“เป็นความร้อนที่ทำให้ฮีทสโตรกได้ง่ายๆเลยนะครับ..“
ปกติอาราตะไม่ชอบหน้าร้อน ถ้าเป็นเวลานี้ปกติเขาคงจะไปนั่งอ่านหนังสือในร้านคาเฟ่สักร้านแล้ว
“ยูยาเกะซังแวะมาซื้ออะไรเหรอครับ?”
เอ่ยชวนคุยระหว่างเดิน นอกจากกล่องที่ถืออยู่ เขาก็ยังมีหิ้วถุงวัตถุดิบที่เพิ่งจ่ายตลาดมาด้วยที่ข้อมืออีก ดูพะรุงพะรังเอาเรื่อง
ปกติอาราตะไม่ชอบหน้าร้อน ถ้าเป็นเวลานี้ปกติเขาคงจะไปนั่งอ่านหนังสือในร้านคาเฟ่สักร้านแล้ว
“ยูยาเกะซังแวะมาซื้ออะไรเหรอครับ?”
เอ่ยชวนคุยระหว่างเดิน นอกจากกล่องที่ถืออยู่ เขาก็ยังมีหิ้วถุงวัตถุดิบที่เพิ่งจ่ายตลาดมาด้วยที่ข้อมืออีก ดูพะรุงพะรังเอาเรื่อง
Comments
“เลยลองจับฉลากชิงโชคดูแต่ก็ดันแห้วได้ทิชชูมาแทนน่ะนะ”
เพราะว่าตัวเองไม่ได้ซื้อของอะไรเลยทำให้เดินได้สบายกว่าอีกฝ่าย
“ให้ช่วยถือถุงหิ้วมั้ย?”
ว่าแล้วก็หยุดเดินก่อนจะมองไปที่ถุงหิ้วของที่อีกฝ่ายหิ้วอย่างพะรุงพะรัง มันจะไม่ขาดหรือตกมาใช่มั้ยล่ะล่ะนั้น
พอต้องแบกของกลับกลางแดดบ่ายแบบนี้ก็ไม่รู้แล้วว่านับเป็นโชคดีหรือโชคร้ายกัน
"ของที่คุณถือจะหนักขึ้นนะครับ..จะดีเหรอ"
เกรงใจมากๆ ต้องมาเดินกลางอากาศร้อนๆแบบนี้เขาก็กลัวว่าอิเนะอาจจะเหนื่อยจนเป็นลมขึ้นมาก็ได้
มัวแต่กังวลคนอื่นจนไม่ทันสังเกตตัวเองเลยว่าเหงื่อเริ่มชุ่มจนเสื้อเปียกแผ่นหลังแล้ว
ลองยกกล่องขึ้นสูงให้ดูว่าตอนนี้เธอไม่ได้รู้สึกหนักมากนัก
“อีกอย่างถ้าอาราตะคุงยังแบกของหนักคนเดียวแบบนั้น อีกเดียวฉันคงได้แบกอาราตะคุงแทนแล้วล่ะ”
เพราะเห็นว่าเหงื่อและหน้าของเพื่อนซีดแค่ไหนเลยเริ่มกังวลว่าถ้าอีกฝ่ายยังฝืนเดินแบกของหนักท่ามกลางแดดจ้าอีกไม่นานเขาคงเป็นลมไปแน่ๆ
"แบบนั้นน่าจะแย่เอาจริงๆแล้วละ...งั้นรบกวนด้วยนะครับ"
พยายามประคองของไว้ด้วยแขนเดียวแล้วยื่นมือข้างที่ถือถุงหิ้วไว้ส่งให้อีกฝ่าย
"เดี๋ยวเดินอีกหน่อยก็จะถึงสวนสาธารณะแล้ว เราไปแวะนั่งพักตรงนั้นสักแป๊บดีกว่าครับ"
จะได้แวะตู้กดน้ำเพื่อกดน้ำเย็นๆดื่มสักหน่อยด้วย