ความสัมพันธ์ของเด็กทั้ง 3 คนที่มันเริ่มร้าวขึ้นมาแล้ว มันก็ยิ่งจะแตกสลายออกไปเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อพ่อของอิซางิต้องย้ายบ้านไปอยู่ให้ใกล้กับที่ทำงานใหม่มากขึ้น
อิซางิตัดสินใจอยู่บ้านยายไปยาว ๆ เพื่อรอจนกว่าพ่อกับแม่ขนของย้ายไปอยู่บ้านใหม่จนเสร็จเรียบร้อย โชคดีที่ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมอยู่ (111)
อิซางิตัดสินใจอยู่บ้านยายไปยาว ๆ เพื่อรอจนกว่าพ่อกับแม่ขนของย้ายไปอยู่บ้านใหม่จนเสร็จเรียบร้อย โชคดีที่ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมอยู่ (111)
Comments
รินกับซาเอะพยายามโทรมาหาอิซางิอยู่หลายครั้ง แต่เมื่ออิซางิรับสายแล้วได้ยินเสียงของรินหรือซาเอะปุ๊บ
เจ้าตัวก็จะวางหูลงไปทันที โดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกไปสักคำ
จากเพื่อนที่เคยสนิทกันมากที่สุด ในตอนนี้เด็กทั้ง 3 คนก็เหมือนเป็นคนแปลกหน้าต่อกันและกันแล้ว (112)
อิซางิเองก็สามารถคุยกับพ่อแม่บ้านอิโตชิได้ แต่ถ้าจะให้ไปปรับความเข้าใจกับซาเอะหรือริน อิซางิก็ตอบปฏิเสธกลับไปลูกเดียว
'มาหาว่าเรายุ่งไม่เข้าเรื่องดีนัก!' (113)
ส่วนทางด้านซาเอะกับรินเอง ที่พอใช้อารมณ์ของตัวเองมาเป็นที่ตั้ง จนทำให้เสียเพื่อนสนิทคนสำคัญของตัวเองไป
มันก็เลยทำให้ทั้ง 2 คนนี้เริ่มคิดขึ้นมาได้บ้างแล้ว ซาเอะจึงตัดสินใจเข้าหารินก่อน แต่คนที่เป็นน้องชายกลับยังตั้งแง่ใส่พี่ชายตัวดีไม่เลิก (114)
กาลเวลาผันเปลี่ยนไปอีกหลายปี ตัวอิซางิเองก็เลือกที่จะเก็บเรื่องราวของตัวเองกับพี่น้องอิโตชิเอาไว้ในหมวดหมู่ความทรงจำเพื่อนในวัยเด็กไป (115)
ความรู้สึกที่เด่นชัดมามากที่สุด มันก็คือ ความน้อยใจ
น้อยใจที่โดนซาเอะพูดใส่แบบนั้น และน้อยใจที่รินมาผลักไสไล่ส่ง พร้อมกับคำเรียกที่ดูห่างเหินนั่นอีก
อิซางิก็เลยตัดสินใจว่า ตัวเองจะไม่เข้าไปยุ่งกับซาเอะและรินอีกต่อไป (116)
ซึ่งซาเอะกับรินเองก็ยังอยากที่จะเจอกับอิซางิอีกครั้ง เพราะในตอนนั้นพวกเขาทั้ง 2 คนไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดทำลายความรู้สึกของอิซางิไปจริง ๆ
แต่มันก็สายเกินไป เพราะอิซางิไม่ยอมออกมาเจอ หรือคุยกับพวกเขาผ่านทางโทรศัพท์เลย (117)