#KMI_SotsugyoShiki | #KMI_โรลเปิด
ช่วงกล่าวอำลา ~ บวกได้ทุกคน/เนียนรู้จัก ok
เป็นอีกครั้งที่พวกเราได้พบกัน ในรั้วโรงเรียนแห่งนี้
ที่ๆมีความทรงจำมากมาย ที่ๆทำให้ฉันรู้ว่าความสนุกที่แท้จริงมันเป็นอย่างไร ที่ๆช่วยให้ฉัน เป็นตัวฉันในปุจจุบันนี้...
รุ่นพี่สาวที่มักจะชอบทำตัวลึกลับชวนขนลุก แต่ครานี้กลับหันมายิ้มอย่างเบิกบานให้คุณ ไม่บอกก็รู้ว่าเธอดีใจแค่ไหนที่คุณมาหา
"กำลังรออยู่เลย"
(+)
ช่วงกล่าวอำลา ~ บวกได้ทุกคน/เนียนรู้จัก ok
เป็นอีกครั้งที่พวกเราได้พบกัน ในรั้วโรงเรียนแห่งนี้
ที่ๆมีความทรงจำมากมาย ที่ๆทำให้ฉันรู้ว่าความสนุกที่แท้จริงมันเป็นอย่างไร ที่ๆช่วยให้ฉัน เป็นตัวฉันในปุจจุบันนี้...
รุ่นพี่สาวที่มักจะชอบทำตัวลึกลับชวนขนลุก แต่ครานี้กลับหันมายิ้มอย่างเบิกบานให้คุณ ไม่บอกก็รู้ว่าเธอดีใจแค่ไหนที่คุณมาหา
"กำลังรออยู่เลย"
(+)
Comments
มิกะเดินถือกล่องใส่ของขวัญช่วยเพื่อนแจกเหล่ารุ่นพี่ที่ออกมาจากหอประชุมแล้ว เดินไปเดินมาก็สบตาเข้ากับคนคุ้นเคย
"ยินดีที่เรียนจบด้วยนะครับ"
ตอนนี้มิคาสึกิไว้ผมยาวมัดรวบเอาไว้ แตกต่างจากครั้งล่าสุดที่พบหน้าอีกฝ่ายในช่วงกีฬาสี
“รับนี่ไปสิ”
เธอยื่นของที่ระลึกไว้ดูต่างหน้าให้กับเด็กหนุ่ม ‘ที่คั่นหนังสือดอก Forget me not’
“ทำเองกับมือเลยนะ” ^^
"ขอบคุณครับผม น่ารักจัง.."
"ผมก็มีของให้คุณเหมือนกัน!"
เขาเลือกของในกล่องก่อนจะหยิบขวดขนาดเท่าฝ่ามือส่งให้
"น้ำหอมกลิ่น Wild Flower เป็นของจากบริษัทพ่อแม่ผมน่ะครับ ผมชอบมากก็เลยอยากให้ แล้วก็.. ไม่ว่าจะลำบากยากเย็นแค่ไหน ก็ขอให้คุณเบ่งบานงดงามได้เหมือนดอกไม้ป่านะครับ"
“ขอบคุณนะคะ เลือกของขวัญได้เก่งจัง” ว่าแล้วก็ลองดมไป1ที…หอมจัง
“เหมือนมาแลกเปลี่ยนของกันเลยแหะ” คิกๆ
“หยุดไปแปปเดียว มิกะคุงดูโตขึ้นเยอะเลยนะ” หล่อนกวัดมือขอให้อีกฝ่ายโน้มตัวลงมาหน่อย
เขากระพริบตาปริบๆมองคนกวักมือเรียกก่อนเจ้าตัวจะโน้มตัวไปหา
“นี่รู้มั้ยคะ…“
”สถานที่แห่งนี้มันทำให้ฉันอยากมีน้องชายไม่ก็น้องสาวจริงๆขึ้นมาเลยล่ะ“
ดวงตาหรี่ลงอย่างนุ่มนวล
”ขอบคุณนะ“ เธอบรรจงลูบหัวเขาอย่างแผ่วเบา
”สนุกมากๆเลยล่ะ…“
“ ว้า.. โอเมเตโตะ.. มิคาสึกิจัง ”
เขายิ้มทักทายก่อนจะรับที่คั่นหนังสือนั้นมา
“ ไวดีเหมือนกันเนอะ ”
“ 3 ปี ในโรงเรียนนี้ ”
หล่อนหลุบตาลงเล็กน้อย มองไปยังมือของตัวเอง
.
”เราไปหลบที่ๆไร้ผู้คนกันหน่อยมั้ย?“
”มีสิ่งนึงที่อยากจะให้วาตารุคุงช่วยสอนอยู่น่ะ“
เพราะเจ้าตัวก็คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ทำอีกแล้ว…
เขาพยักหน้าตอบรับ แม้จะสงสัยเล็กน้อย
“ ได้สิ ฮ่ะฮะ ถึงฉันจะไม่รู้ก็เถอะว่าคนอย่างฉันมันจะสอนอะไรได้ ”
ยักไหล่ให้ เพื่อนว่าไงก็ว่างั้น
“ฉันอยากลองอะไรสักหน่อยค่ะ“
หล่อนเดินเข้าไปใกล้ๆเขาก่อนจะดมฟุดฟิด2-3ที
”บุหรี่น่ะ อยากจะลองดูซักครั้ง“
พอโดนพามาถึงที่ก็ร้องอ๋อในใจ แบบนี้นี่เอง
“ แอบเครียดอะไรรึเปล่าเนี่ย วันปัจฉิมอย่าเครียดเลย ”
เขาว่างั้นงี้ แต่เพราะวันสุดท้ายเลยยอมตามใจก่อนจะหยิบบุหรี่ที่เหลือแค่4 มวนสุดท้าย
1 อันยื่นให้มิคาซึกิ 1 อันของเขา
” อะ “
เธอรับบุหรี่พลิกดูไปมา
“เพราะว่าคงจะไม่ได้ลองมันอีกแล้วล่ะมั้งคะ”
สายตาคู่นี้ยังจับจ้องไปที่บุหรี่ม้วนนี้
.
“มวนแรก…และมวนสุดท้ายอย่างงั้นหรอ…” เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่บางทีเธอคงอยากจะลองสูบดูเฉยๆก็ได้ และไม่คิดที่จะติดมันหรอก
“ต้อง…คาบไว้แบบนี้สินะ?“
"ขอบคุณนะคะ... สำหรับทุกๆอย่างเลย"
"จนกว่าพวกเราจะโคจรมาพบกันอีก ช่วยรับสิ่งนี้ไว้ทีนะคะ"
"ดอก Forget me not แทนตัวฉัน"
(เชิญทุกคนมารับของที่ระลึกได้เลยค่ะ ทำมาเยอะมากๆๆ แจกทั้งเพื่อนๆและน้องๆเลย!)
ฝ่ามือยกยื่นไปรับที่คั่นหนังสือเอาไว้ แล้วกุมไว้แนบอก
ความหมายของสิ่งนี้ช่างดูอ่อนไหว
ก่อนหันมาขอบคุณอีกฝ่าย
" ขอบคุณนะครับรุ่นพี่ จินัทสึ~"
แน่นอน เขาไม่ได้ให้อีกฝ่าย ให้ฝ่ายเดียวหรอก แล้วก็ยกกล้องขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม
" รุ่นพี่มีจุดที่อยากถ่ายเป็นพิเศษไหมครับ?"
”เผลอแปปเดียวอากิระคุงก็จะกลายเป็นรุ่นพี่เต็มตัวแล้ว“ เธอยิ้มอย่างภูมิใจให้รุ่นน้องตรงหน้า
ปีสองที่กลายมาเป็นปีสาม…
.
“ไม่มีหรอก”
หล่อนส่ายหัวเบา
“รูปน่ะ ถ้าหากว่ามีคนสำคัญอยู่ในรูป ไม่ว่าจะที่ไหนก็ถ่ายได้หมดค่ะ”
ตัวเขาเองก้ต้องเป็นรุ่นพี่เต็มตัวต่อ อย่างที่หญิงสาวตรงหน้ากล่าวบอก รอยยิ้มที่ถูกมอบให้ถูกส่งตอบกลับไปเป็นรอยยิ้มที่แสนเริงร่า
ในวันพิเศษก็ควรจะมีความสุขจริงไหม? แม้นจะเป็นวันพิเศษที่น่าเศร้าก็ตาม
" เข้าใจแล้วครับ..ถ้างั้นเรามาถ่ายรูปด้วยกันไหมครับ? พี่เก็บไว้ซักรูป และผมก็เก็บไว้ซักรูป พวกเราต่างจะได้มีความทรงจำร่วมกันยังไงล่ะครับ"
”ถ่ายติดวิญญาณคงตื่นเต้นน่าดู“ คิก-
”ล้อเล่นค่ะล้อเล่น~“
ว่าแล้วก็ขยับเข้าไปใกล้ๆเขา เตรียมจัดท่าจัดทางให้เรียบร้อย
“อยากได้ฟีลประมานไหนล่ะ เดี๋ยวจัดให้เลย”
อากิระกล่าวอย่างขบขันกลับไป ไม่ถือสาสิ่งที่อีกฝ่ายหยอกเย้า ทั้งยังเสริมไปด้วย
แล้วก็ขยับเตรียมท่าเช่นกัน แล้วกล่าวบอกไปพร้อมรอยยิ้ม
" ผมขอให้รุ่นพี่เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ทำในสิ่งที่อยากทำมากที่สุด เพื่อจารึกความเป็นธรรมชาติของพวกเราเอาไว้ครับ"
การถ่ายรูปของเขาไม่ใช่เพื่อความสวยงาม แต่เพื่อ 'ความทรงจำ' ต่างหากละ
รอยยิ้มไร้เลศนัย รอยยิ้มไร้ความหนาวเหน็บ รอยยิ้มที่จริงใจที่สุดเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา ถูกกักเก็บไว้ในรูปภาพนี้เป็นที่เรียบร้อย
“ขอบคุณนะ…“
”สำหรับทุกๆอย่างที่ผ่านมา“
”อากิระคุงเองก็ หากฉันไม่อยู่แล้ว ดูแลตัวเองและรุ่นน้องรุ่นต่อๆไปดีๆด้วยนะคะ“
เธอยื่นมือไปแปะบนอกซ้ายของเขา
ได้ยินเสียงหวานคุ้นเคยแทนที่จะหันไปมอง กลับหันหน้าหนี
เสียงทุ้มต่ำ ออกสั่นๆ ลอยขึ้นมาแผ่วจนยากจะได้ยิน
“รุ่นพี่…ยินดีด้วยนะครับ…”
ทันทีที่จบประโยดก็เม้มปากแน่น เหมือนไม่อยากให้เสียงสะอื้นหลุดตามมา
.
"ของที่ระลึกค่ะ ที่คั่นหนังสือ Forget me not"
"นายอาจจะไม่ได้ใช้ แต่เป็นของเก็บไว้ดูต่างหน้าเวลาคิดถึงฉันก็ได้"
.
"ขอบใจนะ อาสึชิคุง สำหรับปีที่ผ่านมา"
"ฉัน สนุกมากๆเลยล่ะ..."
หล่อนเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าอีกฝ่ายชัดๆ ก่อนจะส่งยิ้มอันอบอุ่นราวกับแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องลงมาอย่างอ่อนโยน
แก้วตาใสกว่าปกติมองของในมื่อที่อีกคนยื่นให้
“ขอบคุณครับ…”
ยื่นแบมือรับเอาไว้ รอยยิ้มแบบนั้น จะได้เห็นเป็นครั้งสุดท้ายรึเปล่า
“ผมก็ สนุกทุกครั้งที่ได้คุยกับรุ่นพี่เหมือนกันครับ”
“ทางนี้ก็มีของที่อยากให้รุ่นพี่เหมือนกันนะครับ”
“แบมือหน่อยสิครับ”
“อะไรอะ อะไรหรอๆๆ”
ตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อยตอนที่จะได้ของจากอาสึชิคุง
หวังว่าไม่ใช่อะไรแปลกๆนะ(…)
ว่าแล้วก็แบมือให้
ทันทีที่อีกฝ่ายยื่นมือออกมา ก็จัดการวางบางสิ่งลงบนฝ่ามือนั้นอย่างรวดเร็ว
แต่ก่อนที่อีกคนจะทันได้เห็น เขากลับช้อนมืออีกฝ่ายขึ้นมาประกบไว้
“ลองเดาดูสิครับ ว่ามันคืออะไร?”
น้ำเสียงเจือไปด้วยความขี้เล่น ประกอบกับรอยยิ้ม ดวงตาทอประกายซุกซน
บนมือสัมผัสได้ถึงบางสิ่งขนาดเล็ก นุ่มนิ่ม กลมมน และดิ้นได้ แถมยังมีเสียงสูงเบาๆเล็ดลอดออกมา…
“นี่นายเอาลูกนกมาให้ฉันเลี้ยงหรอ?”
“หรือลูกกบ?”
เอาล่ะ นี่มันตื่นเต้นยิ่งกว่าจะเรียนจบซะอีก
คาดเดาจากสีหน้าอันซุกซนของเขาแล้ว ทำไมยิ่งดูไม่น่าไว้ใจกันนะ…
แต่อาสึชิคุงสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีแล้วนี่นา
”ยากจัง เฉลยเลย“
มือรับของมาแล้วชูขึ้นมาสูดดมกลิ่นดอกไม้ทันที แต่ดอกไม้แห้งนั้นไม่ได้มีกลิ่นฟุ้งอะไรเป็นพิเศษ
"เห็นรุ่นพี่เรียนจบแล้ว ฉันก็อยากเรียนจบบ้างเลยค่ะ"
ก็มันเท่นี่นา...
"ไว้มาเล่นวอลเล่ย์กันอีกนะคะ!"
”ถึงจะเป็นปี3ก็เถอะ แต่พอจบแล้วก็แอบเสียดายอะไรหลายๆอย่างเหมือนกันนะ“
หล่อนขำคิกออกมาเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นไปลูบหัวอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน
”อย่างเช่น ยังไม่เคยมีแฟนในวัยเรียน…“
”ว่าไปนั่น“ ฟุฟุ
…
แต่ดูเหมือนเธอคงจะไม่มีโอกาสได้เล่นวอลเลย์กับรุ่นน้องสาวคนนี้แล้วล่ะ…
ได้ยินเรื่องแบบนั้นแล้วก็หลุดอ้าปากเหวอออกมาโดยไม่รู้ตัว
“แต่ฉันว่าหลายอย่างที่รุ่นได้ทำในปีนี้ ก็ดูคุ้มค่าเหมือนกันนะคะ“
”ไม่ว่ายังไงก็ขอให้การเดินทางใหม่ครั้งนี้เป็นอะไรที่ราบรื่นนะ!“
ว่าแล้วก็หยิบถุงใสคล้ายเครื่องราง ที่บรรจุดอกเนโมฟีล่าข้างในมาให้เป็นของที่ระลึก
ได้ยินเสียงสวยคุ้นเคย ชิออนมองรอยยิ้มของพี่สาวตรงหน้าก่อนจะวิ่งเข้าไปสวมกอดคุณด้วยท่าทางร่าเริงเท่าที่เธอจะทำได้ คงเพราะไม่อยากจะเศร้ากับการจากลานี้
เธอมองของที่อีกคนตั้งใจจะให้
"น่ารักจัง ชิออนจะเก็บไว้อย่างดีเลยค่ะ"
เสียงเธออู้อี้หน่อย ๆ
อืมมม
เธอคิด
"ชิออนก็มีนะ สิ่งที่อยากให้เซมไป"
พอได้ยินเสียงอีกฝ่ายก็พอจะเดาได้ว่าวันปัจฉิมนี้ ทำรุ่นน้องสาวคนนี้ใจเสียไปขนาดไหน
“ไหนซิ มีอะไรจะให้พี่หรอ~“ ^^)🌸
ชิออนใช้มือเล็ก ๆ ดึงริบบิ้นสีชมพูที่ผูกผมตัวเองอยู่ออก ก่อนจะมุ่งผุกมันเป็นโบว์ที่นิ้วก้อยข้างนึงของรุ่นพี่แทน
“เป็นแค่ของเล็ก ๆ น้อย ๆ ”
“ชิออนแค่คิดว่าถ้าเซมไปมองริบบิ้นเส้นนี้…คงจะนึกถึงชิออนแน่ ๆ ”
🥺🎀
“ไม่เล็กๆน้อยๆหรอก” เธอยกมือขึ้นมาประคองกุมไว้
“เป็นของ…ที่พิเศษมากๆเลยล่ะ”
เพราะไม่ใช่ริบบิ้นธรรมดา แต่เป็นริบบิ้นที่อีกฝ่ายใช้เป็นประจำ
“ขอบคุณนะ…”
ว่าแล้วก็โผเข้าไปมอบอ้อมกอดสุดท้ายที่เธอจะมอบให้ได้
เจ้าตัวที่ผมสีแดงตัดกับซากุระที่ร่วงตามทางเดินเข้ามาหาคุณด้วยเสียงที่ร่าเริงเช่นเคย
" จี้จัง !! ~ "
" ยินดีด้วยกับการจบการศึกษานะ ~ "
“ยินดีด้วยเช่นกันค่ะ นึกว่านายจะได้ซ้ำชั้นซะแล้ว” ฮิๆ
“ล้อเล่นน่ะ ล้อเล่น~”
เธอไม่รอช้า หยิบของที่ระลึกที่นำมาแจกให้กับเพื่อนๆและน้องๆทุกคนออกมา
“รับนี่ไปสิ”
“ที่คั่นหนังสือดอก Forget me not แห้งน่ะ”
.
“นายอาจจะไม่ได้ใช้มันหรอก…แต่ก็อยากให้เก็บมันไว้น่ะ ถือว่าเป็นของไว้ดูต่างหน้าจากฉันก็ได้ เผื่อวันนึงคิดถึงกันขึ้นมา”
" เฮ้ อย่าสิ มันเป็นลางนะเออ "
"ขอบคุณนะ ผมจะรักษาอย่างดีเลย "
" แล้ว ? คิดว่าอยากทำอะไรต่อล่ะ "
”ใช้พรุ่งนี้เลยได้ไหมนะ“
เธอหัวเราะให้กับเขา
.
“อืมมม…”
”คงไปทำภารกิจสุดท้ายที่ตั้งใจไว้น่ะนะ“
”แต่มันเป็นที่ๆไกลมากๆ คงต้องออกจากเมืองนี้ไป…”
…
“โชจิคุงล่ะ?”
“ฮือออ รุ่นพี่คะ ยิ้ม ฮึก รอยยิ้มรุ่นพี่หนูไม่มีทางลืมอยู่แล้วค่ะ ดอก for get me not ที่อยู่บนที่คั่นหนังสือนี้…. น่ารักสดใสเหมือนรอยยิ้มรุ่นพี่ในวันนี้เลย ฮึด หนูคงนึกถึงรุ่นพี่ตลอดทีาเห็นมันแน่เลยค่ะ ฮือออ แล้วจะกล้าใช้ลงได้ยังไงคะ😭”
”ใช้เถอะค่ะ เวลาอ่านหนังสือแล้วคั่นไว้บนหน้าที่เธอชอบที่สุด ก็เหมือนกับการบอกฉันด้วยว่านี่คือบทที่เธอชอบ“
บรรจงลูบหัวอย่างแผ่วเบา
“เป็นตัวแทนของฉัน ถ้าหากเธอคิดถึงฉันขึ้นมาล่ะก็ หยิบขึ้นมาดู และจำไว้ว่าฉันอยู่ข้างๆเธอเสมอ”
“…นานะจัง”🌸
ทำไมนะ กลับทำให้อยากร้องไห้ยิ่งกว่าเดิม
แต่กลัวจะขัดจุดประสงค์นั้นของรุ่นพี่ เลยพยายามเต็มที่จะกลั้นเสียงสะอื้น แม้น้ำตาจะร่วงเผาะ
จึงก้มหน้าลงเพื่อซ่อนน้ำตา
“งั้น..งั้นหนูจะใช้อย่างถนอมที่สุดเลยค่ะ ให้เหมือนรุ่นพี่เพิ่งให้หนูมากที่สุด เวลานึกถึงจะได้เหมือนว่าเราไม่ได้ห่างกันนานนะคะ“
”รุ่นพี่มิคาซึกิ…ย ยินดีด้วยนะคะ💙“
“ขอบคุณค่ะ”
“ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่างที่ผ่านมานะคะ”
“นานะจัง”
“ต่อจากนี้ไปพี่ไม่อยู่แล้ว และนานะจังก็จะกลายเป็นรุ่นพี่ปี3…ช่วยดูแลเหล่าน้องๆทีนะคะ”
“นี่คือสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะสามารถมอบให้เธอได้” อ้อมกอดอันอบอุ่น…
"Forget me not?"
นึกถึงสิ่งที่เคยคุยกันในวันกีฬาสี
"..." เม้มปาก
"โรแมนติคมากกว่าที่คิดนะเนี่ย?"
หัวเราะออกมาน้อยๆ มองคนตรงหน้า
"เอะ หรือไม่ชอบอะไรที่มันโรแมนติค จะเอาเส้นผมฉันไปก็ได้นะ" ฮะๆๆ
"ล้อเล่นน่ะล้อเล่น"
"ยินดีด้วยกับการจบการศึกษานะคะ เร็นคุง"
"เป็นปีที่ดีเลย ว่ามั้ย?"
"ให้เส้นผมคนอื่นง่ายๆเดี๋ยวก็โดนเอาไปทำของหรอก"
พูดเล่นเหมือนกัน ถึงจะนิ่งจนดูไม่เหมือน
"มิคาซึกิซังก็เช่นกัน"
"เธอคิดว่าเป็นปีที่ดีรึเปล่า?"
ถามย้อนโดยที่ไม่ได้ตอบของตัวเอง
“นายนี่น้า…มักจะเลี่ยงคำตอบฉันอยู่เสมอเลยนะคะ” หล่อนยิ้มจนตาหยี ถึงจะพูดอย่างนั้น ก็ไม่ได้มีท่าทีเคืองหรืออะไร
“จะจบแล้วก็ยังมีความลับกันหรอ?” โน้มตัวไปหาคนตรงหน้านิดหน่อยตามประสาคนขี้เล่น
หัวเราะแล้วเบ่งตัวหนี
“ยังมีอะไรอีกเยอะที่ไม่ได้ทำ มีสิ่งที่คิดว่าอยากย้อนเวลากลับไป เรื่องที่คิดว่าไม่ทำคงดีกว่า”
“แต่ก็ไม่ได้แย่”
เว้นช่วงไปสักพัก เม้มปาก มองผู้คนรอบตัว เหมือนกำลังคิดอะไร
“... จะว่าไปก็มีคนรักกันเยอะดีนะ มิคาซึกิซัง มีคนนั้นรึเปล่า?” หัวเราะ
“ถือว่าเก็บครบทุกอะชีพเม้นท์แล้วล่ะมั้งคะ?”
“อ๋า จริงๆแล้วก็แอบชอบอยู่หลายคนเลยล่ะ” ฮิๆ เธอขำออกมาเบาๆ ดูทรงเจ้าชู้ชะมัด
…
“แต่…พอได้รับความรักจากทุกคนในวันนี้… แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะ” หล่อนหลับตาลง
“การเป็นคนที่ถูกรัก…มันรู้สึกแบบนี้นี่เองสินะคะ”
“แล้วนายล่ะ มีมั้ย?”