#THK_EVENT04 #THK_ดอกไม้ไฟ #THK_โรลเปิด แยกรูท
TW : ดวงตา
เสียงพลุยังคงดังต่อเนื่องแต่หญิงสาวกลับเดินออกมาเพิ่มหลบผู้คนให้ได้มากที่สุด
เธอไม่ได้ใส่ผ้าคลุม และใบหน้ายังคงสงบเหมือนเดิมแต่สายตาคู่นั้นตื่นตระหนกกว่าปกติ
เธอยกมือขึ้นตรงหน้าแต่กลับไม่เห็นสิ่งใด มีเพียงความมืดเท่านั้น
(+ได้นะคะ จะผ่านมาเฉยๆหรือมานั่งเป็นเพื่อนก็ได้ค่ะ🙇♀️🙇♀️)
TW : ดวงตา
เสียงพลุยังคงดังต่อเนื่องแต่หญิงสาวกลับเดินออกมาเพิ่มหลบผู้คนให้ได้มากที่สุด
เธอไม่ได้ใส่ผ้าคลุม และใบหน้ายังคงสงบเหมือนเดิมแต่สายตาคู่นั้นตื่นตระหนกกว่าปกติ
เธอยกมือขึ้นตรงหน้าแต่กลับไม่เห็นสิ่งใด มีเพียงความมืดเท่านั้น
(+ได้นะคะ จะผ่านมาเฉยๆหรือมานั่งเป็นเพื่อนก็ได้ค่ะ🙇♀️🙇♀️)
Comments
เธอหยุดเอาหลังพิงต้นไม้ไม่สามารถเดินออกไปไหนได้ในตอนนี้
ทำยังไงดี?...
คงต้องอยู่แบบนี้ไปสังพักจนกว่าจะกลับมามองเห็นได้แบบเดิมสินะ
แต่ดูว่ามันอาจจะไม่ใช่เสียงที่เธออยากฟังตอนนี้เลย
ขณะที่เธอยังหลบอยู่ตรงนั้น
มือของเธอยังคงยกอยู่ตรงหน้าอย่างไร้ประโยชน์
สายตายังคงมืดมน
‘พวกมัน’ ยังคงกระซิบ และเงารอบข้างเริ่มขยับเหมือนหายใจอยู่พร้อมกัน
ทว่า ฝีเท้าเบา ๆ หนึ่งก้าว..
ดังขึ้นบนทางเดินหลังแนวพุ่มไม้
จังหวะก้าว เท่ากัน สม่ำเสมอ
ไม่ได้มีเจตจำนงค์เพื่อหลบซ่อน
จากนั้นกลิ่นหอมจาง ๆ ที่เธออาจจำได้
กลิ่นของชาเขียวอุ่นปนผ้าฝ้ายสะอาด แทรกตัวอยู่ในอากาศ
เหมือนกับครั้งก่อนที่เขายืนอยู่ข้างเธอโดยไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน
เขาไม่ได้เข้าใกล้จนถึงตัว
ไม่ได้จะมาช่วย ไม่มาทำให้ตกใจ
แค่ยืนอยู่ตรงนั้น เฝ้าดูปฏิกิริยาของเธอ
สายตานั้นมองไปยังเขาที่เดินเข้ามา แต่ไม่ได้โฟกัสอะไรเลยเธอแค่รู้ว่าเขาอยู่ตรงนั้น แต่ไม่อาจะระบุได้ว่าใกล้แค่ไหน
"มาทำอะไรที่นี่คะ?"
เธอเอ่ยถามเสียงเรียบ แม้ปลายนิ้วยังสั่นอยู่แต่เสียงกลับนิ่งเป็นปกติ ทั้งยังเมินพวกวิญญาณรอบข้างได้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่ได้บอกว่าจำได้หรือไม่แต่เธอดูสงบนิ่งกว่าเดิมเมื่อสัมผัสได้ถึงตัวตนที่มาใหม่ คงเพราะไม่อาจแสดงด้านที่ตื่นกลัวออกมาได้
ใบหน้านั้นไม่ยิ้มเหมือนเมื่อก่อน เธอไม่จำเป็นต้องยิ้มหากมองไม่เห็นคู่สนทนาตรงหน้า
แม้เสียงพลุยังแทรกเข้ามาเป็นระยะ แต่เงาของเขายังคงนิ่งสงบเหมือนไม่รับรู้ถึงความวุ่นวายนั้นเลย
เขาหยุดยืนตรงตำแหน่งที่ทำให้เธอ 'รู้สึกถึงการมาของเขา'
ไม่ใกล้พอจะเป็นภัย ไม่ไกลพอจนกลายเป็นความแปลกหน้า
+
“…ขอโทษนะคะ เธอเป็นอะไรรึเปล่า”
ทั้งเงามืดสลัวไร้แสงไฟ เธอไม่อาจระบุได้จากสายตาว่าเธอคนนี้เป็นใคร แล้วทำไมมาอยู่ตรงนี้คนเดียว
(ขอโทษที่มาช้าค่ามุแง่)
"เปล่าค่ะ ก็แค่...พลุเสียงดังไปหน่อย"
เธอพูดเสียงเรียบ สายตามองไปยังจุดที่คู่สนทนาน่าจะยืนอยู่ แต่นัยน์ตากลับไม่ได้โฟกัสอะไรเลย เธอแค่ทำเหมือนว่าตัวเองกำลังมองอยู่เท่านั้น
เธอเอ่ยถาม กลบน้ำเสียงที่สั่นเท่าและแววตาตื่นตระหนกนั้นได้เจนกือบหมด แค่พยายามไม่ให้ใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเท่านั้น
(ไม่เป็นไรค่าา)
“ใช่ค่ะ ฉันค่อยไม่ชอบดูที่คนเยอะๆเท่าไหร่น่ะ”
แม้ว่าเธอเองจะมองไม่ชัดว่าเธอคือใคร แต่ดวงตาสีพายุมองเห็นแววตานั้นชัดเจน
+
เขาเลยเลือกที่จะเดินออกมาตั้งหลักในบริเวณที่ผู้คนอยู่น้อย แต่ดวงตาสีแดงหม่นกลับสังเกตุเห็นหญิงสาวกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้คนเดียว เอ๊ะ.. นั่นใช่เพื่อนร่วมห้องของเขารึป่าวนะ??
( + )
เขาเลือกที่จะเดินไปใกล้ๆหญิงสาวเรือนผมสีฟ้าและมองรอบๆก่อนที่จะถือวิสาสะนั่งข้างๆ โดยเว้นระยะห่างกับเธอเอาไว้
เธอกระปริบตาปริบๆเมื่อรู้สึกได้ว่าอีกฝ่านนั่งลงข้างๆ...พยายามเค้นทุกอย่างในหัวเพื่อนึกให้ได้ว่าคนตรงหน้าเป้นใคร
"ฟุโกะซัง..."
เหมือนจะจำได้จากเสียงของอีกฝ่ายกระมัง เธอแยกแยะผู้คนจากเสียงอยู่แล้ว
เธอกล่างเสียงเรียบพยายามไม่ให้ดูเหมือนมีปัญหา แต่มือยังสั่นอยู่เลย--แล้วก็ไม่ได้มองหน้าอีกฝ่ายด้วย ทั้งที่ปกติในห้องเรียนจ้องตาทุกคนแทบจะไม่กระพริบแท้ๆ
"แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ?"