[ 1 Feb | Bloomfield Dormitory : 2nd floor ]
ช่วงเวลาย่ำยามเย็น
เซบาสเตียนชื้นไปด้วนเหงื่อ เขาใช้เวลาอยู่ที่ยิมอันเงียบสงบ
อาจจะเพราะยังไม่ถึงเวลาเปิดเรียนอย่างเป็นทางการกระมัง ชั้นนี้จึงมีเพียงเขาเท่านั้น
ทว่านั่นก็เป็นเพียงเรื่องแค่หนึ่งวินาทีก่อนหน้า เมื่อเขาหันไปสบตากับ [คุณ] ที่เดินเข้ามาเช่นกัน
"อ่า"
เขานึกได้ว่าตนอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อยสักเท่าไหร่
(+)
ช่วงเวลาย่ำยามเย็น
เซบาสเตียนชื้นไปด้วนเหงื่อ เขาใช้เวลาอยู่ที่ยิมอันเงียบสงบ
อาจจะเพราะยังไม่ถึงเวลาเปิดเรียนอย่างเป็นทางการกระมัง ชั้นนี้จึงมีเพียงเขาเท่านั้น
ทว่านั่นก็เป็นเพียงเรื่องแค่หนึ่งวินาทีก่อนหน้า เมื่อเขาหันไปสบตากับ [คุณ] ที่เดินเข้ามาเช่นกัน
"อ่า"
เขานึกได้ว่าตนอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อยสักเท่าไหร่
(+)
Comments
เขาจัดเสื้อชื้นๆ ของตัวเอง สังเกตอย่างระมัดระวังว่ามีกลิ่นเหงื่อของตนในอากาศหรือไม่ หวังว่าคงไม่ทำให้ท่านผู้สูงศักดิ์ต้องเสียอารมณ์หรอกนะ?
[แวะมา + ทักทายทำความรู้จักสั้นๆ ได้ครับผ้ม🥹]
“อ่อ…คุณเซบาสเตียนนี่เอง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”
เธอเดินเข้ามาหาโดยเว้นระยะห่างตามความเหมาะสม
[เกือบไปแล้ว นึกว่าจะมีเรื่องลี้ลับในโรงยิมแล้วจริงๆ]
เธอคิดในใจพร้อมกับเก็บสีหน้าที่นิ่งเรียบเอาไว้
อันที่จริงแล้วเซบาสเตียนเป็นพวกไม่ค่อยจดจำผู้คนเท่าไหร่ เขาใช้เวลานึกครู่หนึ่งด้วยท่าทางแนบเนียนว่าอีกฝ่ายคือใครกัน
"มิสมอร์กานา มาทำอะไรที่ยิมหรือครับ"
เพราะอีกฝ่ายดูไม่เหมือนคนมาออกกำลังกาย เขาจึงถามออกไปตามสมควร
อยู่ดีๆพัฟบอลของเธอก็มาสกิดที่ไหล่เธอเข้า
โนวา:”บอกเขาสิว่าเธอแอบมาฝึกร้องเพลง“
”ไม่ได้นะโนวาเรากำลังรบกวนเขาอยู่” เธอกระซิบ
“ฉันแค่มาที่นี่เพราะได้ยินเสียงดังออกมาน่ะ ฉันรู้สึกกังวลก็เลยมาดู…แล้ว ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง คุณกับคุณปู่สบายดีไหม?“
เธอโกหกไปและพยายามเบี่ยงประเด็น
"แค่ออกกำลังกายประจำวันน่ะครับ"
เขาตอบคำถามเธออย่างสุภาพ
"ครับ ไม่ได้เจ็บป่วยตรงไหน ค่อนข้างสุขสบายดี"
เหลือบสายตามองพัฟบอลที่นอนระโหยโรยแรงบนผ้าขนหนูนุ่ม เหตุเพราะฝืนสังขารอยากบินถือผ้าขนหนูมาให้
เคย์เดนเองก็ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ช่วงเวลานี้เช่นกัน เพราะปกติมันเป็นรูทีนการฝึกของเขาอยู่แล้วจึงแอบประหลาดใจเล็กน้อย
ฝ่ามือมีรอยแผลเป็นเสยเอาผมชื้นเหงื่อขึ้นให้พ้นสายตาก่อนจะยิ้มตอบอีกฝ่ายด้วยสภาพชุดออกกำลังกายฟิตพอดีกับร่างกายทุกส่วนที่ชุ่มเหงื่อไม่ต่างกัน +
เขาถามอีกฝ่ายกลับไปก่อนจะยกเสื้อชื้นๆ ขึ้นดมดู ก่อนจะยิ้มให้ อีกฝ่ายเพราะตัวเขาเองที่ออกกำลังกายมาจะสองชั่วโมงแล้ว
“ รับน้ำสักขวดไหมครับ? ”
น่าแปลกที่เซบาสเตียนแน่ใจว่าตนเป็นคนช่างสังเกตและความรู้สึกไวพอ แต่กลับไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายก็อยู่ด้วย
"ไม่เลยครับ อย่าได้คิดมากไป"
อันที่จริง เขาไม่ได้สนใจกลิ่นตัวของใครอยู่แล้ว จะมีหรือไม่มีก็ไม่สำคัญนัก หากตนไม่ได้ไปรบกวนอีกฝ่ายเข้าก็นับเป็นใช้ได้
(+)
"เดี๋ยวผมไปหยิบให้คุณจะดีกว่า"
จำได้ว่าอีกฝ่ายเป็นบุตรชายดยุค เซบเคยชินกับการบริการคนที่มียศศักดิ์สูงกว่า
ในคราแรกแค่คิดอยากจะมาเยี่ยมชมสถานที่ก่อนจะมาใช้งานในการออกกำลังกายเหมือนทุกครั้ง
แต่กลับพบกับบุคคลที่คุ้นเคย
“อะ ไม่เป็นไรเลยค่ะ เราเองก็ไม่นึกว่าจะมาเจอคุณเซบาสเตียนเหมือนกัน”
เธอยิ้มอย่างอ่อนโยน ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอีกฝ่ายแต่อย่างใด
“อยู่ที่นี่นานแล้วเหรอคะ”
เขาหยิบเสื้อคลุมมาสวมแม้จะไม่สบายตัวนัก แต่สภาพนี้จะให้เอ่ยทักทายองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ก็คงเสียมารยาท
"ไม่นานนักหรอกครับ" อันที่จริงร่วมชั่วโมงแล้ว
"ท่านจะใช้สถานที่นี้หรือครับ เช่นนั้นผมไม่รบกวน"
“แค่มาชมสถานที่ก่อนก็เท่านั้นค่ะ ไม่ได้คิดจะใช้ในตอนนี้”
“เรามารบกวนหรือเปล่าคะ ถ้าคุณยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี เชิญต่อก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเกรงใจเรา”
ซิซิเลียเอ่ยยิ้มด้วยท่าทีที่ไม่ได้ฝืนใจแต่อย่างใด เธอก็แค่มาชมที่นี่จริงๆ
เพราะปวดเนื้อเมื่อยตัวจากการเดินทางหลายชั่วโมงมาที่อคาเดมี่ สิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการคืออยู่เฉย ๆ กับห้อง ไทรีเซียสเปิดประตูเข้ายิมมา แปลกใจพอกันที่เห็นว่ามีใครอยู่ก่อนแล้ว
"ขอโทษทำไมกัน อย่าให้ฉันขัดจังหวะนายเลย" ริมฝีปากคลี่ยิ้มบางเป็นมิตร
"ไม่หรอกครับ ผมออกกำลังกายเสร็จพอดี"
"คุณเองก็มาออกกำลังหรือครับ ในเวลานี้? ค่อนข้างขยันขันแข็งเลยนะครับ"
ชายหนุ่มชาวธาลอเรนน์เอ่ยตามมารยาท ดูเว้นระยะและเป็นพิธีรีตรองประหนึ่งพ่อบ้านรับแขก
"ไทรีเซียส" ยื่นมือไปหา แหย่ขึ้นมาอย่างไม่มีพิษมีภัย "ไม่ต้องกังวล ฉันไม่กัด"
ดังนั้นจึงเกิดเป็นภาพประหลาดที่ชายหนุ่มเดินไปที่กระเป๋าเป้พกพา
ถอดถุงมือคู่เก่า เช็ดมืออย่างพิถีพิถัน แล้วสวมถุงมือคู่ใหม่ที่พกมา
ก่อนจะเดินกลับมาจับมืออีกฝ่ายหน้าตาย
"ไม่เป็นไรครับ ผมฉีดวัคซีนทุกไตรมาส"
"เซบาสเตียน ลูซิสครับ"
"รอบคอบดี เซบาสเตียน" จับมือเขย่าแล้วปล่อย
"ฉีดแล้วแปลว่ากัดได้ไม่เป็นไรสินะ" พูดพลางตวัดผ้าขนหนูในมืออีกข้างขึ้นมาพาดบนไหล่ ท่าทีไม่จริงจัง
อนาสตาเซียเดินหาบางสิ่งไปเรื่อยจนข้ามมาฝั่งของหอชาย
เธอชะงักนิ่งไปทันใดเมื่อเห็นว่ามีชายหนุ่มใช้งานห้องฝึกซ้อมอยู่
"เราขออภัยต่อท่านด้วยค่ะ"
เธอถอนสายบัวอย่างสง่างามแม้ว่าจะอยู่ในชุดทะมัดทะแมงเตรียมฝึกดาบก็ตาม
หญิงสาวสอดสายตาหาบางสิ่งที่คาดว่าจะอยู่ในนี้ทว่าก็ยังหาไม่เจอ คิ้วบางขมวดมุ่นเป็นปมจนยับย่น
ทว่าไม่นานเธอก็คิดว่าคงต้องสั่งทำใหม่แทน
+
"ท่านฝึกซ้อมอยู่หรือคะ?"
นัยน์ตาสีไพรินมองสบอีกฝ่าย
ไซเวียร์โบกมือทักทายคนที่นับว่าค่อนข้างคุ้นเคย
“ไม่เป็นไรหรอก เราเองก็มาเย็นค่ำ ไม่คิดว่าจะมีคนใช้ยิมเหมือนกันนะ” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม
“คุณเซบาสเตียนมาซ้อมอะไรเหรอ เราขัดจังหวะคุณเซบาสเตียนหรือเปล่า”
เสียงประตุเปิดออกเพราะมีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้
มือสวยของเธอถือแผนที่ สายตาสีกุหลาบลวดลายชวนพิศวงกำลังพินิจราวหมายสำรวจสถานที่ จนหันสบตามองกับคุณโดยไม่ได้ตั้งใจ เลยเผลอถอยไปอยู่หลังประตูมากขึ้นเพราะตกใจกับท่าทางสบายๆ ของชายหนุ่มที่ไม่คุ้นเคย จนประหม่าอายขึ้นมาตามปกติ
".. ส สวัสดีเจ้าค่ะ" เธอทักทาย
"ฉ ฉันเผลอ... รบกวนคุณหรือเปล่าคะ?"
"สวัสดีครับ คุณผู้หญิง"
เซบหยิบเสื้อคลุมมาสวมลวกๆ เพราะคิดว่าสภาพตอนนี้ของตนไม่เหมาะจะแสดงตัวต่อหน้าเลดี้สักเท่าไหร่
"ไม่หรอกครับ ว่าแต่...คุณเป็นเด็กใหม่ปีนี้ กำลังหลงทางหรือครับ?"
กวาดสายตารอบหนึ่งเขาก็พออนุมานได้ทันที
"... เจ้าค่ะ กำลังเดินดูอาคารตามแผนที่ค่ะ"
"ประมาณว่า... มาดูก่อนวันเริ่มเรียนจริง น่ะค่ะ"
"ท่านคงเป็น รุ่นพี่ในสถาบัน ใช่ไหมเจ้าคะ?" เธอเริ่มถามกลับบ้าง แต่ยังคงทีท่าประหม่าอย่างเกรงอกเกรงใจ
เขาพยักหน้ารับเบาๆ ไม่คิดจะซอกแซกถามอะไรเกินความจำเป็น อย่างไรก็ไม่เกี่ยวข้องหรือมีประโยชน์ต่อตนอยู่แล้ว
"ครับ ผมเซบาสเตียน ลูซิส อยู่ปีสาม ยินดีที่ได้พบและขอให้เป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีในสถาบันแห่งนี้นะครับ คุณผู้หญิง"
“... เซย์เฮริเจ้าค่ะ“
”เซย์เฮริ โอโรธามนัส”
“ยินดีที่ได้รู้จักคะ รุ่นพี่ลูซิส”
“ปกติที่นี่ ไว้เรียนวิชาอะไรหรอเจ้าคะ?” ช่วงที่เว้นจังหวะพูด เซย์เฮริเริ่มชวนคุยและสอบถามเกี่ยวกับสถาบันมากขึ้น พร้อมปรากฎให้เห็นเรือนร่างเต็มตัวหลังเห็นชายตรงหน้าแต่งตัวเรียบร้อยกว่าตอนแรกแล้ว
เธอตัวไม่เล็กหรือบางไป สมส่วนและงดงามลงตัวในแบบของเธอ
ไม่ได้คิดว่าสถานที่แบบนี้จะไร้ผู้คน เพียงแต่..ไม่คิดว่าจะเจอกับคนตรงหน้าในสภาพแบบนี้
"โอ้… น่าทึ่งจริงเชียว " หมายถึงอะไรหลาย ๆ อย่าง
ไล่สายตาสำรวจอีกฝ่ายเหมือนหาอะไรอยู่...แต่ก็หาไม่เจอจนต้องถอนหายใจ
+
"อืม... เราเพิ่งรู้ก็วันนี้ ว่าเซบาสเตียนก็รู้จักท่าที ‘เกรงใจ’ เหมือนกันนะ"
"พูดอะไรแบบนั้นครับองค์หญิง"
"ผมไม่บังอาจเสียมารยาทต่อราชวงศ์ต่างอาณาจักรหรอกครับ"
เขาหันไปหาชายหนุ่มที่มาด้วยพลางก้มหัวลงน้อยๆ
"ขออภัยที่ให้พวกท่านเห็นสภาพไม่น่าดูนะครับ"
ในใจของขุนนางหนุ่มคิดอะไรนั้นสุดจะรู้ หากแต่เขาแสดงออกอย่างนอบน้อมและเหมาะสมทีเดียว
“นั่นคือกิจกรรมที่ต้องขยับร่างกายเยอะนี่” สิ่งที่เรียกว่าออกกำลัง เช่นนั้นจะมีท่าทางไม่งามบ้างก็คงไม่แปลก
“เราเองก็อยากลองออกกำลังกายดูบ้าง แต่นอกจากกระบี่กระบองและว่ายน้ำเราก็มิถนัดแล้ว”
"ถ้าเจ้าพี่อยากออกกำลังกายบ้าง ทำไมไม่ให้เซบาสเตียนสอนซะล่ะ" ตามปกติแล้วเธอไม่ใช่คนที่จะมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ซะด้วยซ้ำไป
ทีแรกเธอก็จะปล่อยให้ทั้งสองคุยกัน แต่พอเห็นก้อนเขียวๆด้านข้างของเซบาสเตียนก็ทำให้เธอยืนอยู่ที่เดิม แต่สายตาไม่มองคู่สนทนาเสียแล้ว
ส่งสายตามาคล้ายจะอ่านได้ว่า อี๋ สกปรก
หลังจากนั้นก็หยิบน้ำหอมพกขวดเล็กออกมาทำทีฉีดๆ รอบๆ คล้ายจะรมควันพ่อบ้านด้วยกลิ่นหอมฟุ้ง
“ดูเหมือนจะต้องการอยู่พอดีนะ”
ว่าแล้วก็หาที่นั่งใกล้ๆ สักที่ วางก้นแหมะลงไปอย่างไม่เกรงใจ
(+)
“ทำไมอยู่นี่คนเดียวล่ะ” กวาดตามองรอบกายไม่มีคนอื่นอยู่ องค์หญิงป้องปาด เอียงคอ ดวงตาใสแป๋ว
“เพื่อนไม่ค— ไม่มีเพื่อนมาด้วยเหรอ”
(แมะผิด บอมบอม)
ยามเธอพูดประชดประชัน ก็ยังคงนิ่งอยู่
ยามเธอแสดงท่าทางยียวน ก็ยังคงนิ่งเฉย
เมื่อความเงียบทิ้งตัวเสียงใสแจ้วขององค์หญิงนั้นสงัดลง
(+)
“เอ่อ ไม่เป็นอะไรค่ะ ฉันมารบกวนรึเปล่าคะ”
เธอเอ่ยถามไปก่อนจะมีก้อนพัฟบอลสีดำบินตามหลังมาแล้วเกาะไหล่ก่อนจะโวยวายออกมา
“องค์หญิงมาผิดตึกแล้วว!”
"ไม่หรอกครับ"
"ดูเหมือนท่านจะหลงทางนะครับ"
“ก็ดูท่าจะอย่างนั้นแหละค่ะ”
อิเนสก้มมองดูขวดน้ำในมือตัวเองที่ยังไม่ได้เปิดก่อนจะยื่นให้อีกฝ่ายพร้อมกับรอยยิ้มสดใสเช่นทุกครา
”ทานน้ำก่อนมั้ยคะ? ดูท่าจะเหนื่อยนะคะ”
"ขอบคุณสำหรับน้ำใจของท่าน แต่ไม่บังอาจจะดีกว่า"
เป็นความเคยชิน นอกจากเงิน เขาก็ไม่รับของจากคนอื่นสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะของกิน
อืม—แต่จะว่าไป มายืนคุยกันในสภาพตัวเปียกเหงื่อแบบนี้ ต่อให้อีกฝ่ายไม่ถือสา แต่ตนก็ไม่ได้รู้สึกเห็นดีเลย
เห็นหญิงสาวยังจดๆ จ้องๆ มาก็เอ่ยปากถามเสียให้จบ
"มีอะไรที่อยากพูดคุยอีกหรือไม่ครับ?"
“อ๊ะ ก็แค่สงสัยนิดหน่อยน่ะค่ะว่าคุณมาทำอะไรคนเดียวน่ะค่ะ เอ๊ะ ไม่คนเดียวนี่นายังมีคุณปู่อยู่ด้วยนี่เนอะ“
เสียงสดใสที่กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มสดใสเช่นทุกคราก่อนจะนั่งลงไปใช้มือช่วยประคองอุ้มพัฟบอลของอีกฝ่ายขึ้นมา