#THK_EVENT05 #THK_สอบปลายภาค #THK_โรลเปิด
ห้องสมุดหลังเลิกเรียน | ช่วงเตรียมสอบ | แยกรูท | ย้อนหลัง
บันทึกที่ 517 : ความเชื่อและการถูกจ้องมอง
คุณเชื่อในเรื่องชีวิตแสนปกติสุขรึเปล่า?
โนบุยามะ จุนอิจิ ก็ยังเป็นคนที่ใฝ่หาสิ่งนั้นอยู่เสมอ ในการพาตัวเองมายังห้องสมุดเพื่อทบทวนบทเรื่องในช่วงเวลาที่ไม่มีใคร เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสายตาที่จับจ้อง
+
ห้องสมุดหลังเลิกเรียน | ช่วงเตรียมสอบ | แยกรูท | ย้อนหลัง
บันทึกที่ 517 : ความเชื่อและการถูกจ้องมอง
คุณเชื่อในเรื่องชีวิตแสนปกติสุขรึเปล่า?
โนบุยามะ จุนอิจิ ก็ยังเป็นคนที่ใฝ่หาสิ่งนั้นอยู่เสมอ ในการพาตัวเองมายังห้องสมุดเพื่อทบทวนบทเรื่องในช่วงเวลาที่ไม่มีใคร เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสายตาที่จับจ้อง
+
Comments
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ตัวชิเอะเองมาสิงอยู่ที่ห้องสมุด น่าจะเป็นไม่กี่ที่ ที่จะเจอเธอได้
ตอนที่กำลังขนหนังสือสำหรับติวสอบสายตาก็ได้ไปสบกับอะไรบนพื้น
ยางลบ?
เมื่อมองซ้ายมองขวาก็เห็นแค่เด็กหนุ่มที่ดูท่าจะเป็นรุ่นพี่เป็นคนที่อยู่ใกล้ที่สุด
ถึงจะไม่ชอบพูดคุยกับใครนักแต่วันนี้ก็ขอเป็นคนดีซักวัน
" อ่า....
นี่ยางลบคุณรึเปล่าคะ? "
เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าอีกฝ่ายอยู่รุ่นไหน
เกือบจะตะโกนอีกไปแบบทุกทีซะแล้ว...เกือบไป
ค่อยๆ หันใบหน้าที่แสดงถึงความหวาดระแวงมาหาเจ้าของเสียง
อา คนล่ะ, ใช่...คนจริงๆ ไม่ใช่อย่างอื่น
...
+
"อา ไม่ใช่ครับ" เสียงทุ้มสั่นๆตอบออกไปอย่างไม่ได้คิดอะไร
ก่อนจะหลุบมองบนโต๊ะอีกครั้ง
ยางลบหายไปไหน?—เงยหน้ามองอีกรอบ
"อา ไม่สิ...ของฉันเอง"
"ขอบคุณ...ครับ" แบมือรับยางลบคืนมา
ก่อนมองเธอให้ชัดอีกครั้ง
คงจะเป็นรุ่นน้อง เพราะเขาแทบไม่เคยเจอเธอเลย
อืม ใช่แหละ
สายตาพลางมองหนังสือที่เธอกำลังขนอยู่
"ให้ช่วยมั้ย?" ก็ดูท่าจะหนักล่ะมั้ง?
ถึงจะคิดแต่ก็ไม่ได้กล่าวออกไป ตัวเธอเองก็ไม่ได้มีนิสัยที่ชอบแกล้งคนอื่นเท่าไหร่เสียหน่อยเลยแอบตกใจกับปฏิกิริยา
'ให้ช่วยมั้ยงั้นเหรอ?'
"งั้นก็..ขอรบกวนด้วยนะคะ"
เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ยังคงฟังดูเรียบเฉยแบบเดิม
ถึงมีคนยื่นข้อเสนอมาแล้วมันทำให้ชีวิตลำบากน้อยลง ใครมั่งจะปฏิเสธ
ก่อนจะลุกไปช่วยยกกองหนังสือตามที่ว่า
ระหว่างที่เดินขนาบข้างก็เหลือบมองอย่างขบคิด
ไม่ใช่พวกที่ชอบแกล้งคนอื่นสินะ?
ค่อยยังชั่วหน่อย
...
+
และเพื่อทำลายความเงียบ จึงเอ่ยบทสนาสักอย่างขึ้นมา
"รุ่นน้องปีสองสินะครับ ชมรมวิทยาศาสตร์?"
เริ่มจำได้ขึ้นมาลางๆ เหมือนเคยเห็นเธอที่ชมรมตามที่ว่า แม้ตัวจุนอิจิจะอยู่ต่างชมรมก็เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมวิทยาศาสตร์มาก่อน เลยแวะเวียนไปอยู่บ่อยครั้ง
“จุน อิ จิ คุง~“
เสียงวิ่งตามมาแต่ไกลต่อด้วยคำเอ่ยทักที่ฟังดูอารมณ์ดี เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเพื่อนร่วมปีคนนี้ไม่ได้ต้องการให้จุนอิจิได้มีช่วงเวลาที่ดีนัก
”ติวให้หน่อยสิครับ-“
ฟุยุกิไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเพื่อนคนนี้จึงมักจะมองหาความสงบสุข ทั้งๆที่เจ้าตัวเองก็มักจะดูกังวลอยู่ตลอด
แม้เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ตกใจ แต่ถ้าเป็นจุนอิจิก็อาจจะตกใจกับคำเอ่ยสักที่แสนธรรมดานี้ก็ได้
หันขวับมองคนที่จู่ๆ ก็วิ่งเข้ามาหาอย่างตื่นตกใจ ใบหน้าชื้นเหงื่อพร้อมเสียงหายใจแรง ก่อนจะหรี่ตามองแรง ขมวดคิ้วอย่างเหนื่อยหน่าย
"อย่าทำให้ตกใจสิ ฟุยุกิ" เสียงคำรามต่ำในลำคอดัง
คล้ายดุเพื่อนร่วมชั้น
+
ให้ถามตัวเองอีกรอบนะฟุยุกิ
แต่อย่างว่า การให้คลังความรู้เดินได้อย่างเขาติว
ถือเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ติวได้มั้ยอีกเรื่อง
พลางถอนหายใจแผ่ว อาลัยแก่ความสงบของตัวเขาในวันนี้
"อา จะทำอะไรก็ทำ" ตอบปัดๆ
มือไม้ผายขึ้นทำนองเชิญนั่งตรงข้ามได้เลยจ้าพ่อคุณ
มาขอให้เขาช่วยติวแล้วยังไม่วายหาเรื่องใส่กันอีก แต่ถ้าจะไล่ตอนนี้ก็คงไม่ทัน
ฟุยุกิยกยิ้มร่าเริงพลางนั่งลงโชว์ให้เห็นกับตา เป็นการตอกย้ำว่า‘สายไปแล้ว’
สมุดจดขนาดพกพาถูกเปิดก่อนจะยื่นให้กับเพื่อนขนฟูของตนเอง
ข้างในถูกจดเป็นคำถามลิสต์ไว้ประมาณ7ข้อ ราวกับว่าตั้งใจจะหยิบมาถามจุนอิจิโดยเฉพาะยังไงยังงั้น
(+)
ฟุยุกิรีบทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตนราวกับว่าไม่ได้ทำตัวซ่าไปเมื่อครู่
ถ้าบอกว่าเป็นการถามคำถามก็อาจจะเหมาะกว่าการขอให้ติวก็ได้
เพราะฟุยุกิเองก็ไม่อยากเห็นภาพจุนอิจิสอนไปถอนหายใจไปด้วยความหัวทึบของเขา ก็เลยตั้งใจลิสต์คำถามมาอย่างดีเพื่อเพื่อนคนนี้ไงล่ะ!
”นี่คัดมาแค่7ข้อแล้วนะเนี่ย“
พูดแบบนี้หาเรื่องกันเรอะ!?
กำลังจะเตรียมคำรามใส่ แต่ก็ต้องกลับมามองตาปริบเมื่อเจ้าตัวเปิดสมุดที่ลิสต์สิ่งที่สงสัยมาให้อย่างดิบดี
ถึงไม่ต้องทำเสียงเล็กเสียงน้อย ยังไงตัวจุนอิจิก็ยอมช่วยอยู่ดี เห็นแก่คำว่าเพื่อน?—ก็คงงั้น ไม่อยากปล่อยให้หมอนี่หัวทึบไปตลอดซะหน่อย
ถ้าสักวันไม่มีเขาอยู่จะทำยังไงล่ะนั่น
เฮ้อ...
+
แต่ทว่าเธออ่านไปได้ไม่ถึง 5 นาทีก็เกิดอาการ'เบื่อ'ขึ้นมา เธอจึงลุกไปเก็บหนังสือที่เธออ่านไว้กลับเข้าชั้น
แต่ในระหว่างที่เธอเดินไปเก็บหนังสือ เธอก็เห็นชายคนหนึ่งที่เหมือนจะนั่งอ่านหนังสืออยู่ เขาดูลุกลี้ลุกลนหันไปมาราวกับว่าระแวงใครอยู่อย่างนั้น
+
เธอลองเคาะนู่นเคาะนี่ ทำของดูเหมือนขยับเองได้
ครืดด ครืดด ก๊อก ตึง!
เฮือก !—เสียงประหลาดที่เกิดขึ้นทำเอาตัวจุนอิจิสะดุ้งโหยงอย่างตื่นตกใจ หันซ้ายหันขวามองตามสิ่งที่เกิดขึ้น
อ อะไรน่ะของขยับได้!?—ดูเหมือนแสดงท่าทีหวาดระแวงไม่นานก็ตั้งสติได้ เห็นแบบนี้เขาก็ฉลาดมากพอ จะแยกพฤติกรรมของสิ่งเหนือธรรมชาติและสิ่งที่เกิดขึ้นโดยมนุษย์ได้อยู่นะ
+
"ทำอะไรของเธอน่ะ" หรี่ตามองเหมือนจะโกรธแต่จริงๆก็ไม่ได้อะไร
แค่อยากรู้ว่าสนุกมากมั้ยนั่น เฮ้อ...ชีวิตสงบสุขนี่ยากจังน้า
เธอแสร้งทำเป็นตกใจเมื่อถูกอีกฝ่ายจับได้
"เป็นไง นายกลัวบ้างไหม~"
เธอยิ้มอย่างสนุกสนานพลางถามอีกฝ่ายไปอย่างคาดหวัง
เพราะในขณะเดียวกันนั้นเอง ณ ห้องสมุดที่ 'ควร' จะเงียบสงบและไร้ซึ่งเสียงผู้คนใดๆ
ไออิก็เป็นหนึ่งคนในนั้นที่ก็ได้เข้ามาที่ห้องสมุดแห่งนี้
เธอไม่ได้เข้ามาอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบแต่อย่างใด
เรียกว่า 'มาสังเกตการณ์ผู้คน' นั่นแหละถึงจะถูก
.
.
เธอจ้องมองจุนอิจิมาตั้งแต่แรกเริ่มที่เขาได้ย่างกรายเข้ามาในห้องสมุดนี้แล้วล่ะ
+
"จุน"
"อิ
"จิ"
"จังงง~" เธอเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันไพเราะพร้อมกับมอบรอยยิ้มแสนหวานให้กับเขา
"มาอ่านหนังสืออยู่คนเดียวที่นี่หรอคะ~?"
ฝ่ามือที่เลื่อนทาบบนอกเพื่อเช็คว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ เหงื่อไหลตามกรอบหน้า นิ่งอยู่ชั่วครู่ก่อนจะค่อยๆ หันมาหาเจ้าของเสียงด้วยใบหน้าที่ดูจะเหนื่อยหน่ายเมื่อเจอหน้าเธอคนนี้
"ไออิ"
"อย่าทำให้ตกใจสิ"
หรี่ตามองเจ้าของดวงตาสีท้องนภาอันว่างเปล่า
ยากจะหยั่งรู้ว่าคิดอะไรอยู่
+
"แล้วเธอ...?" ไม่ได้อยากถามว่ามาทำอะไร
ดูจากท่าทีไม่ได้มาอ่านหนังสือเป็นแน่แท้
หรือเจ้าของสายตานั้นคือเธอกันนะ...?
พลางถอนหายใจแผ่ว
"มาทำอะไรล่ะ" สุดท้ายก็ถามไปตามมารยาท
"มาห้องสมุดก็ต้องมาอ่านหนังสืออยู่แล้วสิคะ~"
"ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงสอบปลายภาคอีก.."
"ถ้าฉันไม่รีบอ่านหนังสือคงจะไม่ดีเท่าไหร่หรอกใช่มั้ยล่ะคะ~"
ปากพูดอย่างแต่ใจนั้นกลับคิดอีกอย่าง ทั้งๆที่ตัวเธอเองนั้นรู้อยู่แก่ใจดีว่าไม่ได้มาอ่านหนังสือเหล่านั้นเลยสักนิด
+
เธอเผยรอยยิ้มสดใสออกมาตอบรับกับท่าทีของเขาเหมือนกับทุกๆที
"จุนอิจิจังนี่ขยันขันแข็งดีจังเลยนะคะ~"
เธอชายตามองกองหนังสือมากมายที่วางกองอยู่บนโต๊ะของเขา
"อ่านหนังสือเยอะแบบนี้จะต้องสอบออกมาได้คะแนนดีแน่นอนเลยค่ะ~"
ปรายตามองรอบๆ ตัว
ก็ไร้วี่แวว
...
"นี่ฉันคิดมากไปสินะ..."
เสียงทุ้มพึมพำขณะเลื่อนมือนวดขมับ
ขณะที่จุนอิจิกำลังโล่งใจและตั้งหน้าตั้งตาใช้สมาธิต่อไป หากคุณกำลังอยากมอบชีวิตอันไร้ความสงบให้กับเขา
นี่คงเป็นโอกาสแล้วล่ะ?
+
>เก็บยางลบข้างโต๊ะขึ้นมาให้
>เก็บปากกาข้างหลังโต๊ะขึ้นมาให้
>ตั้งใจมาแกล้งให้จุนอิจิตกใจอยู่แล้ว
>อื่นๆ แล้วแต่ศรัทธา
(เนื่องจากมัมหมีจุนอิจิเพิ่งลากสังขารกลับมา จึงไม่เคยโคกับใครเลย สามารถเนียนรู้จักได้ตามสะดวกเลยครับ
โรลสั้นๆสบายๆ มัมหมีหาเรื่องแกล้งจุนอิจิให้ตกใจเล่นครับ🥺)
ท่ามกลางความเงียบของห้องสมุด หาใช่ว่าจะมีแต่เพียงคุณอยู่ลำพัง
หลังจากคุณที่หันไปตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ ดวงตาสีดำกำลังจ้องมองมาทางคุณผ่านลอดผ่านช่องว่างของชั้นหนังสือ
ผ่านไปชั่วครู่ แค่เข็มวินาทีที่กำลังเดินช้าๆ
เขาก็มาปรากฏอยู่ด้านหลังคุณพร้อมหนังสือในมือ ไร้เสียงฝีเท้า ไร้ซึ่งวี่แวว
“ ไง ”
"แว้ก—"กำลังจะตะโกนร้องอย่าทุกที แต่ก็นึกได้ว่ายังอยู่ในห้องสมุดจึงรีบเอามือปิดปากตนเองไว้ได้ทันท่วงที
พลางหันมามองค้อนใส่ผู้เป็นเพื่อนร่วมชั้นอย่างไม่พอใจนัก
"อย่าโผล่มาแบบนี้สิ"
"ชินเงน"
ลดฝ่ามือที่กุมปากลง เผยสีหน้าแหยๆ
ถ้าหัวใจวายขึ้นมาทำไงนั่น
+
หรี่สายตาลงเหมือนไม่ไว้ใจนัก ที่ถามออกไปเพื่อเช็คให้มั่นใจว่าเจ้าตัวมีธุระอะไรกับตน หรือเพียงแค่อยากมาแกล้งเขาแบบทุกที
เฮ้อ...