#KMI_เปิดโรล | แยกรูท
วันอาทิตย์ โกงเวลา - แถวโบส์ถ-สวนสาธารณะ
เหมือนอากาศวันนี้จะอึมครึมกว่าปกติ คุณเห็นคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงแต่งตัวแปลกตาเดินอยู่ข้างหน้า
ไม่ว่าด้วยอารมณ์ไหนก็ตามคุณตัดสินใจทักทายเธอจึงหันหลังกลับมาหาคุณ
"?"
(โรลทำความรู้จักมาโกะจังค่ะ>< มาแบบดีเลย์ไปเดือนแต่มานะ!)
วันอาทิตย์ โกงเวลา - แถวโบส์ถ-สวนสาธารณะ
เหมือนอากาศวันนี้จะอึมครึมกว่าปกติ คุณเห็นคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงแต่งตัวแปลกตาเดินอยู่ข้างหน้า
ไม่ว่าด้วยอารมณ์ไหนก็ตามคุณตัดสินใจทักทายเธอจึงหันหลังกลับมาหาคุณ
"?"
(โรลทำความรู้จักมาโกะจังค่ะ>< มาแบบดีเลย์ไปเดือนแต่มานะ!)
Comments
เคย์ริวยิ้มกว้างให้คนที่หันมามองพร้อมส่งยิ้มให้
"ตุ๊กตาตัวนั้น..." ว่าแล้วก็ชี้ไปที่พวงกุญแจที่เป็นตุ๊กตาหมีสีดำตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ที่ตกอยู่แถวนั้นให้ดู
"ใช่ของคุณไหมครับ?"
เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใช่ของที่คนๆนี้ทำตกหรือเปล่า หรือเป็นของที่ตกอยู่ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
..
" ระ หรือว่า- จะเป็นกับดักของจอมมาร! "
(ได้โปรดทำจัยค่ะ น้องเป้นจูนิเบียวT T)
แน่นอนว่านั่นเป็นเสียงร้องในใจ ความจริงแล้วเคย์ริวไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยมีเพียงแค่รอยยิ้มค้างเท่านั้นเหมือนยังตีความในสิ่งที่ได้ยินไม่ค่อยได้เท่าไหร่
"ถ้าใไม่ช่ก็คงมีคนทำตกเอาไว้มั้งครับ"
ว่าแล้วก็ตั้งท่าจะเดินเข้าไปหยิบ อยากจะเอาไปวางในจุดที่เจ้าของมองหาได้ง่ายกว่านี้หน่อย
“นี่น่ะอาจจะเป็นกับดักของจอมมาร เศษเสี้ยวของมันจะต้องกำลังหาร่างสถิตใหม่สำหรับการยึดครองโลกในครั้งถัดไปแน่ ถ้านายจับสิ่งนี้ล่ะก็นายอาจจะโดนมันครอบงำเอาก็ได้นะ!?”
“หึ.. ช่างชั่วร้ายซะจริงนะจอมมาร ขนาดผมที่กำจัดไปได้แล้วแท้ๆ แต่กลับมาหลงเหลือเศษเสี้ยวมาล่อลวงผมกับเหล่ามนุษย์ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ !”
สรุปตอนแรกนั่นเขาได้ยินถูกต้องเต็มๆสองหูเลยสินะ กับดักของจอมมารอะไรนั่น หนึ่งวันพันเหตุการณ์จริงๆ...
แต่ไหนๆแล้วปล่อยเลยตามเลยหน่อยดีไหม?
"แล้วถ้าเราไม่จับมัน แต่หาอะไรมาเขี่ย..?"
แบบนั้นได้ไหมนะ ในเมื่อไม่ได้สัมผัสโดนตรงๆหนิ
ไคเซย์ทักทายขณะที่เดินอ้อมไปยืนข้างหน้าอีกฝ่าย คนตัวสูงยิ้มกว้าง
"วันนี้ชุดก็สวยเหมือนทุกวันเลยนะ"
"ฉันว่าจะไปหานายพอดีเลย!" พอถูกชมรื่องชุดก็ยิ้มภูมิอกภูมิใจใหญ่ หมุนตัวซ้ายขวาให้ดู
"ฮึๆ~ ตัวนี้ฉันลองออกแบบเองดูล่ะ โรงงานพึ่งส่งมาถึงบ้านเมื่อเช้าเลยนะ!"
ไคเซย์ยิ้มกว้างมองเพื่อนสนิทที่หมุนตัวให้ดู เขาไม่ใช่คนที่ละเอียดด้านแฟชั่นเท่าไรนัก แต่ก็รู้ว่าฝีมือของมาโกะไม่ธรรมดา
“ลูกไม้ตรงนี้...? ลายไม่เหมือนกับคราวก่อนใช่มั้ย? เฮดเดรสก็เข้ากับชุดมากเลย”
“แล้วนี่กำลังจะไปไหนเหรอ?”
คราวนี้มาโกะยิ้มภาคภูมิใจกับเพื่อนที่เข้าใจตนเป็นอย่างดี
“ฉันจะไปตรวจตรารอบเมืองซักหน่อย..เราจะรู้ได้ยังไงว่าเศษเสี้ยวพลังงานมืดของจอมมารจะตกหล่นอยู่แถวนี้หรือเปล่า ( • ̀ω•́ )✧
…อยากมาด้วยกันไหม?“
“คือว่า แบบว่า— แต่งตัวน่ารักจังเลยนะคะ!”
เธอมองตามมาสักพักแล้ว รู้สึกว่าเป็นแฟชั่นที่มีสเน่ห์จังเลยนะ
”อ่ะ ขอโทษนะคะ! จู่ๆมาโดนคนไม่รู้จักพูดแบบนี้คงจะดูแปลกหรือเปล่าคะ..“
"น่ารักเนอะะ" หมุนตัวซ้ายขวาท่าทีภูมิใจ "ตัวนี้ผมออกแบบเองเลยล่ะ!"
“ค่อยยังชั่ว..”
“อ่ะ เอ่ะ เป็นผู้ชายเหรอคะ— ตอนแรกนึกว่าเป็นเด็กผู้หญิง ..ขอโทษที่เข้าใจผิดนะคะ! แต่ว่าน่ารักมากจริงๆค่ะ!“
ตอนได้ยินเสียงก็ตกใจนิดหน่อย ก็อีกฝ่ายน่ารักมากจนเหมือนเด็กผู้หญิงเลยนี่นา ก่อนจะไปสนใจที่ประโยคถัดไปมากกว่า
“ออกแบบเองเลยเหรอคะ!? ทั้งที่ดูอายุไม่ห่างกันเท่าไรแต่เก่งจัง!“
ไม่อยากให้อีกฝ่ายคิดมากอะไร เรื่องพงเพศน่ะช่างมันเถอะ
“ฮึๆ~ ใช่แล้วล่ะ” มาโกะยิ้มอย่างภาคภูมิใจอีกครั้ง
“เพราะว่านี่ก็คือชุดองค์หญิงแห่งความมืดใช้สำหรับชุดลาดตระเวนน่ะ”
ตื่นเต้นนิดหน่อยที่ได้คุยกับคนที่น่ารักขนาดนี้
พออีกฝ่ายกล่าวจบ เธอก็มองสำรวจชุดด้วยแววตาเป็นประกายกว่าเดิม
”องค์หญิง!?”
“เป็นองค์หญิงแล้ว ทั้งทำชุดเอง แล้วยังต้องมาทำงานลาดตระเวนด้วยตัวเองเลยเหรอคะ ขยันจัง!“
“ตายละ งั้นตอนนี้ฉันมากวนตอนทำงานอยู่หรือเปล่าคะ!?”
กังวลจริงจังขึ้นมาซะแล้วสิ
ในระหว่างที่กำลังพามารุจัง [เจ้าชูการ์ไรเดอร์สีขาว] ไปเดินเล่นนั้น
ก็ได้สะดุดตากับผู้หญิง(?) ที่ค่อนข้างคุ้นหน้าคุ้นตาแปลกๆ
"สวยจังเลยน้า..."
"อยากรู้จังซื้อชุดมาจากไหน" พึมพำออกมาแบบนั้น
ก่อนจะเดินเข้าไปทัก
"ซื้อชุดมาจากไหนงั้นหรอคะ"
เข้าไปถามโต้งๆเลย พร้อมกับยิ้มบางแสดงความเป็นมิตร🧍♂️
"...หมายถึงเป็นคนออกแบบแล้วสั่งตัดน่ะ" น้ำเสียงภาคภูมิใจแถมอธิบายเสริม ถ้าถามถึงแหล่งซื้ออาจะสนใจแฟชั่นนี้ "แต่แบบนี้มีขายที่โตเกียวเยอะเลย ถ้าเธอสนใจล่ะก็ผมจะแนะนำให้ก็ได้นะ"
"เห-" เธอชะงักไปนิดนึงกับนํ้าเสียงของคนด้านหน้า
เข้มกว่าที่คิด เลยพอจะรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณ
"งั้นหรอ สุดยอดเลยนะนาย"
"ขอลองจับได้ม้า" หมายถึงเนื้อผ้าน่ะ🧍♂️
ข้างนึงอุ้มชูการ์ไรเดอร์ตัวน้อย แต่อีกข้างนึงก็เหมือนจะยื่นไปจับ
รอให้คนด้านหน้าอนุญาตก่อน
"โอ๊ะ สวัสดีครับ"
เขาเอ่ยทักทายไปพร้อมกับรอยยิ้ม ยกมือขึ้นโบกไปมา อดอัธยาศัยดีไม่ทักไม่ได้จริง ๆ
พอชิงุเระเห็นอีกฝ่ายหันกลับมา ก็อดชมในใจไม่ได้จริง ๆ ว่าสไตล์การแต่งตัวของอีกคนดูดีมาก ชุดนั้นดูถูกตัดเย็บและออกแบบมาอย่างดี
"แต่งตัวดูดีจังนะครับ"
อ่ะ เผลอชมไปแล้ว
"ดีใจจัง! ขอบคุณน้า🤍"
ถึงจะตอบกลับตามมารยาทแต่น้ำเสียงก็ดูสดใสมีความนุ่มลึก ทันทีที่ฟังก็รู้ได้ว่าคู่สนทนานี้เป็นผู้ชาย