[เวลา 12:00 ระหว่างทางเดินจากตึกปี 3 ไปโรงอาหาร]
สีหน้าอมพะนำเหมือนกำลังกลั้นใจกับอะไรบางอย่างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอาจารย์วิชาภาษาต่างประเทศวัยเลข 4 เมื่อเขาเริ่มเดินผ่านห้องเรียนวิทยาศาสตร์
มือหนึ่งที่ถือแฟ้มงานขนาดใหญ่ยกขึ้นมาบังหน้าด้านข้างของตัวเองไว้จนดูแปลก
" ทำไมต้องวางให้เห็นผ่านหน้าต่างประตูนะ "
เขาบ่นพึมพำญี่ปุ่นคำอังกฤษคำ ไม่ได้สนใจนักเรียนที่เดินผ่านเลย
สีหน้าอมพะนำเหมือนกำลังกลั้นใจกับอะไรบางอย่างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอาจารย์วิชาภาษาต่างประเทศวัยเลข 4 เมื่อเขาเริ่มเดินผ่านห้องเรียนวิทยาศาสตร์
มือหนึ่งที่ถือแฟ้มงานขนาดใหญ่ยกขึ้นมาบังหน้าด้านข้างของตัวเองไว้จนดูแปลก
" ทำไมต้องวางให้เห็นผ่านหน้าต่างประตูนะ "
เขาบ่นพึมพำญี่ปุ่นคำอังกฤษคำ ไม่ได้สนใจนักเรียนที่เดินผ่านเลย
Comments
ความจริงแล้วเด็กปี 1 อย่างเธอไม่ได้มีธุระโกงการอะไรที่ต้องมาที่อาคารปี 3 แต่ด้วยความที่เป็นเด็กใหม่การที่ใช้เวลาพักเที่ยงในการสำรวจพวกตึกราเสียหน่อยก็ไม่เสียหาย
ระหว่างที่เดินอยู่ก็เห็นแผ่นหลังของคนรู้จักอย่างอ.เรนจิพอดี คงจะไม่ดีถ้าไม่ไปทัก
“สวัสดีค่ะ? อ.ฮิโระทากะ”
“เอ่อ…สีหน้าคุณดูไม่ดีเลยนะคะ”
เห็นเหงื่อออกเต็มเลย…น่าเป็นห่วงแหะ
" อะ-โอ้... สุมิเระจัง "
เพราะเป็นเพื่อนของลูกสาวตั้งแต่ม.ต้น และได้มาที่บ้านของตัวเองบ่อย ๆ เลยเรียกชื่อจริงไปเลย
และอีกอย่างก็ไม่ได้อยู่ในคาบเรียนด้วย
" งั้นเหรอ อาจารย์..เป็นงี้มาตั้งแต่ช่วงที่ยังอยู่ที่ฟุกุโอกะแล้ว ยังไม่เคยเล่าให้ฟังเลยสินะ "
" มีเรื่องที่ไม่ชอบนิดหน่อยน่ะ "
เขาสบายใจที่จะบอกกับเด็กสาวเพื่อนของลูกล่ะนะ—
ก็เธอเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาวอาจารย์ฮิโระทากะนี่หน่า?
สาวเจ้าขยับตัวมายืนตรงกับแฟ้มที่อีกฝ่ายปิดป้องการมองเห็นบางสิ่งบางอย่างเอาไว้, ด้วยความสูงบวกกับรองเท้าเสริมส้นแล้ว สุมิเระคิดว่ามันคงพอบดบังวิสัยได้ไม่มากก็น้อย
“พอจะเล่าให้ดิฉันฟังได้ไหมคะ?”
+
เธอกล่าวออกมาพร้อมทั้งผายมือออกไปเชิงบอกว่าเดินไปคุยไปน่าจะดีกว่าด้วย
อีกอย่างต่อให้คนตรงหน้าไม่บอก ลองไปเปิดไพ่ทีหลังดูก็ไม่เสียหายอะไร?
มิกะที่กำลังจะเดินไปโรงอาหารทางเดียวกัน ก็หันไปเห็นอาจารย์ทำหน้าแปลกๆ
"เซนเซย์ เป็นอะไรรึเปล่าครับ?"
" อาจารย์แค่หิวข้าวน่ะ "
หิวจริงๆไม่ได้โกหก
" ไปโรงอาหารพร้อมกับอาจารย์มั้ย ไหน ๆ ก็เดินทางเดียวกันแล้ว "
วันนี้เขาทำแค่เบนโตะให้กับลูกสาว เลยต้องไปต่อคิวที่โรงอาหารกับนักเรียนนี่ล่ะ
"งั้นขอรบกวนด้วยครับ ผมเองก็ลืมเอาข้าวกล่องมา"
เจ้าตัวยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันไปมองที่ห้องวิทย์ตามทิศที่อีกฝ่ายถือแฟ้มขึ้นมาบังนั่นแหละ
"หรือว่า เซนเซย์เห็นอะไรแปลกๆเหรอครับ?"
พอการเห็นสิ่งลี้ลับมันดูจะเป็นเรื่องเกือบปกติของคนในรร.นี้ไปแล้ว ก็เลยอดสงสัยไม่ได้
" ก็ไม่ได้เห็นอะไรแปลก ๆ หรอกนะ แค่ไม่ชอบบางอย่าง..มาตั้งแต่สมัยที่อายุเท่า ๆ เธอเลย "
จะพูดชื่อของสิ่งนั้นก็ยังไม่อยากจะพูดเลย เหมือนจะเห็นภาพมันตลอดเวลา
" วันนี้มันดันถูกตั้งไว้ตรงกับช่วงหน้าต่างประตูพอดี ไม่สิ...ก็ทุกครั้ง "
" เธอก็พยายามอย่าเดินไปไหนมาไหนคนเดียวนะ จับกลุ่มไว้ "
" โดนอะไรบางอย่างแกล้งมันจะไม่ดีเอา "
เด็กสาวในปกกะลาสีเดินมาจากทางตรงกันข้าม, กระนั้นด้วยความสงสัย จึงตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางของฝีเท้าตามมา
“คุณพ่อหมี—ไม่ซี่, อาจารย์ฮิโนะทากะคุยกับใครอยู่หรือคะ?“
เพราะเป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงกับลูกสาวคุณจึงจำได้แม่นเชียว
ไม่คิดว่าจะโดนทักแบบนี้นะเนี่ย!
" อา- ทามาโมะจังเองงั้นเหรอ? "
เพราะว่าอยู่ข้างบ้านเลยเรียกชื่อจริงจนติดปาก อีกอย่างเด็กสาวก็เป็นเพื่อนลูกด้วย
+
" เราออกจากตรงนี้กันก่อนดีกว่ามั้ย? "
เขาพยายามยิ้มออกมา
จริง ๆ ข่มใจไว้อยู่ กึกๆๆๆๆ
เด็กหนุ่มที่เพิ่งเรียนจบคาบวิทยาศาตร์ได้ยินโดยบังเอิญขณะเดินตามหลังอาจารย์เพื่อมุ่งหน้าไปโรงอาหารเช่นเดียวกัน
กำลังพูดถึงโครงกระดูกอนาโตมี่อยู่
ไม่ชอบเหมือนกัน...
" เธอเองก็เหมือนกันสินะ "
เขาผ่อนความเร็วจนได้มาเดินข้าง ๆ ยาโยอิ แม้จะไม่ได้หันไปมองเลยตอนพูด
" ตอนได้ยินเรื่องเล่า มาตั้งแต่สมัยก่อน ภาพในหัวอาจารย์ก็ชัดสุด ๆ เลยล่ะ "
เขาแอบมีส่งเสียง แหะ ๆ ออกมาด้วยจนได้เดินเลยห้องวิทยาศาสตร์ไป
" พักกลางวันแล้ว ไปโรงอาหารกับอาจารย์มั้ย? "
ข่าวลือที่ว่าเวลาไปไหนก็ควรจะมีใครไปด้วย เขาเชื่อสนิทใจเลย
ก็ตัวเขาน่ะ กลัวเรื่องลี้ลับนี่นา
...
"อาจารย์...ไม่ชอบเรื่องลี้ลับเหรอครับ"
ถามไปเพราะดูจากท่าทางที่คนอายุมากกว่ากำลังเอาตัวเองออกห่างจากโครงกระดูกห้องวิทยาศาสตร์ที่ดูเหมือนจะจ้องคนเดินผ่านตลอดเวลา ตัวเขาแค่...สัมผัสได้ว่ามีคนที่กลัวเหมือนกันเลยมาคุยด้วย...
" จ๊ะเอ๋ สวัสดีค่ะอาจารย์ "
เสียงใสเอ่ยทักทาย
"เอ๋ ทำไมต้องยกแฟ้มมาบังข้างๆไว้ด้วยล่ะคะ " เธอเอียงคอ
" มีอะไรไม่อยากเห็นหรอ–? "
ผนวกกับประโยคที่พอจะจับใจความได้ก่อนหน้า จึงลองเอ่ยถามดู
เขารีบเปลี่ยนทิศเป็นให้ตัวเองหันหลังให้กับห้องเรียนวิทยาศาสตร์ และก้มลงคุยใกล้ ๆ กับโทกะ
" ไม่เอาไม่พูด เดี๋ยวมันก็มาให้เห็นจริง ๆ หรอก "
" บางเรื่องก็ไม่ต้องรู้ก็ได้ ความอยากรู้อยากเห็นมันฆ่าแมวนะหนูโทกะ "
เขาพูดเสียงกระซิบ
" เวลากลางวันแบบนี้มันจะไม่ขยับใช่มะ? "
" เอ๋ "
รอยยิ้มยังคงประดับอยู่บนใบหน้า ศีรษะของเธอเอียงยิ่งขึ้นกว่าเดิม
วลีเด็ดที่เปรียบเทียบนักเรียนกับแมวก็สมกับเป็นอาจารย์ของพวกเธอดี
ก่อนที่เสียงกระซิบจะเรียกเสียงหัวเราะของเด็กสาว
มันคลอออกมาเบาๆเหมือนลมพัดผ่านกระดิ่งแก้ว
" กลางวันแบบนี้ไม่ขยับแน่นอนค่ะ! " เธอส่ายหน้า เหมือนจะรู้แล้วว่าหมายถึงอะไร
(+)
ก่อนที่จะชะโงกหน้าไปหาหุ่นกายวิภาคภายในห้องวิทย์
" เนอะ เดวิดคุง👋🌸✨ " และพูดกับมัน
เรนจิรีบหันไป เขวี้ยงแฟ้มงานทิ้งแล้วยื่นมือไปจับไหล่ของโทกะ
โดยทีมืออีกข้างของเขาก็ปิดหน้าตัวเองไว้อยู่
" ออกมาจากประตูตรงนั้นนะโทกะ คนอื่นเขาเรียนอยู่ "
" เดี๋ยวอาจารย์เลี้ยงของกิน โซบะปังดีมั้ย..หรือคาเระปังดี เมล่อนปังด็ได้ "
" ออกมานะหนูนะ "
“ อ้ะ ฮิโรทากะซังงง “
เมื่อได้เห็นอาจารย์ผู้ร่วมงานในโรงเรียนอย่างฮิโรทากะ อาจารย์พยาบาลอย่างเขาเลยเข้าไปทักทาย
ก่อนจะเดินไปขนานด้านข้าง แล้วเอียงคอมองเล็กน้อยกับการกระทำ
“ มีอะไรไม่สบายใจในห้องวิทย์หรอครับ? ”
" สวัสดีตอนเที่ยงครับคุณเฮบิชิมะ "
" เอ่อ- ก็มีครับ "
เขาไม่ใช่คนโกหกอยู่แล้ว
" ใช้คำว่า ไม่ชอบ น่าจะตรงตัวกว่า "
" ผมเป็นคนนึกภาพตามแล้วมันจะเห็นภาพชัด จนรู้สึกขนลุกเลยน่ะ "
เขาเอ่ยออกมาแบบอ้อมโลก ตาก็มองตรงไปตามทางระหว่างเดิน
“ ฮุ— ”
เอ็นดู? เรียกแบบนี้ได้ไหมนะ แต่พอรู้ตัวว่าเผลอหลุดหัวเราะก็กลับมาทีนิ่งขรึมเหมือนเดิม
“ อะแฮ่ม— ”
“ งั้นเรารีบไปกันเถอะ เห็นนักเรียนเขาเล่ากันว่าถ้าเรายืนให้มันจ้องนานๆ มันจะวิ่งตามเรานะครับ ”
อันนี้ตั้งใจแกล้ง(….)
พอได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้นเขาก็หันไปมองแบบหน้าช็อค(?) เสียงหลงจนเหินไปเลย
" ไม่-ผม ไม่ได้จ้อง คุณก็อย่าไปจ้องนะ! รีบไปกันอย่างที่บอกนั่นล่ะครับ! "
เขารีบจ้ำอ้าวเดินนำไปก่อนในแบบที่...ไม่คิดชีวิต—
" เดี๋ยวแถวจะยาวเอา! "
เด็กสาวรีบวิ่งไปกระโดดย๋องอยู่ตรงหน้าพ่อของตัวเอง
" ปะป๊า ! "
" มิคังอยากกินน้ำส้มกล่อง "
ขอตังหน่อย !
" มิคัง ที่พ่อให้ไปไม่พอรึไงลูก " เขาเท้าเอว
แต่ว่าก็ล้วงกระเป่าเอาเงินออกมาสองพันเยนสด ๆ ! 💸
" พ่อจะไปโรงอาหาร เบนโตะที่พ่อทำให้หนูแกะกินรึยังคะ? "
" ถ้ายังล่ะก็ ชวนเพื่อน ๆ ในห้องหนูไปกินข้าวด้วยนะ วิวสวย ๆ ที่คุเมอิมีเยอะแยะเลย "
มิคังก้มหัวขอบคุณแล้วรับเงินมา พร้อมกับยิ้มแป้นตาแป๋วใส่
" มิคังว่าจะไปซื้อน้ำส้มกล่องค่ะ— แล้วปะป๊า เอ่อ... "
" เมื่อกี้มีอะไรเหรอคะ "
เธอเอียงคอ
คงเป็นคนเดียวที่จะโดนปลุกในคาบได้โดยไม่ถูกปาชอล์กพิฆาตใส่
" เมื่อกี๊— โอ้- ใช่ ๆ ไม่มีอะไรลูก "
" พ่อแค่มีอะไรที่ไม่ชอบ.. "
+
"เซนเซยยยย์!"
เสียงนักเรียนคนนึงดังมาจากข้างหลังอาจารย์หน้าอมทุกข์
"สวัสดีค่า! ฮิโระทากะซาง! ช่วงนี้เจออะไรแปลกๆ ไหมคะ?"
มาถึงก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าตาเป็นประกายสุดๆ ในมือเด็กสาวถือสมุดโน้ตเล่มเล็กกับดินสออยู่แหละ
พอโดนทักแบบนั้น ทำเอาเขานึกถึงเรื่องลี้ลับเกี่ยวห้องวิทยาศาสตร์ที่เคยได้ยินมาแทบจะทันทีเลย
" สวัสดีโฮซิสึกิ "
" ช่วงนี้- ไม่ 'ยัง' ไม่เจอหรอกนะ "
เขาพูดแบบครุ่นคิดเล็กน้อย พยายามไม่สนใจห้องวิท
" เราไปคุยกันแบบว่า เลยหน้าห้องวิทยาศาสตร์ก่อนดีมั้ย? "
" คุยเสร็จจะได้ไปโรงอาหารได้เลย "
"เอ๊-- ยังไม่เห็นเหรอคะ"
"แปลกจัง เมื่อกี้ฉันสัมผัสได้ว่าจะมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นที่ห้องวิทย์นะคะ"
เลยกะจะมาถามคนที่กำลังจะเดินผ่านอย่างอาจาย์เนี่ยแหละ เพราะคนมองไม่เห็น
"อ๊ะ! หรือว่าอาจารย์ไม่อยากมองคะ!?"
พูดดังฟังชัดตามสไตล์ แต่คนรอบๆ น่าจะได้ยินกันหมด
เรนจิรีบก้าวเท้ายาวหนีเลยเมื่อคายาโนะพูดเสียงดังฟังชัดแบบนั้น มันน่าอายซะยิ่งกว่าเวลามีคนมองซะอีกนะ ในเรื่องของความรู้สึกน่ะ!
จนเขาหยุดเดินเพื่อหันไปมองคายาโนะ
" โฮซิสึกิ "
" มันไม่ได้ขยับหันมามองผ่านทางหน้าต่างประตูใช่มั้ย "
เขาถามออกไป โดยที่จ้องคายาโนะเขม็งเลย!
" ใช่มั้ย "
"หมายถึงสิ่งนั้นใช่ไหมคะ!"
ว่าแล้วก็หันไปชะโงกดูในห้อง ...ก็แน่นอนแหละว่าเธอไม่เห็นอะไรผิดปรกติ
"ไม่ได้หันมามองค่า!"
"อาจารย์ลองดูเองอีกทีก็ได้นะคะ!"
เพื่อยืนยันว่าตนไม่ได้โกหก
ด้วยความเป็นห่วงปนสงสัยจึงเลือกที่จะก้าวเท้าเดินเข้าไปทักถาม
" สวัสดีค่ะ อาจารย์ฮิโระทากะ "
น้ำเสียงอ่อนทักทายพร้อมรอยยิ้มบางตามมารยาท
"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ, มีอะไรที่หนูพอจะช่วยคุณได้มั้ย "