#KMI_VolunteerCamp #KMI_เปิดโรล
[วันที่ 8 สิงหาคม | ริมหาดอุมิคาเสะ | 10.00 น.]
เนื่องจากเป็นปีสุดท้ายในรั้วโรงเรียนคูเมอิตัวของมิยูกิจึงได้ขออนุมัติจากที่บ้านเพื่อเข้าร่วมค่ายจิตอาสาได้เป็นครั้งแรก
ตัวของเธอตั้งใจที่จะเก็บความทรงจำในช่วงชั้นปีสุดท้ายให้เต็มที่มากที่สุด
มือบางกระชับที่คีบในมือพร้อมกับถุงดำใหญ่ยักษ์ เมื่อมาถึงริมหาดแล้วดวงตาที่มักปิดเสมอก็เปิดขึ้นช้า ๆ
+
[วันที่ 8 สิงหาคม | ริมหาดอุมิคาเสะ | 10.00 น.]
เนื่องจากเป็นปีสุดท้ายในรั้วโรงเรียนคูเมอิตัวของมิยูกิจึงได้ขออนุมัติจากที่บ้านเพื่อเข้าร่วมค่ายจิตอาสาได้เป็นครั้งแรก
ตัวของเธอตั้งใจที่จะเก็บความทรงจำในช่วงชั้นปีสุดท้ายให้เต็มที่มากที่สุด
มือบางกระชับที่คีบในมือพร้อมกับถุงดำใหญ่ยักษ์ เมื่อมาถึงริมหาดแล้วดวงตาที่มักปิดเสมอก็เปิดขึ้นช้า ๆ
+
Comments
แต่เพียงชั่วครู่ดวงตาทั้งสองก็ปิดลงเฉกเช่นเดิมเมื่อได้ยินเสียงผู้มาเยือน รอยยิ้มจางยังคงประดับใบหน้า
“ท่าน[นามสกุลคุณ]เองก็มาชมความสวยงามของทะเลเช่นกันหรือเจ้าคะ?”
ก่อนจะสะดุดเห็นคนคุ้นเคย แต่ที่ทำเธอหยุดชะงักไปก็ดวงตาที่น้อยครั้งคนคนนั้นจะลืมขึ้นมา ทั้งๆที่มีดวงตาที่สวยขนาดนั้น ทำไมถึงปิดมันไว้ตลอดกันนะ
พอรู้ตัวว่ายืนจ้องนานเกินไป ก็ถูกเอ่ยทักทาย
"อะ...ค่ะ พี่มิยูกิ" ทำตัวกลบเกลื่อนว่าเมื่อกี้ไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้น
"เป็นยังไงบ้างคะ จิตอาสาครั้งแรก?"
“สนุกดีเจ้าค่ะ ดิฉันได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ มากมาย”
แน่นอนว่าคุณหนูอย่างเธอที่ปกติไม่เคยแม้แต่ต้องล้างจาน การมาทำกิจกรรมจิตอาสาเช่นนี้นั้นเป็นเรื่องแปลกใหม่
มิหนำซ้ำนี่ยังเป็นการมาทะเลในรอบหลายสิบปีของเจ้าหล่อนอีก มันก็ย่อมพิเศษขึ้นเป็นธรรมดา
“แล้วชินามิซังเป็นยังไงบ้างเจ้าคะ?“
แค่นั้นก็ดีแล้วล่ะ ได้ออกมาใช้ชีวิตบ้างก่อนเรียนจบนี่หน่า
"หื้ม ริสะหรอคะ" เมื่อถูกถามกลับก็ขบคิด
จะตอบยังไงดีนะ ว่าเพิ่งไปฝังคนลงทรายมา
จึงเอามือไพล่หลังทรายที่เลอะมือไว้ก่อน
"ก็สนุกดีค่ะสำหรับริสะแล้ว มันก็เรื่อยๆ เหมือนวันทั่วๆไป"
"แม้จะชอบมีคนคอยมากวนริสะก็เถอะ" มุ่ยหน้า
แต่เธอก็จัดการไปหมดแล้ว
"พี่มิยูกิอยากไปทำอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ?"
พอถุงขยะสีดำอีกถุงเข้ามาสู่ระยะสายตา พร้อมกับเสียงเอ่ยทักทาย เขาจึงผงะถอยไป ก้มหัวให้เล็กน้อยสื่อว่าขอโทษที่เกือบจะเข้าไปชน
" จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ "
พูดถึงก็หยุดหันไปชมทะเลบ้าง
" ผมชอบเสียงทะเลครับ เป็นเสียงที่ฟังแล้วสบายใจ "
มิยูกิเผยรอยยิ้มเป็นมิตรพลางหันมองไปทางมหาสมุทรกว้างทั้งที่ดวงตายังคงปิดสนิท ราวกับเธอเห็นภาพทั้งหมดนั้นได้แม้จะไม่ได้ลืมตา
เธอไม่ได้ถือสาอะไรนักที่อีกฝ่ายเซมาชน ก็เขาดูตั้งใจทำงานถึงเพียงนี้หนินะ
”ขออภัยที่ดิฉันเสียมารยาท ไซเร็นจิ มิยูกินะเจ้าคะท่านโคจิมะ“
" โคจิมะ ยูกิโนะ ครับ "
ถึงจะแปลกใจกับบทสนทนา แต่เขาก็ยิ้มตอบกลับไป
เว้นช่วงชมทะเลอีกหน่อยไม่นานมากนัก ก็เงยหน้าขึ้นไปมองแดดเปรี้ยง ๆ ที่กำลังส่องลงมาอย่างทั่วถึง
ขนาดสิบโมงก็เริ่มร้อนแล้ว ไม่อยากจะนึกถึงตอนเที่ยงเลย ...
" ไม่ได้พกหมวกมาเหรอครับ อีกเดี๋ยวผมก็น่าจะขึ้นแล้ว อยากยืมไปก่อนมั้ยครับ "