#ESRA_Starlit #ESRA_Roleplay
ที่ระเบียงภายนอก แม้จะหนาวเย็น ทว่าก็มิได้เพียงเสี้ยวของบ้านเกิด
มกุฏราชกุมารีแห่งเธรินดรัลหลับตาลงครู่หนึ่ง
เธอสงบนิ่ง, งามสง่า, ดุจหิมะต้องจันทร์
ลมหนาวพัดเส้นผมล้อเคียงแก้มแผ่วเบา
แย้มยิ้มบาง ดนตรีและเสียงหัวเราะบรรเลงอยู่เบื้องหลัง ทว่าตรงนี้กลับสงบราวกับมิใช่โลกใบเดียวกัน
“And tomorrow… we return to who we must be.”
ที่ระเบียงภายนอก แม้จะหนาวเย็น ทว่าก็มิได้เพียงเสี้ยวของบ้านเกิด
มกุฏราชกุมารีแห่งเธรินดรัลหลับตาลงครู่หนึ่ง
เธอสงบนิ่ง, งามสง่า, ดุจหิมะต้องจันทร์
ลมหนาวพัดเส้นผมล้อเคียงแก้มแผ่วเบา
แย้มยิ้มบาง ดนตรีและเสียงหัวเราะบรรเลงอยู่เบื้องหลัง ทว่าตรงนี้กลับสงบราวกับมิใช่โลกใบเดียวกัน
“And tomorrow… we return to who we must be.”
Comments
ตึก ตึก ตึก...
เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากเบื้องหลังของหญิงสูงศักดิ์ก่อนที่เธอจะรู้ตัวชายหนุ่มก็ยืนอยู่ที่ระเบียงที่เดียวกับเธอทว่าอยู่ในชุดที่ทิ้งระยะห่างอย่างเหมาะสม
เขายิ้มทักทายหญิงสาวพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มสีแดงสดในมือพร้อมกับสายตาที่ทอดมองบรรยากาศภายนอกเช่นกัน
" อากาศค่อนข้างจะเย็น ทว่า บรรยากาศก็สงบเงียบดี ว่าไหมครับ? "
"หนาวหรือ?" เธอเอ่ยถาม น้ำเสียงราบเรียบ แต่ฟังดูคล้ายกลั้วรอยยิ้มบาง ๆ
เธอไม่ได้ตอบคำถามของเขาโดยตรง เพียงยกมือขึ้นเกลี่ยปอยผมที่ปลิวไหวกลับไปอยู่หลังใบหู ดวงตาสีเงินสะท้อนเงาจันทร์เป็นสีนวล
+
เว้นวรรคสั้น ๆ ก่อนจะปรายตามองเครื่องดื่มในมือเขา แล้วเลื่อนสายตาขึ้นมาสบกับดวงตาสีอำพัน "หรือท่านชายคิดว่าอย่างไร?"
(ขอแบบยาวเลยแล้วกันค่ะ-)
เคย์เดนค่อยๆ คนแก้วที่ถือเอาไว้ในมือก่อนจะยิ้มน้อยๆ เขาเหมือนจะไม่ได้รีบร้อนที่จะตอบคำถามของหญิงสาว เพราะกำลังเรียบเรียงคำพูดเอาไว้ในหัว
" สำหรับกระหม่อมเอง ก็ชอบความสงบเงียบขอรับ "
เขาตอบพร้อมกับมองหมู่ดาวบนท้องนภากว้าง
" ทว่า ความเงียบที่ไร้ซึ่งสุรเสียงใดๆ ก็ช่างชวนให้อ้างว้าง "
+
" ผมชอบความสงบ ที่พอดี มีเสียงเบาๆ ของนกร้องหรือใบไม้พัดปลิวไหว เสียงผู้คนคุยกันเบาๆ ให้พอรู้ได้ว่าเราะไม่ได้อยู่คนเดียว นั่นคือสิ่งที่ผมชอบที่สุดครับ "
เขาตอบเธอจนจบก็ค่อยๆ หันมามองเธออีกครั้ง
" ส่วนความหนาว... ฮะๆ ต้องยอมรับว่า ที่นี่อากาศหนาวกว่าที่บ้านเกิดของผมเล็กน้อยครับ "
+
" หรือท่านหญิง ไม่ได้รู้สึกถึงมัน คงอาจจะเพราะบ้านเกิดของคุณ เป็นพื้นที่ที่อากาศเย็นกว่าที่นี่ ผมเดาถูกหรือไม่? "
"โว้ว...โว้ว...นั่นใช่ เอลเล็ตต้าหรือเปล่านะ?"
"แต่งตัวสวยจังเลยนะวันนี้"
ชายที่คุ้นหูคุ้นตาเธอเดินออกมาจากเงามืด ทุกปีเขาก็มักจะชมสาวๆสวยๆตลอดนั่นแหละ
"อากาศแค่นี้ทำอะไรเธอไม่ได้หรือไงกันนะ?..."
เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ท่าทีของเธอก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เอลเล็ตต้าเอียงศีรษะ หมุนตัวกลับมาหา มุมปากยกฉายแววหยอกเย้า ก่อนจะกอดอกพลางพิงระเบียง
"เรา? อากาศ 'อบอุ่น' เช่นนี้ควรจะทำอะไรเราได้หรือ?"
"สบายตัวดีออก"
เธอเลื่อนสายตาสีเงินคมมองเขาจากหัวจรดเท้า ชุดอันเป็นเอกลักษณ์ของเมทอร์เซีย เข้ากันกับชายหนุ่มได้ดียิ่ง
+
แต่ดีเทลชุดแบบนั้น หากมันชวนหนาวอยู่คงไม่แปลกใจ..
กระนั้นในหัวก็พลันนึกอะไรสนุก ๆ ออก จึงยิ้มขำ
"อย่าบอกนะว่า ท่านหนาวจนต้องออกมาหาเรา อุ๊บ...งั้นก็มานี่สิ"
จับยกปลายเสื้อคลุมขนสัตว์กางออก แม้จะดูเหมือนมีน้ำใจ แต่ทำไมกลับให้ความรู้สึกราวกับกำลังเชิญชวนลูกแมวหนาวสั่นเข้าไปพักพิงในผ้าห่มอันอบอุ่นเสียอย่างนั้นกันนะ...
ดีแลนอ้าแขนเดินเข้าไปกอดอีกฝ่ายอย่างยินดี ก็แหม่สาวชวนเข้าไปหาขนาดนี้จะปฏิเสธก็ยังไงอยู่นี่ไม่ใช่เหรอ? นี่น่ะเขาไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่นเลยนะ จริงจริ๊ง~
“โอ้...น้ำหอมใหม่เหรอ? หอมดีนี่”
มือยังคงกอดรอบอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ได้ปล่อยอะไรแต่ก็ไม่จับอะไรแปลกๆด้วย
“นี่คงไม่ได้แต่งตัวสวยรอฉันใช่ม้าา “เขากล่าวแซวตามประสาผู้ชายเสเพลอย่างเขา
เอลเล็ตต้าหัวเราะเบา ๆ คิดว่าคนหูตาไวเช่นเธอจะไม่รู้ไม่เห็นหรือ เรื่องที่เขามางานสายน่ะ
พลางดึงขนสัตว์คลุมไหล่ของตนคลุมล้อมตัวดีแลนเอาไว้ กอดเขาแน่นขึ้นอย่างอบอุ่น ราวกับจะกันลมหนาวให้
"แบบนี้ อุ่นดีไหม?"
เธอเอนใบหน้าเข้าไปใกล้ หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะกระซิบที่ข้างหูเขา เสียงหวาน
+
เธอยกยิ้มเจ้าเล่ห์ พลางกระชับกอดแน่นขึ้นอีกนิด
"ค่ากอดของเราคืนนี้...แลกเป็นชิปเซ็ตใหม่ล่าสุดของเมทอร์เซียก็แล้วกัน~"
แย้มยิ้มอย่างอารมณ์ดี ราวกับกำลังปิดดีลธุรกิจไปอย่างสวยงาม จังหวะนี้หากดีแลนอยากจะเด้งตัวออก ก็คงไม่ทันเสียแล้ว
(หมั่นไส้หนุ่มมาก อยากหยิกแก้ม55555555)