"ไม่เป็นไรหรอกครับ อุตส่าเจอกันแล้วทั้งที"
ได้ยินว่าอีกฝ่ายจะช่วยก็ดูหน้าตาเคร่งเครียดกว่าเดิม
"แต่บ้านผมอยู่ค่อนข้างไกลเลยนะครับ.."
"จะลำบากไปมั้ยครับ"
ได้ยินว่าอีกฝ่ายจะช่วยก็ดูหน้าตาเคร่งเครียดกว่าเดิม
"แต่บ้านผมอยู่ค่อนข้างไกลเลยนะครับ.."
"จะลำบากไปมั้ยครับ"
Comments
“อีกอย่างอาราตะคุงก็แบกไปคนเดียวไม่ไหวไม่ใช่เหรอ”
ยกยิ้มให้ก่อนจะเตรียมตัวจะช่วยอีกฝ่ายยกของ
เลื่อนกล่องผักที่ดูน่าจะเบาที่สุดให้หนึ่งกล่อง
”ยูยาเกะซังถือแค่นี้ก็พอนะครับ..“
ส่วนที่เหลืออาราตะจับซ้อนกันสามชั้นแล้วยกเองทั้งหมด
รับกล่องผักมาซึ่งดูเหมือนจะเป้นกล่องที่น่าจะเบามากที่สุดถึงแบบนั้นก็ยังทุลักทุเลอยู่ดี
“ว่าแต่บ้านอาราตะคุงอยุ่ตรงไหนล่ะ”
พอเริ่มคุ้นชินกับน้ำหนักสิ่งของภายในมือแล้ว ก็เลยถามถึงจุดหมายปลายทาง
กระชับของที่ถือมั่นคงดีแล้วก็เริ่มออกเดินไปตามทาง ถนนในหน้าร้อนสะท้อนกับแสงแดดจนเห็นไอร้อนระอุลอยออกมา เสียงจั๊กจั่นเรไรพากันร้องเซ็งแซ่ นานๆทีถึงจะมีลมเย็นๆพัดพาไอร้อนให้จางลงไปได้บ้าง
"ถ้าเกิดว่าเหนื่อยแล้วอยากจะพัก..บอกได้เลยนะครับ"
เหลือบมองเพื่อนสาวข้างกาย กังวลนิดหน่อยว่าจะไหวมั้ย
“อาราตะคุงเองก็ถ้าไม่ไหวก็บอกได้เหมือนกันนะ”
เดินตามไปติดๆในขณะที่ถือกล่องในมือแน่นเพราะว่าพอเริ่มคุ้นชินกับน้ำหนักเลยเคลื่อนที่ได้สะดวกมากขึ้น ถึงอากาศจะร้อนแต่ก็พอมีลมเย็นๆพัดมาบ้างทำให้ไม่ได้รุ้สึกเหมือนจะละลายไปกับพื้น
“อากาศหน้าร้อนเนี้ยสุดยอดไปเลยเนอะ”
ปกติอาราตะไม่ชอบหน้าร้อน ถ้าเป็นเวลานี้ปกติเขาคงจะไปนั่งอ่านหนังสือในร้านคาเฟ่สักร้านแล้ว
“ยูยาเกะซังแวะมาซื้ออะไรเหรอครับ?”
เอ่ยชวนคุยระหว่างเดิน นอกจากกล่องที่ถืออยู่ เขาก็ยังมีหิ้วถุงวัตถุดิบที่เพิ่งจ่ายตลาดมาด้วยที่ข้อมืออีก ดูพะรุงพะรังเอาเรื่อง