“โอเคครับ” พอเห็นอีกคนโอเคเช่นนั้นก็หันไปบอกพนักงานชี้นิ้วเมนูที่เลือกชูขึ้นสองที่ ซ้ำเขายังสั่งกาแฟให้ตัวเองอีกแก้วหนึ่งด้วย
“ก็...นิดนึงมั้งครับ ถ้าหวานมากไปผมก็กินไม่ค่อยได้หรอก”
เขาว่าขึ้นแอบน่าอายนิดหน่อยไม่รู้ว่าบ้านอื่นเป็นไหมแต่คงจะดูแปลกสินะที่ผู้ชายเข้าคาเฟ่กินของหวาน
“ก็...นิดนึงมั้งครับ ถ้าหวานมากไปผมก็กินไม่ค่อยได้หรอก”
เขาว่าขึ้นแอบน่าอายนิดหน่อยไม่รู้ว่าบ้านอื่นเป็นไหมแต่คงจะดูแปลกสินะที่ผู้ชายเข้าคาเฟ่กินของหวาน
Comments
ไรระโพล่งขึ้นมา เธออธิบายต่ออย่างกระตือรือร้นหลังขอสั่งนมร้อนราคาถูกไปอีกแก้วด้วย
“ฉันชอบตอนวาดของหวานค่ะ สำหรับฉันแล้วหน้าตามันดูเหมือนฝันดี” ไม่ได้หมายถึงชอบกิน
“ถ้าคราวหลังฉันได้วาดรุ่นพี่ตอนกินขนมบ้างก็น่าจะดีนะคะ”
“.. คะ- ครับ? ไม่ดีหรอกครับ คือมันน่าอายน่ะผมรู้สึกไม่ชินเท่าไหร่ถ้ามีคนมอง แหะๆ ”
ใบหน้าอมชมพูแดงฝาดส่ายไปมาเบาๆ เอาซะพูดสะดุดอึกอัก เพราะเป็นคนไม่ถนัดถูกมองเสียเท่าไหร่ ก็มัน น่าอายนี่...
”น่าอายเหรอคะ“
“รุ่นพี่แค่กินขนม ฉันก็แค่วาดไป เท่านั้นเองนี่คะ” ไรระไม่เข้าใจ แต่เธอก็ไม่ซักไซ้ต่อ ถ้าแบบวาดรูปไม่อยากให้วาดเธอก็ไม่อยากฝืนใจใคร
เด็กสาวเปลี่ยนเรื่อง
“รุ่นพี่ชอบวาดอะไรเหรอคะ ฉันนึกขึ้นได้ว่าไม่เคยเห็นสมุดสเกตช์ของรุ่นพี่เลยน่ะค่ะ”
คำตอบยียวนชวนสงสัย ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองชอบวาดอะไร เลยยกอะไรที่วาดบ่อยๆ มาตอบแทน
ส่วนในเรื่องของสมุดสเก็ตก็เอาแอบเขินนิดหน่อยเพราะเขาวาดแต่ละอย่างสะเปะสะปะ คนบ้างวิวบ้างคละๆ กันไป
เธอยกมือขึ้นทำรูปทรง “ฉันเคยวาดหนนึงที่ข้างรั้วบ้านสักหลัง เป็นพุ่มๆสวยเชียวค่ะ“
“แต่ฉันวาดคนเป็นส่วนใหญ่ค่ะ”
ไม่พูดเปล่า เด็กสาวหยิบสมุดสเกตช์ขึ้นมา รูปวาดใบหน้าคนด้วยดินสอดำจำนวนมากพร้อมชื่อที่มุมซ้ายล่างกรีดผ่านนิ้ว หยุดที่ใบหน้าหนึ่ง “นี่ไงคะ ฉันเคยวาดรุ่นพี่ด้วยค่ะ”