้อย
"ใช่"
"เราคิดว่าจะกลับห้องแล้ว ออกมาเดินเล่นเสียนาน ถึงเวลาไปนอนกลิ้งบนเตียงนุ่มแล้วล่ะนะ"
"ท่านจะชมจันทร์ต่อใช่รึไม่? ถ้าอย่างนั้นเราขอตัวก่อน"
เอลิกหันไปมองท้องฟ้าก่อนจะคาดเดาเวลา
“ข้าก็ว่ากลับดีกว่า…นี่ก็ดึกแล้วด้วย”
“เช่นนั้นกลับพร้อมกันดีหรือไม่?”
เอลิกว่าพลางหันไปชวนอีกฝ่ายในขณะที่เริ่มลุกขึ้น
(ตัดจบเป็นเดินไปด้วยกันเลยได้นะคะไม่ต้องบรรยายตอนขากลับก็ได้5555555)