#ESRA_CelestialPetals |14 FEB
ไม่ว่าจะพยายามคว้าเหล่าจับเกสรกี่ครา เธอกลับพลาดไปทุกครั้ง
บางครั้งก็เฉียดไปแค่นิดเดียวบ้าง... บางครั้งก็ต้องมีเหตุบางอย่างให้จับพลาดไป
หรือนี่มันจะเป็นเพราะเธอไม่มีโชคเสียเอง?
แพทริเซียเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับโชคของตนเสียแล้ว
(+ได้ค่ะ!)
ไม่ว่าจะพยายามคว้าเหล่าจับเกสรกี่ครา เธอกลับพลาดไปทุกครั้ง
บางครั้งก็เฉียดไปแค่นิดเดียวบ้าง... บางครั้งก็ต้องมีเหตุบางอย่างให้จับพลาดไป
หรือนี่มันจะเป็นเพราะเธอไม่มีโชคเสียเอง?
แพทริเซียเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับโชคของตนเสียแล้ว
(+ได้ค่ะ!)
Comments
เป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาที่พบพานจึงเดินเนิบนาบเยื้องมาจากด้านหลัง ไม่ได้ใกล้จนเกินงามหรือไกลมากจนองค์หญิงสัมผัสถึงผู้มาเยือนไม่ได้
รามิริสแต่งกายด้วยชุดไปรเวทยาวคลุมขา ค่อนข้างเรียบง่ายแต่ยังคงไว้ซึ่งความรุ่มรวยด้วยเครื่องประดับล้ำค่า
"ดูตั้งหน้าตั้งตาเชียว" เขาเอ่ยขึ้นแทนคำทักทายพร้อมรอยยิ้มจางบนกรอบหน้าคม มีไพล่หลังเอาไว้อย่างสงวนกิริยาและมันวางเปล่าอยู่
แพทริเซียหันกลับไปตามทางต้นเสียง จึงได้พบกับผู้ที่คุ้นหน้าคุ้นตา
"ครั้งนี้เป็นปีสุดท้ายแล้วนี่คะ หากจะไม่สนใจเลยก็คงน่าเสียดายแย่"
เธอสำรวจรามิริสแม้จะอยู่ในชุดเรียบง่ายแตกต่างจากตัวเธอ แต่ก็ยังคงความหรูหราสมเป็นเจ้าตัวดี
"แล้วคุณเองล่ะคะ ไม่สนใจจะจับดอกไม้จันทราบ้างหรอ?"
"ช่วงนี้อยากลองพึ่งตัวเองให้มากกว่าโชคน่ะ" เขาตอบเสียงเรียบพลางเงยหน้าขึ้นมองเกสรที่จะต่างผลิบานเป็นดอกไม้จันทราบนมือของผู้เสาะแสวงรอบตัวพวกเขา
+
รามิริสปรายยิ้มบาง คลองจักษุเบนกลับมายังดวงตากลมโตตรงหน้า "แต่ถ้าจับให้คนอื่นนั้นก็อีกเรื่อง" เสนอความช่วยเหลือออกไปอย่างไมตรีจิต
นั่นก็ไม่แปลกเพราะแม้ตัวเธอเองยังอยากพึ่งตนมากกว่าโชคด้วยเช่นกัน
"กล่าวแบบนี้แสดงว่าอยากช่วยฉันจับอย่างนั้นหรอคะ?"
เธอกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มประดับบนใบหน้า
แม้เธอจะอยากจับมันด้วยตนเองแต่ก็ไม่ปฎิเสธน้ำใจนี้
"ถ้าอย่างนั้นก็เอาสิ"
"มาดูกันเถอะค่ะว่าใครจะจับได้ก่อนกัน"
ไว้ถ้าอีกฝ่ายจับได้ก่อนค่อยยกให้ทีหลังก็ยังไม่สาย
“ถ้าเราชนะจะได้อะไรในการแข่งครั้งนี้ล่ะ” เยื้องย่างเข้ามาครึ่งก้าวก่อนจะโน้มใบหน้าคมลงให้อยู่ประมาณระดับสายตาของกันและกัน เป็นแววตาที่แฝงความขี้เล่นต่อคนอายุน้อยกว่าเยี่ยงพระขนิษฐา
ถึงจะดูเอือยเฉื่อยแต่เรื่องการแข่งขันเขาก็สู้ไม่ถอยเช่นกัน แน่นอนว่าถ้าการเดิมพันมันคุ้มทุน
"ทางนั้นเองก็พลาดเหมือนกันเหรอครับ?"
ผู้ร่วมชะตากรรมสินะ
"ใช่ค่ะ...คุณเองก็ด้วย?"
เธอหันไปตอบอีกฝ่าย พร้อมกับพยายามคว้ากลีบดอกแสงจันทร์ที่ลอยผ่านหน้าไป
แต่ก็พลาดอยู่ดี
"บางทีการที่พวกเราจับไม่ได้สักทีอาจเป็นเพราะมีโชคไม่มากพอก็ได้"
เขาพูดพลางเขย่งเท้าพยายามคว้าเอาไว้ แต่พอแบบมือออกมาก็มีแต่เพียงความว่างเปล่า ไม่ต่างจากหญิงสาว
"ความพยายามอย่างเดียวคงไม่พอสินะครับ แต่ผมว่าตอนนี้การได้คุยกับคุณก็นับว่าตัวเองไม่ไดโชคร้ายเสียทีเดียว"
"คิดว่าแบบนั้นหรอคะ..."
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบออกไป
"อื้ม ฉันเองก็เหมือนกันค่ะ อย่างน้อยการได้คุยกับคุณนั้น ก็ทำให้รู้ว่าไม่ได้โชคร้ายคนเดียว"
แม้ประโยคจะคล้ายกันแต่ก็ดูแตกต่างอยู่พอสมควร
"เอาเถอะค่ะ ถึงวันนี้ฉันจะจับดอกไม้จันทราไม่ได้เลย ก็คงไม่รู้สึกเสียใจ"
มันอาจเป็นโชคชะตาก็ได้
"แต่ถ้าจับได้ก็คงดีใจใช่มั้ยล่ะครับ?"
"มีคนบอกว่าลบเจอลบจะกลายเป็นบวกได้ เราลองมาพยายามด้วยกันดีมั้ย? เผื่อว่าจะได้ผล"
"ฟังแล้วดูน่าสนใจมากเลยนะคะ เป็นแผนที่ดีเลยทีเดียว"
บางทีเธอก็อยากรูัเข่นกันว่าต้องืำวิธีไหนถึงจะจับได้ เห็นหลายต่อหลายคนที่สามารถจับได้อย่างง่ายๆราวกับว่าเป็นดอกไม้ที่ลอยเข้ามาหามือ
"แต่สมมตินะคะ"
"ถ้าเกิดว่าทั้งคืนนี้พวกเราเกิดจับดอกไม้จันทราได้เพียงแค่ดอกเดียว..."
"จะทำอย่างไรหรอคะ?"
แพทริเซียถามพร้อมกับรอยยิ้ม
คงเพราะบรรยากาศรอบตัวที่ดูสวยงามราวกับต้องมนต์ กลีบเกสรสีเงินที่ปลิวไปตามสายลมสะท้อนแสงจันทร์ที่สาดแสงลงมา
ทำให้ชาร์ลีนเดินเล่นไปเรื่อย ดวงตาสีเขียวกำลังดื่มด่ำบรรยากาศรอบๆอย่างรื่นรมย์
ก่อนสะดุดตากับพี่สาวคนคุ้นหน้า
เจ้าหล่อนคลี่ยิ้มนึกสนุกก่อนเดินย่องอ้อมไปข้างหลัง
นิ้วมือบางสะกิดไปที่ไหล่ขวาของอีกฝ่ายเบาๆ
และโยกตัวหลบซ้าย...ราวกับพยายามซ่อนตัวไม่ให้เห็นไงงั้น
แพทริเซียที่กำลังเหม่อมองอยู่จู่ๆถูกสะกิดจากข้างหลังเธอจึงได้หันตามทิศทางนั้นไป
แม้จะไม่เห็นตัวบุคคลแต่เพียงมองเห็นเรือนผมสีชมพูอ่อนเพียงครู่เดียวเธอก็คาดเดาได้
"ตายจริง"
"ใครกันนะที่มาสะกิด..."
มือหนึ่งยกขึ้นมาทำท่าครุ่นคิดทั้งที่ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มอยู่
"หรือจะเป็นภูติน้อยแถวนี้รึเปล่านะ?"
อยู่ที่ภูติน้อยตนนี้แล้วล่ะว่าอยากเผยตัวให้เห็นเมื่อไหร่
ดวงตายังยกยิ้มราวกับอยากเล่นอีกสักหน่อย
"ปกติภูติน้อยต้องให้พรหรือร่ายมนต์กับคนที่เขารักและหวังดี ดังนั้นแล้ว..." เจ้าหล่อนเดินไปข้างหน้าอีกฝ่าย ก่อนยื่นดอกไม้จันทราให้
"พี่แพทริเซียรับพรจากชาร์ลีนไว้ได้ไหมคะ?"
เสียงหัวเราะถูกระบายออกมา
"ถ้าชาร์ลีนเป็นคนให้แบบนี้ ฉันจะปฎิเสธได้ยังไงกันคะ?"
ฝ่ามือค่อยๆประคองดอกไม้จันทราขึ้นมา จากนั้นจึงได้สบตาพร้อมถามคำถามออกไป
"ชาร์ลีนคิดว่าฉันควรจะขอพรอะไรดี..."
หากว่าตามที่เขาพูดกัน ก็คงต้องอวยพรให้โชคดี และได้รับพรคุ้มครองปกป้องอยู่ตลอดปี
หากแต่เจ้าหล่อนไม่คิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ควรประทานให้อีกฝ่าย
อีกฝ่ายเป็นถึงเจ้าหญิง ณ ต่างแดน
ลำดับชั้นวรรณะที่ควบคู่มากับภาระหน้าที่...มาตั้งแต่กำเนิด
ร่ายกายและหัวใจอยู่เพื่ออาณาจักรและประชาขน
ความต้องการและปรารถนาในหัวใจ...อาจไม่เคยถูกเติมเต็ม
+
"ในเมื่อยังคงเป็นนักเรียนอยู่ที่นี่..." สถานที่เล่าเรียน...ที่ทุกคนล้วนต้องถอดมงกุฎเพียงชั่วคราว
"ขอให้...ได้สิ่งที่หัวใจปรารถนามาตลอด"
"ขอให้...ได้ใช้ชีวิตตามที่พี่อยากเป็น ในวันที่ไร้มงกุฎที่ต้องสวม"
"ขอให้...มีความสุขและมีรอยยิ้มในทุกวัน"
พรสามข้อที่เธอคิดว่าคนตรงหน้ามีสิทธิ์ที่จะขอ...ในปีสุดท้ายที่ได้ใช้ชีวิตในฐานะนักเรียนคนนึง