#KMI_เปิดโรล ,แยกรูท
โกงเวลา | ช่วงเช้าวันจันทร์
' หลุดอีกแล้วเรอะ '
ความหงุดหงิดแสดงออกผ่านทางสีหน้า ชิซึยะหยุดมองเงาสะท้อนตัวเองจากบานกระจกที่ติดอยู่ตามทางเดิน แล้วพบว่าพลาสเตอร์ติดแผลกำลังร่นหลุดออก
โดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนยืนอยู่บริเวณใกล้ๆ สายตาคมกริบที่แฝงความฉุนเฉียวจึงไปหยุดที่คุณอย่างไม่ได้ตั้งใจ
...
(หมดบุงคะไซแล้ว แต่เหมือนยังมีคนอินบทบาทอยู่เลยค่-)
โกงเวลา | ช่วงเช้าวันจันทร์
' หลุดอีกแล้วเรอะ '
ความหงุดหงิดแสดงออกผ่านทางสีหน้า ชิซึยะหยุดมองเงาสะท้อนตัวเองจากบานกระจกที่ติดอยู่ตามทางเดิน แล้วพบว่าพลาสเตอร์ติดแผลกำลังร่นหลุดออก
โดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนยืนอยู่บริเวณใกล้ๆ สายตาคมกริบที่แฝงความฉุนเฉียวจึงไปหยุดที่คุณอย่างไม่ได้ตั้งใจ
...
(หมดบุงคะไซแล้ว แต่เหมือนยังมีคนอินบทบาทอยู่เลยค่-)
Comments
ขณะที่เดินอยู่ ก็ได้พบกับร่างอันคุ้นเคย
เธอสบตากับเพื่อนคนนี้เข้าก่อนจะยิ้มให้บางๆ
“ไง”
กล่าวทักทายสั้นๆก่อนจะเดินเข้าไปหา
“ดูท่าจะอารมณ์เสียแต่เช้าเลยนะคะ คุโรซาวะคุง”
" ...จินัทสึจัง อรุณสวัสดิ์ "
เห็นหน้าเพื่อนยิ้มก็กระตุกยิ้มตาม แต่เป็นรอยยิ้มฝืนๆเพราะเจ็บหน้าแทน ...
" ก็อย่างที่เห็นเนี่ยแหละ สภาพดูไม่จืดเลยใช่มั้ย" พูดสบายๆพลางแกะพลาสเตอร์ที่รุ่ยอยู่ออก
ปกติก็ดูเป็นคนเกเรอยู่แล้ว ยิ่งมาโรงเรียนสภาพนี้ยิ่งดูสมจริงเข้าไปอีก
คิดแล้วก็ไหล่ตกหดหู่
เธอเดินวนรอบตัวอีกฝ่าย
“ไหนดูซิ…”
ด้วยร่างที่เตี้ยกว่าจึงทำให้ต้องเขย่งเข้าไปดูใกล้ๆตรงที่เพิ่งดึงพลาสเตอร์ออก
.
“จิ้มได้ปะ?” ถามหยอกไปงั้นแหละ
"จิ้มแล้วถ้าโดนคำสาปขึ้นมาไม่รู้ด้วยนะ"
เขาเอนตัวเล็กน้อยเพื่อหลบการเขย่งเข้ามาใกล้เกินไป แต่ก็ไม่ได้ถอยห่างเสียทีเดียว ทำให้ดูเหมือนเป็นการหยอกกลับเนียน ๆ
....
"ตอนงานโรงเรียนฉันได้ตุ๊กตาจินัทสึจังมาด้วยนะ"
"กว่าจะได้เสียไปตั้งสามพันเยนแหนะ" ยกยิ้มเปลี่ยนเรื่องเนียนๆ
“…”
“ลงทุนจังเลย”
“จะเอาไปทำอะไรล่ะคะ? วูดูหรอ” หุหุ(ᗜᵕᗜ)
“แย่แล้ว นี่ฉันจะโดนคุโรซาวะคุงสาปตั้ง2ครั้งเลยหรอ” ><
ถ้านับรวมรูปพร้อมลายเซนต์ที่ได้ตอนไปบูทชมรมคิวโดน่ะนะ
“เป็นเกียรติจัง“ ✨🖤 <<แปลกคน
”แต่ว่าน่ารักมั้ยล่ะ คนในชมรมตั้งใจทำกันทุกคนเลยนะ~“
โดนสายตาคมกริบเขม่นเข้าให้ ไคเซย์ที่เดินผ่านมาแถวนั้นพอดีเลิกคิ้วเล็กน้อย
"ชิซึจังเซมไป? ไปฟัดกับหมาที่ไหนมาครับเนี่ย สภาพไม่จืดเลยนะครับ"
ขณะที่เด็กหนุ่มนักเลง กำลังหาทางโดดเรียนที่โถงทางเดิน สายตาสะดุดเข้ากับใครบางคนที่กำลังเหมือนแกะอะไรสักอย่างที่ใบหน้าอันคุ้นเคย
เมื่อก้าวเท้าเข้าไปใกล้ก็จำได้คนตรงหน้าได้ความทรงจำที่ไม่ค่อยอยากจำเท่าไรจากเหตุการณ์บุงคะไซได้ก็แล่นหวนกลับมา จะด้วยความอายหรือไม่อยากโดนทัก เขาก็รีบก้มหัวแล้วพยายามที่จะเดินสวนออกไปให้เร็วที่สุด
ถ้าเป็นคนแปลกหน้า ต่อให้โดนเข้าใจผิดก็คงจะปล่อยเดินผ่านไปทั้งอย่างนั้น
แต่พอเพ่งมองดีๆ หมอนี่หน้าคุ้นๆ...
ก่อนที่อีกคนจะเดินผ่านไปไกลก็นึกออกพอดี
" โอ๊ะ นายมัน— พ่อหนุ่ม ป*ามิวนี่ " น้ำเสียงที่ทักดูมีชีวิตชีวาผิดกับก่อนหน้าลิบลับ พอจำได้แล้วก็เลยไม่ปล่อยไปง่ายๆ(??)
" จะไปไหนน่ะ ห้องเรียนไม่ได้ไปทางนั้นนะ "
“ยังจะจำได้อีกหรอเนี่ย?! อย่ามาพูดลั่นตรงทางเดินอย่างงี้สิ!”
เจ้าตัวพูดพร้อมใบแดงที่แดงก่ำชี้ไปที่อีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์ พลางคิดได้ใจ ‘ไม่น่าเห็นแก่กินตอนนั้นเล๊ยยยย‘
”เออ รู้เว้ย! แล้วคิดว่าฉัน- เดี๋ยว แล้วหน้านายไปโดนอะไรมาน่ะ?“
ก่อนที่จะโวยวายอะไรไปมากกว่านี้ เขาก็สังเกตเห็นพลาสเตอร์ที่แปะอยู่ทั่วตัวอีกฝ่าย
ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ยิ่งเห็นรีแอคชั่นยิ่งอดแซวไม่ได้ ตอนนี้ใครผ่านทางเดินคงรู้เห็นหมด
...
พอโดนถามกลับก็ชะงักไปหน่อย แต่ก็กลับมายืนสบายๆพร้อมตอบกลับลื่นไหล
" อ้อ ... ก็ไปถล่มแก็งศัตรูมาน่ะสิ " แกล้งตอบในบทบาทมาเฟียในงานบุงคะไซซะงั้น จะเชื่อมั้ยก็อีกเรื่อง
“เห…โคตรเท่เลย!!!!” เชื่อด้วยแหะ?!
เขาเดินวนรอบอีกฝ่าย มองตั้งแต่ขึ้นบนลงล่าง ดูท่าจะตื่นตาตื่ใจไม่เบา
“อย่างนายเนี่ย ต่อยเป็นด้วยหรอ?”
เช้าวันจันทร์ เด็กสาวที่กำลังเดินห้องเรียนบังเอิญสบสายตาเข้ากับเขาอย่างไม่ทันตั้งใจ บาดแผลบนใบหน้าอดทำให้เธอรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาไม่ได้
ดูอารมณ์ไม่ดีเลย
ก่อนจะรู้ตัวเธอหยุดเท้า ส่งรอยยิ้มดั่งแดดอุ่นนอกหน้าต่างแล้วเอ่ยถาม
"อยากได้พลาสเตอร์อันใหม่ไหมคะ"
"อ้อ...แบบนั้นก็เยี่ยมเลย.."
ดูเหมือนอีกคนจะไม่เข้าใจผิดก็เลยโล่งใจ
บวกรอยยิ้มที่ชวนให้ต้องหยีตามองนั่นด้วย
“คุโรซาวะซัง!? เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย ทำไมแผลเต็มตัวไปหมดเลย อุบัติเหตุเหรอคะ—”
เสียงใสเอ่ยทักขึ้นจากด้านหลัง แววตาคมกริบทำให้อาสึกะตัวแข็งไปนิดหนึ่ง
“ขะ ขอโทษค่า ไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามากวนนะคะ”
”แค่เป็นห่วงน่ะค่ะ“
ลูบหัวตัวเอง ยืนคอตก
"แค่เรื่องเล็กน้อยน่ะ อย่าใส่ใจเลย" พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่พยายามไม่ทำให้กังวล
เห็นอีกคนยืนลูบหัวคอตกแบบนั้น ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายและขี้เล่นกว่าเดิม
"จริงๆแล้วเผลอเข้าไปเกี่ยวพันกับพวกยากุซ่าตัวจริงเข้าน่ะสิ"
ทำเป็นกระซิบ ดูยังไงก็แกล้งหยอกเห็นๆ
“อะ เอ๋!!? ไปมีเรื่องกับพวกยากูซ่า!!?”
เผลอหลุดปากตกใจออกมาเสียงดังจนต้องยกมือขึ้นปิดปาก เหลือบมองซ้ายขวา
มะ ไม่มีใครได้ยินเมื่อกี้ใช่มั้ย?
“ไม่ได้นะคะ คุโรซาวะซัง กับพวกอันตรายแบบนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยสักหน่อย”
เปลี่ยนเป็นกระซิบเสียงเบา
เธอเดินฮัมเพลงในขณะที่เดินแล่นไปบนทางเดินสายตาเหลือบมองไปยังด้านหน้าก่อนจะหยุดชะงักการก้าวเรียวขาเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาฉุนเฉียว
"อ่า...ขอโทษที่ขวางทางค่ะ"
ยูซุระหลบสายตาห่างด้วยความหวั่นตั้งใจก้าวขาหลบหลีกทางให้แต่กระนั้นก็แอบมองกลับไปเพราะร่องรอยบาดแผลของเขา เธอเดินนำออกมาแต่ก็วนกลับไปหาอย่างอดไม่ได้
(+)
เธอเว้นระยะห่างไว้พอตัวเรียวมือประสานกันขยุกขยิกพลางเอ่ยขณะดวงตาหลุบต่ำ ที่จริงจะหยิบพลาสเตอร์ยาที่เธอมักพกติดตัวไว้ให้ก็คงได้แต่ขนาดมันเล็กเกินกว่าจะปิดแผลนั้นให้กันสิ่งสกปรกได้
ลึกๆ กังวลว่าคนตรงหน้าดูน่ากลัวแต่ก็ไม่อยากปล่อยผ่าน
"เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้แบบนั้นไม่น่าดีเลยน่ะค่ะ..." เสียงนุ่มเรียบเอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้อย่างเป็นวิสัย