เรนจิที่สีหน้ายังดูไม่สู้ดีอยู่อย่างนั้นก็ค่อย ๆ เงยหน้าสบตามองอาจารย์ศิลปะเพื่อนร่วมงานของตน
เขายิ้มออกมาอย่างฝืนใจ และไม่ได้สนใจหรอก ว่าใครจะคิดยังไงกับหญิงสาวเรือนผมส้มที่เข้ามาคุยกับเข้า
“นั่นสินะครับโทโฮเซนเซย์...ร้อนน่าดู“
“อยากแวะดื่มอะไรจากตู้กดน้ำมั้ยครับ?“
น้ำเสียงการพูดของเขายังคงทำเหมือนกับว่าทุกสิ่งนั้นปกติดี
+
เขายิ้มออกมาอย่างฝืนใจ และไม่ได้สนใจหรอก ว่าใครจะคิดยังไงกับหญิงสาวเรือนผมส้มที่เข้ามาคุยกับเข้า
“นั่นสินะครับโทโฮเซนเซย์...ร้อนน่าดู“
“อยากแวะดื่มอะไรจากตู้กดน้ำมั้ยครับ?“
น้ำเสียงการพูดของเขายังคงทำเหมือนกับว่าทุกสิ่งนั้นปกติดี
+
Comments
เพราะหญิงสาวก็เหมือนจะยังชายตามองเขาอยู่เลย
ก่อนหน้านี้ก็โดนพูดไปว่า ’เรนจิคุงใจร้ายจัง’ แต่เขาก็ไม่ได้พูดสวนอะไรกลับไป
ในหัวคงมีแต่หวัง...ไม่ให้ลูกสาวคนเดียวที่เขาหวงแหนอย่าง ’ฮิโรทากะ มิคัง’ ต้องมาเจอกับผู้หญิงที่เป็นดั่งฝันร้ายคนนี้..
“ไม่เป็นไรครับ”
คำปฏิเสธเอื้อนเอ่ยตามมาราวกับสายตาเมื่อครู่เป็นแค่การแสดง
ฝีเท้าของโนกามิขยับไปใกล้คู่สนทนา เขาวางมือไพล่ไว้ด้านหลังมาตลอดตั้งแต่เจอหน้าเรนจิ +
“ดูเหมือนทั้งคุณและผมจะบังเอิญเดินมาเจอกันในช่วงเวลาที่ไม่อยากให้มีใครมาเจอกันทั้งคู่เลยนะครับ”
หัวคิ้วเลิกขึ้นพลางชูขวดแอลกอฮอล์ที่สะท้อนกับแสงของฤดูร้อน ไม่มีความรู้สึกผิดปนในน้ำเสียง ดูเหมือนนักแสดงที่เล่นบทสารภาพผิดโดยไม่พยายามเลยเสียมากกว่า
+
นั่นอาจเป็นคำเชิญชวนหาผู้สมรู้ร่วมคิดในการกระทำความผิด
เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ
" ถ้าแอลแต่หัววันแบบนี้ลูกสาวผมรู้เพราะได้กลิ่นเข้าล่ะก็ต้องโดนโกรธเอาแน่ ๆ ไว้ตกกลางคืนหรือวันหน้าที่มีโอกาสจะดึกว่าครับ "
เรนจิว่าจบก็เดินไปกดกาแฟกระป๋องเย็น ๆ มาจากตู้กดน้ำ โชคดีมากเลยที่กระป๋องไม่ติด
แต่เขาก็ยังไม่ได้เปิดกระป๋องดื่มทันทีเมื่อหยิบมันขึ้นมาแล้ว
+
" ผมฟ้องหย่าเธอไปได้หลายปีแล้ว "
เขาตัดสินใจเปิดประเด็นสนทนาด้วยตัวเองจะได้รู้ ๆ กันไปเลยว่าเขากำลังเจอกับอะไรอยู่
+