[ 1|Feb ร้านขนมหวาน|โรลเปิด ]
หญิงสาวคนหนึ่งยืนจ้องคุณนิ่งๆมาได้ร่วมนาทีแล้ว
แม้แพทริเซียจะไม่ได้แสดงออกมากนัก แต่'คุณ'ก็สัมผัสได้ถึงความไม่พอใจจากสายตาของเธอ
ิิ ต้นเหตุนั้นคือ'ของหวาน'ในมือคุณ ซึ่งเหมือนว่าเธอจะเล็งมานาน แต่ดันโดนคุณแย่งชิ้นสุดท้านไปเสียได้
หญิงสาวคนหนึ่งยืนจ้องคุณนิ่งๆมาได้ร่วมนาทีแล้ว
แม้แพทริเซียจะไม่ได้แสดงออกมากนัก แต่'คุณ'ก็สัมผัสได้ถึงความไม่พอใจจากสายตาของเธอ
ิิ ต้นเหตุนั้นคือ'ของหวาน'ในมือคุณ ซึ่งเหมือนว่าเธอจะเล็งมานาน แต่ดันโดนคุณแย่งชิ้นสุดท้านไปเสียได้
Comments
พลันดวงตาสบเข้ากับนัยน์แก้วใสของหญิงสาวคนนึง
...
“สวัสดีค่ะ"
“ชิ้นนี้น่ะ อยากได้หรือเพคะ“
ดวงตาสีม่วงอมชมพูคู่นั่นเคลื่อนขึ้นมาสบตาของอีกฝ่ายกลับ
"ฉันจะกล้าอยากได้ของที่เป็นของผู้อื่นได้อย่างไรกันเพคะ?"
แม้ใจจะสนใจเพียงใด แต่หากกล่าวออกไปจะต้องไม่เหมาะสมเป็นแน่
“อ๊ะ! องค์หญิงแพทริเซีย“
เมื่อเธอหันไปพบกับองค์หญิง เธอก็วางberry tartเอาไว้ที่โต๊ะข้างๆ แล้วโน้มศรีษะลงเพื่อคำนับพร้อมกับคิดในใจ
[เราทำอะไรผิดไปรึเปล่านะ? นางถึงได้จ้องเราไม่หยุดเลย…]
"สวัสดีค่ะ คุณมอกาน่า"
"อยู่ในอคาเดมีไม่จำเป็นต้องใช้คำทางการกับฉันมากก็ได้ค่ะ" แสดงให้เห็นว่าเธอไม่ได้เคร่งในเรื่องมารยาทนัก
กลับกันสายตาของเธอก็ยังคงจ้องเบอรี่ทาร์ตชิ้นนั้นไม่วางตา
“อ่า…หากองค์หญิงไม่รังเกียจ มาทานขนมด้วยกันไหมเพคะ ดิฉันพึ่งซื้อมาตะกี้นี้เอง“
ว่าแล้วเธอก็หยิบกล่องที่บรรจุทาร์ตหลายหน้าออกมา
”ถือซะว่า เป็นคำขอโทษที่ ‘บังเอิญ’ รบกวนคุณเข้า“
"ฉันย่อมไม่รังเกียจคำเชิญนี้หรอกค่ะ อีกอย่างก็ไม่ได้เป็นการรบกวนอะไรด้วย"
ยอมรับคำเชิญชวนนั้นแต่โดยดี พร้อมกับปฎิเสธในเรื่องหลัง ทั้งๆที่ตนเป็นตัวการแท้ๆ
"จะว่าไปซื้อทาร์ตมาหน้าหลากหลายขนาดนี้ ตั้งใจจะซื้อไปฝากใครงั้นหรอคะ"
“โนวา พัฟบอลของดิฉันเธออยากกินน่ะค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงเธอยินดีที่จะให้องค์หญิงได้ร่วมทานด้วย”
โนวาที่อยู่ข้างๆจึงถลึงตาใส่มอแกรนด์เพื่อสื่อว่า‘เธอโบ้ยฉันหรอ?…ก็ได้’
"ถ้าฉันร่วมทานด้วยเธอจะยินดีรึเปล่าเจ้าพัฟบอลตัวน้อย"
พัฟบอลของตัวแพทริเซียเองไม่ได้อยู่ด้วย ณ ตอนนี้ ไม่งั้นป่านนี้เธอคงโดนบ่นจนหูชา แล้วไม่ได้มายืนจ้องขนมคนอื่นอยู่แบบนี้เป็นแน่
สายตาที่กำลังจับจ้อง
ต่อให้ไม่ใช่อัศวินสูงส่งที่ผ่านการขัดเกลาก็คงรู้สึกได้
เจเรเมียที่ในมือถือช็อตเค้กสตรอเบอร์รี่จึงหันไปตามความรู้สึก
ก่อนจะพบว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้น เขาจึงส่งยิ้มให้จางๆ
”แพทริเซีย“
”มาซื้อของเหรอ?“
”เห็นเขาว่ากันว่า ของหวานที่นี่รสไม่หวานจนเกินไป น่ากินทีเดียว“
มิวายอวดหน้าตาชื่นบาน ราวกับกำลังติดฟิลเตอร์ว่าเธอมองมาด้วยสายตาหวานฉ่ำแทน
ก็เล่นถือของที่เธออยากกินพร้อมสีหน้าชื่นบานแบบนั้น ใครมันจะไปอารมณ์ดีได้?
"ร้านนี้ร้านประจำของฉันค่ะ"
"ช็อตเค้กสตอเบอรี่ชิ้นนั้น ถือเป็นขนมขึ้นชื่อของร้าน"
"น่าอร่อยน่าดูเลยนะคะ"
สายตายิ่งจับจ้องไปที่ขนมหวานชิ้นนั้นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
“ร้านประจำของเธอนี่เอง”
ไปโฟกัสตรงนั้นแทน
พลางยิ่งถูกมองไม่ระวางนานเข้า เขาก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าสายตาของคู่สนทนาไม่ได้กำลังจับจ้องมายังตน
พริบตานั้น เจเรเมียหลุดหัวเราะ
“…อยากได้?”
ถามออกไปตรงๆ พร้อมมือที่เหมือนจะชูช็อตเค้กเด่นกว่าเดิม
"อืม...ฉันตั้งใจจะมาซื้อช็อตเค้กนั่นค่ะ"
"แต่น่าเสียดายที่ท่านซื้อชิ้นสุดท้ายไปแล้ว"
ไม่ยอมตอบคำถามตามตรงแต่กลับพูดเลี่ยงแทน แถมยังย้ำซ้ำเข้าไปอีก
จะว่ายอมรับก็ไม่ใช่แต่จะปฎิเสธก็ไม่เชิง
แพทริเซียเป็นคนที่รับมือยากเสียจริง
อยากได้ ไม่อยากได้
สายตานั้นก็ฟ้องออกมาหมดสิ้น
เขาจึงยื่นสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการออกไปเหมือนแม่มดที่มอบแอปเปิ้ลให้หญิงงาม
“พอดีเลย“
”ความจริงแล้วฉันไม่ได้ตั้งใจซื้อสิ่งนี้ แต่จะเปลี่ยน…ก็คงไม่ดีเท่าไหร่“
เจเรเมียว่าพลางเดินเข้าไปใกล้
“เธอช่วยรับไปได้ไหม”
“…ถ้ามีคนช่วยกินให้ก็คงดี“
เธอยกมือขึ้นมาแตะที่ปลายคางพลางทำหน้าสงสัย
"น่าแปลกจริงๆ"
"หากคุณมองว่าไม่ดีล่ะก็ การยกสิ่งของที่ซื้อมาแล้วให้คนอื่นต่อจะเป็นสิ่งที่ดีหรอคะ?"
เธอนั้นไม่มีปัญหาหากอีกฝ่ายจะให้เธอช่วยกิน(เพราะอยากกินอยู่แล้ว) เพียงแต่สงสัยอีกฝ่ายก็เท่านั้น
(ข ขอโทษค่ะลูกเรานิสัยแปกมาก🧎♀️)
“ องค์หญิง.. ? ”
เขาโค้งหัวคำนับเล็กน้อย ไม่แปลกเสียเท่าไหร่หากพบเจอเธอที่นี่ แต่สิ่งที่แปลกคือความไม่พอใจที่อีกฝ่ายแสดงออกมามากกว่า
“ มีอะไรให้กระหม่อมช่วยหรือไม่พะย่ะค่ะ ? ”
สายตาของเขาหยุดลงตรงที่สายตาของเธอจดจ้อง นั่นคือ ‘ ทาร์ตผลไม้ ’ ในมือของเขา
"อัลเดริก..อยู่ในอคาเดมี ไม่จำเป็นต้องใช้คำทางการกับฉันมากก็ได้ค่ะ"
ถามว่ามีอะไรที่อยากให้ช่วยงั้นหรอ?
"ฉันอยากทานขนมหวานน่ะค่ะ"
กล่าวคำพูดออกไป ไม่เจาะส่งสิ่งใดเป็นพิเศษ
เขาเอ่ยกล่าวปฏิเสธ เพราะยังไงอีกฝ่ายก็เป็นถึง ‘ พระคู่หมั้น ’ ของตน
และในยามนี้... เขาก็ไม่ใช่เด็กหนุ่มเมื่อตอนนั้นอีกแล้ว
“ ทว่า หากพระองค์ยังคงยืนยันเช่นเดิม.. ”
เขากระแอมไอเล็กน้อย แล้วจึงกล่าวต่อ
“ กระหม่อมเกรงว่า คงลดความสุภาพลงได้เล็กน้อย.. ตามพระประสงค์พะย่ะค่ะ ”
การรักษาระยะห่างที่พึงควรปฏิบัติค่อยๆ ดูเป็นกันเองมากขึ้น
ดูเป็นชื่อที่เขาไม่ได้เรียกมานาน ทว่ากลับเอ่ยถึงอยู่บ่อยครา
“ หากท่านต้องการ ทาร์ตผลไม้ชิ้นนี้.. ผมยกให้ ”
เขากล่าวถึงของหวานในมือ หนึ่งในขนมหวานที่อยู่ในความทรงจำของ ‘ วันนั้น ’
บนโต๊ะน้ำชาของ ‘ ที่นั่น ’
วันที่เขาอยาก ‘ ลืมเลือน ’ให้หายไปจากใจ
อย่างน้อยเขาก็ยอมเรียกเธอด้วยชื่อปกติบ้างเสียที
"ถ้ายกชิ้นนี้ให้ฉันแล้ว ท่านจะทานอะไรล่ะคะ?"
"ในเมื่ออัลเดริกเป็นคนซื้อมานี่นา"
ถึงจะโดนอีกฝ่ายแย่งขนมชิ้นสุดท้ายที่เล็งไว้ไปก็ตาม แต่การได้มาโดยที่เหมือนถูกข่มขู่จากเธอเองก็ดูไม่ดีนัก
เขาครุ่นคิด ทาร์ตผลไม้ที่เจ้าตัวเลือกมาเป็นเพียงการสุ่มจิ้มด้วยซ้ำ
“ ที่เหมาะกับการดื่มชา.. ”
ชายหนุ่มยังคงมองตู้ที่เต็มไปด้วยขนมหวานอย่างเลือกไม่ได้... ในยามปกติเขาคงเลือกหยิบเมนูที่ไม่ค่อยมีผู้ใดทานนัก
ในตอนที่ลอเรไลได้ทาร์ตสตอร์เบอร์รี่ที่สั่งไว้ เธอก็สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง(?) เมื่อหันไปมองด้านหลังเธอก็ได้เห็นกับหญิงสาวผมสั้นที่กำลังจับจ้องมายังขนมในมือของเธอตาเป็นมัน
“อ่า อยากจะทานด้วยกันกับดิฉันไหมคะ”
เธอเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม เพราะสายตาแบบนั้นของคนผมสั้นนั้นเหมือนกับตอนที่น้องสาวคนเล็กของเธอที่ทำท่าอยากได้ขนมในมือพี่ๆไม่มีผิดเลยนี่นา
" ปกติแล้วท่านชวนคนแปลกหน้ามาทานอาหารด้วยบ่อยหรอคะ... "
ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทั้งหมดเกิดจากท่าทีของตนเองที่แสดงออกมา
แม้จะกล่าวเช่นนั้น สองขากลับก้าวเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น
"แต่ก็...ขอบคุณสำหรับคำเชิญชวนนี้นะคะ"
ไม่ได้ตอบรับตรงๆ ทว่าไม่ได้ปฏิเสธเสียทีเดียว
"เชิญเลยค่ะ จริงๆดิฉันอยากลองชิมเค้กหลายอย่างเลยด้วย มีคนช่วยกินแบบนี้ดีจังเลย"
เธอยิ้มกว้างก่อนจะหยิบเมนูเค้กขึ้นมา
"คุณอยากทานเค้กอันไหนอีกไหมคะ"
"อืม...รับเพิ่มเป็นราสเบอรี่ชีสเค้กกับบลูเบอรี่พายก็แล้วกันค่ะ"
เพราะของที่เธอต้องการอยู่บนโต๊ะแล้ว จึงสั่งอย่างอื่นเพิ่มแทนให้แก่อีกฝ่าย
หากไม่สั่งอะไรเพิ่มเลยคงทำให้อีกฝ่ายหิวแย่
"ท่านสนใจอยากจะดื่มชาชนิดไหนเป็นพิเศษไหมคะ?"
เธอตอบด้วยรอยยิ้ม ทั้งราสเบอร์รี่ชีสเค้กกับบลูเบอร์รี่พายฟังดูน่าทานมากๆ
"ชาหรอคะ อื้ม ดีฉันชอบชาดาร์จีลิ่งมากเลยค่ะ แต่ชาอื่นๆก็ชอบเหมือนกันค่ะ"
ตัวของลอเรไลนั้นชื่นชอบชาหลายๆแบบเลยทำให้เธอเลือกไม่ได้เลยว่าจะเอาชาแบบไหนดี ก่อนที่เธอจะนึกขึ้นได้
"จริงสิ ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย! ดิฉันลอเรไล นาริสซ่า เวเตียรี ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"
คำชมนี้ไม่ได้เพียงกล่าวลอยๆ เพราะเธอสัมผัสได้ว่าชื่อนี้เข้ากับเจ้าตัวแค่ไหน
"ส่วนฉัน แพทริเซีย เดอ อามัวร์เทอร่า ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคะ"
ระบายยิ้มออกมาเล็กน้อยส่งให้กับลอเรไล
"ส่วนชานั้นเอาเป็นดาร์จีลิ่งก็แล้วกันค่ะ เป็นชาที่คุณชอบแถมยังเข้ากับขนมได้ดีด้วย"
ระหว่างที่เตรียมจะทานพาเฟต่สตรอว์เบอร์รี่ของตน เหมือนว่าจะรู้สึกได้ว่าถูกจ้องโดยอีกคน
“ ? ”
ใบหน้าหวานยิ้มแย้มรับพร้อมกับกล่าวคำทักทาย ยกมือข้างขวายกขึ้นแตะบริเวณอก
“ โอ๊ะ ? สวัสดีค่ะ ”
“ สนใจมาทานด้วยกันไหมคะ ? เห็นคุณดูจะจ้องมันมาสักพักแล้ว ” 🌸
มืออีกข้างที่ถือถ้วยขนมหวานยื่นให้อีกคนเป็นการเชิญชวนเล็กๆ
แพทริเซียมองสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มนั้นก่อนเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย
"สวัสดีค่ะ"
"ขอบคุณสำหรับคำเชิญชวนนะคะ เป็นคำเชิญชวนที่น่าสนใจไม่น้อยเลย"
เธอส่งรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรกลับไปให้แก่อีกฝ่าย
"น่าแปลกใจจริงๆที่ท่านเชิญคนแปลกหน้าอย่างฉันมาทานด้วยเช่นนี้"
ระหว่างที่อีกคนเดินเข้ามาหาก็คอยสังเกตตัวพินของอีกคนเล็กๆ
“ ถือว่าเป็นการทำความรู้จักไปในตัวเลยยังไงล่ะคะ ”
ฝ่าเท้าเดินนำพาอีกคนไปหาที่นั่งไม่ไกลจากตนก่อนจะนั่งลง
“ อีกอย่าง พวกเราก็อยู่ปีเดียวกันเสียด้วย ยังไงพวกเราคงจะได้เจอกันอีกในอนาคตนี่คะ “
ปีเดียวกันสินะ
"ท่านมองได้รอบด้านจริงๆเลยค่ะ"
เธอค่อยๆนั่งลงบนที่นั่งฝั่งตรงข้ามของอีกฝ่าย
"หากจุดประสงค์คือการทำความรู้จัก การแนะนำตัวคงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้จริงไหมคะ?"
" ฉัน แพทริเซีย ค่ะ " ระบายยิ้มออกมาเล็กน้อยพลางส่งสายตาให้แก่อีกฝ่าย
เธอเลือกที่จะแนะนำเพียงแค่ชื่อเท่านั้น
"เค้กนี่น่ะมันหวานดีนะ เธอว่างั้นไหมแพท"
หญิงสาวละเลียดชิมเนื้อเค้กในปากอย่างเอร็ดอร่อยก่อนจะตักอีกคำขึ้นมา
"อื้ม เค้กชิ้นนี้มันก็ดูสวยงามนะ แต่ที่แน่ๆรสชาติของมันคงชวนทำให้ผู้คนต่างน้ำลายสอ" —หญิงสาวพูดขึ้นก่อนหันไปมองที่ใบหน้าของเพื่อนสาวคนสนิท
"ว่างั้นมั้ย~"
คิ้วเรียวเลิกขึ้นข้างหนึ่งอย่างต้องการถาม
แพทริเซียมองเค้กที่ค่อยๆหายเข้าปากเพื่อนสนิทอย่างอนาสตาเซียไปทีละน้อยอย่างเอร็ดอร่อย
"แน่นอน เจ้าเค้กชิ้นนี้เป็นของขายดีประจำร้านนี่นา"
ยังคงตอบคำถามอย่างดีแถมยังคงจ้องเจ้าเค้กนั่นตาเป็นมันส์โดยไม่ปิดบังสักนิด
ไม่จำเป็นต้องมองหาก็สามารถมองเห็นได้อย่างง่ายดาย
เธอเป็นหญิงสาวที่คุ้นตาและไซเวียร์รู้จักดี
“สวัสดีแพทริเซีย”
สายตาของเพื่อนสาวอยู่ที่บลูเบอร์รี่ชีสเค้กในมือของเขา
ดูเหมือนเขาจะหยิบขนมชิ้นสุดท้ายที่เธอต้องการ
เขายิ้มและเอ่ยถาม “เธอต้องการบลูเบอร์รี่ชีสเค้กนี้เหรอครับ”
"สวัสดี...ไซเวียร์" เธอกล่าวทักทายเพื่อนของตนเอง
"ฉันไม่กล้าอยากได้สิ่งของที่เป็นของเพื่อนหรอกค่ะ"
ถึงจะพูดเช่นนั้นแต่นิ้วมือกับไขว้ประสานกัน ทำมือขยุกขยุยไปมาแถมดวงตายังคงจ้องเจ้าเค้กชิ้นนั้นไม่วางตา
คติก็สำคัญ แต่ของกินที่อยาก...ก็สำคัญเช่นเดียวกัน
หลังจากคาบเรียนต่าง ๆ จบลง คอร์เดเลียไปที่ร้านขนมหวานซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก ก่อนจะตัดสินใจซื้อบลูเบอร์รี่พายชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่
ตอนที่จ่ายเงินไปแล้วนั่นเอง ถึงเพิ่งได้สังเกตว่ามีใครบางคนกำลังจ้องเธออยู่...เรียกให้ถูกต้องบอกว่าจ้องพายในมือมากกว่า..
“ เอ่อ คือ.. ”
เธอพอจะเดาสถานการณ์ได้ มีหลายครั้งที่เกิดเรื่องแบบนี้กับเธอเหมือนกัน
"มีอะไรงั้นหรอคะ?" เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มต้นพูดบางอย่างแล้วหยุดไป เธอจึงได้ถามกลับ
ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่ตนเองนั่นแหละเป็นฝ่ายที่ทำให้คนอื่นรู้สึกแปลกๆก่อน
(อ๋ย ขอบคุณค่ะะ🥺 ลูกทางนั้นเองก็น่ารักมากก😭)
ลองถามดูดีมั้ยนะ...
” คือว่า เจ้านี่น่ะค่ะ “
เธอพูดขึ้นพร้อม ๆ กับชี้ไปที่บลูเบอร์รี่พายในมือ
” ชอบ...เหรอคะ? “
ถามอะไรออกไปกัน- แต่ก็ไม่รู้จะถามอะไรแล้วนี่นา
แพทริเซียตอบคำถามนั้นตามตรง
"เค้กนี้เรียกได้ว่าเป็นของที่นิยมมากของร้านนี้เลยล่ะค่ะ"
"ไม่คิดเลยว่าคุณจะซื้อทันด้วย"
แต่ก็ไม่ยอมปริปากบอกว่าที่ตนต้องเค้กตาเป็นมันขนาดนั้นเพราะอะไร
ที่จริงเธอไม่ได้ชอบพายขนาดนั้น และที่ซื้อมาก็เพราะเห็นว่ามันเหลืออยู่อันสุดท้ายเฉย ๆ
แต่ถ้าอีกฝ่ายพูดแบบนี้ คงไม่พ้นแบบที่เธอคิด ซื้อไม่ทันสินะ..
“ ถ้าไม่รังเกียจ ฉันยกให้ เอามั้ยคะ? ”
เพราะเธอฝากพัฟบอลของตัวเองไปซื้อขนมหวานร้านอื่นด้วย ต่อให้ไม่มีพายชิ้นนี้ เธอก็ยังมีขนมของคืนนี้อยู่
สู้ยกให้คนที่อยากทานจริง ๆ น่าจะเหมาะกว่า
"ฉันย่อมไม่รังเกียจอยู่แล้วล่ะค่ะ แต่หากจะให้ฉันเป็นฝ่ายรับคนเดียวคงดูไม่ดี"
ฝ่ามือค่อยๆยกมาประสานที่ใต้คางของตน
"ถ้าอย่างนั้นให้ฉันเป็นฝ่ายตอบแทนด้วยน่าจะดีกว่า มีอะไรที่สนใจหรืออยากได้เป็นพิเศษไหมคะ?" คำพูดนี้ไม่เกินจริงแม้แต่น้อย หากอีกฝ่ายต้องการอะไรเธอคงหามาให้
รู้สึกเหมือนกับว่าถูกจ้องมองอยู่เลย—?
เมื่อหันหลังกลับไปก็พบเข้ากับสายตานั้นเข้าจริงๆ
"องค์หญิงแพทริเซีย"
โค้งศีรษะลงเล็กน้อยเป็นการทักทายผู้สูงศักดิ์ตรงหน้า หากแต่มือนั้นไม่ได้จับยกกระโปรงขึ้นมาเพราะใช้ถือถาดซึ่งมีจานเค้กและชุดน้ำชาอยู่
"... พระองค์มีอะไรจะกล่าวกับหม่อมฉันหรือเปล่าเพคะ?"
"อยู่ในอคาเดมีไม่จำเป็นต้องทางการกับฉันมากก็ได้ค่ะ..."
กล่าวตอบการกระทำของคนตรงหน้าก่อยสายตาจะหลุบลงมองเค้กในถาดนั้น
"เค้กชิ้นนี้ถือว่าเป็นของขึ้นชื่อของร้านเลยค่ะ"
"ไม่คิดว่าชิ้นสุดท้ายจะอยู่กับคุณเซลีน"
คำพูดราวกับบอกกล่าวเรื่องทั่วไป แม้จะมีความนัยย์บางอย่างแฝงอยู่ก็ตาม
หญิงสาวก้มลงมองตามสายตาของเพื่อนร่วมชั้น
บนถาดนั้นมีเค้กอยู่สองชิ้น ช็อกโกแลตครีมสดและสตรอเบอร์รี่ช็อตเค้กที่เหลือเป็นชิ้นสุดท้าย
หรือว่า—
"หากองค์หญิงไม่มีธุระอะไรต่อ สนใจมาร่วมโต๊ะน้ำชาด้วยกันก่อนไหมเพคะ"
"หม่อมฉันยกเค้กให้องค์หญิงเลือกก่อนชิ้นหนึ่งเลยเพคะ"
หากไม่ได้เข้าใจผิดไป เหมือนว่าเธอจะอยากทานเค้กที่เหลือเพียงชิ้นสุดท้ายนั่นน่ะ
"แต่ว่าหากให้คุณเป็นคนให้แค่ฝ่ายเดียวคงไม่ดี...งั้นฉันจะเป็นคนจัดการเรื่องน้ำชาให้ แบบนี้ดีรึเปล่าคะ?"
ข้อเสนอที่ให้เลือกเค้กบนถาดนั้นได้ 1 ชิ้น แถมเธอยังเป็นฝ่ายได้เลือกก่อนอีก ดูอย่างไรก็มีแต่ได้กับได้
หากทำดีให้ย่อมต้องได้รับรับสิ่งที่ดีตอบแทน เธอไม่มั่นใจนักว่าอีกฝ่ายได้เลือกน้ำชาไว้รึยัง จึงได้ตัดสินใจเสนอออกไปก่อน