#KMI_เปิดโรล
หลังเที่ยงคืน | ร้านเหล้า
‘เขา‘ นั่งอยู่ท่ามกลางเสียงคู่รักทุ่มเถียง
แก้วในมือฝ่ายหญิงกระฉอกซัดใส่ฝ่ายชาย
—แต่ผู้โชคร้ายไม่ใช่คนรักของหล่อน
’เขา’ นั่งนิ่ง มองดูคนทั้งสองจากไป
น้ำเมาหยดลงจากใบหน้า บุหรี่เปียกจนดับ
‘คุณ‘ เห็นทุกเหตุการณ์—แบบสโลว์โมชัน
หลังเที่ยงคืน | ร้านเหล้า
‘เขา‘ นั่งอยู่ท่ามกลางเสียงคู่รักทุ่มเถียง
แก้วในมือฝ่ายหญิงกระฉอกซัดใส่ฝ่ายชาย
—แต่ผู้โชคร้ายไม่ใช่คนรักของหล่อน
’เขา’ นั่งนิ่ง มองดูคนทั้งสองจากไป
น้ำเมาหยดลงจากใบหน้า บุหรี่เปียกจนดับ
‘คุณ‘ เห็นทุกเหตุการณ์—แบบสโลว์โมชัน
Comments
ยูคิระที่เดินตรงมาเพราะเห็นเหตุการณ์จากที่ไกลๆ
ปกติก็ใช่ว่าอยากจะไปยุ่งหรอกนะ
เพียงแต่ว่าสายตาเจ้าตัวดันสบกันพอดี แถมเคยรู้จักมักจี่แบบนี้ยิ่งต้องเข้าไปช่วย
โดยปกติ‘ต้องคิด’ แบบนี้สินะ?
ーพนักงานค่อยๆถยอยเดินมาเก็บกวาด คู่รักตรงหน้าดูท่าทียังไม่ค่อยสงบลงเท่าไหร่ แม้จะสาดน้ำใส่ผิดคนเต็มๆ
แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องของฉันอยู่ดี
เธอยืดกอดอกรอให้อีกฝ่ายจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อน
เอาอีกแล้ว ยูริไม่เคยจำชื่อคนได้ตั้งแต่หนแรกเสียที เขาหัวเราะนิดๆ แหงนหน้าขึ้นแล้วคลี่ผ้าสีขาวคลุม สีแดงซึมวาดลวดลายขึ้นมาตามผ้าที่ทาบทับลงไป“…คุณสัปเหร่อนี่เอง”
ผืนผ้าชักออกเหมือนักมายากล ของเหลวสีแดงก่ำบนใบหน้าหายไปหมดจดดีแล้ว แต่เส้นผมหยักศกยังเปียกหมาด คงอยู่เป็นทรงที่จัดแต่งมาตามเดิม เสื้อเชิ้ตสีดำที่ไม่ค่อยหยิบมาสวมเองก็มีรอยเปียกเป็นดวง
“มาทำงานหรือครับ?”
”ทำไมฉันต้องมาทำงานล่ะค่ะ ที่นี่ไม่มีคนตายสักหน่อย“
เธอส่ายหัวก่อนจะหยิบน้ำเปล่าและผ้าอีกผืาที่ขอจากพนักงานก่อนหน้านี้มา ช่วยซับน้ำให้อีกคน เช็ดเปล่าๆคงเหนียวหัวน่าดู
มือพลางเช็ดผมจนทรงเซ็ตคลายไปหมด กลับมาอยู่ในสภาพที่ยุ่งเหยิง
”กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว“
ต้องแบบนี้สิ เธอต้องเป็นแบบนี้ ยูริ
ยูริไม่ได้ว่าอะไรที่อีกฝ่ายขยี้ผมแต่งทรงจนกลับมายุ่งเหยิงดังเก่า ออกจะมีความสุขดีที่ยูคิระช่วยเช็ดผมเปียกชุ่มให้อย่างกับอาบน้ำสัตว์เลี้ยง
“ที่ไหนก็มีคนตายทั้งนั้นแหละครับ แค่ไม่ใช่ตอนนี้” เย้าเล่น ผายมือลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม “นั่งไหมครับ”
เขารีบพูดขัดก่อนอีกฝ่ายจะตอบอะไรกลับมา “คุณไม่ได้เข้ามาทำงานอยู่แล้วนี่ครับ ดื่มอะไรหน่อยสิ”
ยูคิระส่งต่อผ้าและขวดเปล่าให้พนักงานก่อนจะนั่งลงตามคำบอกของเขา
ท้ายที่คู่รักคู่นั้นก็ไม่ได้พูดอะไร พวกเขาโดนพนักงานเชิญออกเนื่องจากก่อเหตุทะลาะวิวาท
ใครจะรู้ล่ะ ไม่พวกเขา ใครคนใดคนหนึ่งอาจจะได้เป็นศพแรกของที่นี่ก็ได้
งานของเธอก็คงจะยุ่งขึ้นอีกคิวสองคิว
โนกามิเป็นคนช่างเลือกและชอบความเป็นส่วนตัว ไม่บ่อยนักที่เขาจะพาตัวเองมานั่งในร้านเหล้าที่รอบข้างคราคร่ำด้วยผู้คน
การตกแต่ง ดี
เครื่องดื่ม ดี
อาหาร ไม่แย่
เพลง ยอดเยี่ยม
แต่สิ่งที่เขาคงต้องตัดคะแนนยับคงเป็นบรรยากาศ
เขามาที่นี่สำหรับเครื่องดื่มสักแก้วและเพลงแจ๊สจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงคลาสสิค +
เขาเป็นคนมีความอดทนสูง—แต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้
โนกามิดื่มอึกสุดท้าย วางฐานแก้วที่ว่างเปล่าลงกับโต๊ะไม้เนื้อดี หยิบใบเสร็จแล้วลุกจากที่ตรงไปทางหน้าร้านท่ามกลางเสียงทะเลาะที่กลบเพลงที่เขาอยากฟัง ระหว่างทางฝีเท้าแวะหยุดลงที่โต๊ะแขกคนหนึ่ง
+
เขาไม่ได้เอ้อระเหยอยู่กับโต๊ะของแขกที่รู้จักหน้าค่าตานานนัก โนกามิเดินต่อไปที่ป้าย ‘โอไคเคย์’ โดยไม่อยู่รอคำตอบ
วันนี้ยูริก็ยังลากเสียงเรียกอีกฝ่ายแบบคลุมเครือตามเดิม ไม่ระบุว่าเป็น ‘อาจารย์‘ หรือ ‘คุณหมอ‘ กันแน่
“เขาเรียกว่าละครเวทีแบบมีส่วนร่วมต่างหาก—องก์ที่หนึ่ง รสขมเปรี้ยวแห่งโทสะไงครับ“
หลับตาข้างหนึ่งเพราะเหล้ากลิ่นเปรี้ยวจากปลายผมหยด (เดาว่าคงเป็นไวน์ ไม่รู้สิ เขาไม่ค่อยพิถีพิถันกับเหล้า) นั่งโงนเงนเหมือนดารุมะที่รอให้คนมาเขียนตาอีกข้างเติมให้
+
“ผมรอดูองก์ที่สองอยู่” —รอยยิ้มไม่เจือปนความเมามายใดๆ แก้วน้ำใสเบื้องหน้าพร่องไปครึ่งหนึ่ง
บุหรี่ถูกดีดมาที่เท้า ไม่ว่าด้วยจงใจหรือเป็นอุบัติเหตุแสนบังเอิญก็ตาม โนกามิขยับหลบก่อนที่มันจะโดนตัวเองและทำอ็อกฟอร์ดหนังเงาวับของเขามีตำหนิ
+