“อืม...งั้นลองกินฮันนี่โทสต์กับผมไหมครับ? ถ้าคุณคิโนะชิตะชอบหวานนะครับ”
“แต่จะกินเซ็ตแพนเค้กที่เลือกก็ได้ครับ”
พอเห็นอีกคนลังเลก็เสนอเมนูให้เป็นโทสต์ที่ราดด้วยน้ำผึ้งตกแต่งด้วยผลไม้หลากสีสวยงามโปะด้วยไอศกรีมวานิลลาด้านบนน่ากิน ถ้าสั่งไปก็ยังพออยู่ในงบที่จ่ายได้เลยไม่ได้ว่าอะไรมากกับราคา
“แต่จะกินเซ็ตแพนเค้กที่เลือกก็ได้ครับ”
พอเห็นอีกคนลังเลก็เสนอเมนูให้เป็นโทสต์ที่ราดด้วยน้ำผึ้งตกแต่งด้วยผลไม้หลากสีสวยงามโปะด้วยไอศกรีมวานิลลาด้านบนน่ากิน ถ้าสั่งไปก็ยังพออยู่ในงบที่จ่ายได้เลยไม่ได้ว่าอะไรมากกับราคา
Comments
“เอาอันที่รุ่นพี่เลือกดีกว่าค่ะ” เธอดูสบายใจมากกว่าที่คนออกเงินเป็นคนเลือก ประสานมือวางบนตัก “คือ เอ่อ ฉันกินได้ทุกอย่างอยู่แล้วน่ะค่ะ”
“รุ่นพี่ชอบของหวานเหรอคะ?”
“ก็...นิดนึงมั้งครับ ถ้าหวานมากไปผมก็กินไม่ค่อยได้หรอก”
เขาว่าขึ้นแอบน่าอายนิดหน่อยไม่รู้ว่าบ้านอื่นเป็นไหมแต่คงจะดูแปลกสินะที่ผู้ชายเข้าคาเฟ่กินของหวาน
ไรระโพล่งขึ้นมา เธออธิบายต่ออย่างกระตือรือร้นหลังขอสั่งนมร้อนราคาถูกไปอีกแก้วด้วย
“ฉันชอบตอนวาดของหวานค่ะ สำหรับฉันแล้วหน้าตามันดูเหมือนฝันดี” ไม่ได้หมายถึงชอบกิน
“ถ้าคราวหลังฉันได้วาดรุ่นพี่ตอนกินขนมบ้างก็น่าจะดีนะคะ”
“.. คะ- ครับ? ไม่ดีหรอกครับ คือมันน่าอายน่ะผมรู้สึกไม่ชินเท่าไหร่ถ้ามีคนมอง แหะๆ ”
ใบหน้าอมชมพูแดงฝาดส่ายไปมาเบาๆ เอาซะพูดสะดุดอึกอัก เพราะเป็นคนไม่ถนัดถูกมองเสียเท่าไหร่ ก็มัน น่าอายนี่...
”น่าอายเหรอคะ“
“รุ่นพี่แค่กินขนม ฉันก็แค่วาดไป เท่านั้นเองนี่คะ” ไรระไม่เข้าใจ แต่เธอก็ไม่ซักไซ้ต่อ ถ้าแบบวาดรูปไม่อยากให้วาดเธอก็ไม่อยากฝืนใจใคร
เด็กสาวเปลี่ยนเรื่อง
“รุ่นพี่ชอบวาดอะไรเหรอคะ ฉันนึกขึ้นได้ว่าไม่เคยเห็นสมุดสเกตช์ของรุ่นพี่เลยน่ะค่ะ”
คำตอบยียวนชวนสงสัย ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองชอบวาดอะไร เลยยกอะไรที่วาดบ่อยๆ มาตอบแทน
ส่วนในเรื่องของสมุดสเก็ตก็เอาแอบเขินนิดหน่อยเพราะเขาวาดแต่ละอย่างสะเปะสะปะ คนบ้างวิวบ้างคละๆ กันไป