“งั้นเหรอครับ” เป็นคำตอบกลับอย่างแห้งแล้ง เขาหลุบตาลงอีกรอบ กวาดมองข้อมือที่เห็นกระดูกนูนขึ้นมาแล้วสูดหายใจเข้าเร็วๆ ดึงน้ำเสียงที่ฟังดูแจ่มใสที่สุดออกมาจากลำคอ
“ผมมียาอื่นที่ต้องเทคอยู่แล้วน่ะซี ถ้าขืนต้องทานเพิ่มอีกคงทานข้าวไม่อร่อยกันพอดี—แต่ขอบคุณที่แนะนำครับ“
รอบนี้ยูริงัดเอารอยยิ้มเนือยๆขึ้นมาประดับได้สำเร็จ
”อันนี้เป็นคำแนะนำในฐานะหมอรึเปล่า? ถ้าใช่ ผมจะได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด“
“ผมมียาอื่นที่ต้องเทคอยู่แล้วน่ะซี ถ้าขืนต้องทานเพิ่มอีกคงทานข้าวไม่อร่อยกันพอดี—แต่ขอบคุณที่แนะนำครับ“
รอบนี้ยูริงัดเอารอยยิ้มเนือยๆขึ้นมาประดับได้สำเร็จ
”อันนี้เป็นคำแนะนำในฐานะหมอรึเปล่า? ถ้าใช่ ผมจะได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด“
Comments
เช่น ส่งผลกระทบต่อการหลั่งเซโรโทนินที่มาจากฤทธิ์ยากลุ่มจิตเวช—เขาไม่ใช่แพทย์เจ้าของไข้ ไม่รู้หรอกว่ายูริใช้ยาอะไรบ้าง
“..แต่คงจะเป็นฐานะสหายคนหนึ่งที่หวังดีต่อเธอ”
+
“ดูแลตัวเองหน่อยนะ ผมเอาดอกลิลลี่เข้ามาให้ที่นี่ไม่ได้”
ท่าทีครึ่งๆกลางๆของยูริตั้งแต่นาทีแรกที่ดูจงใจก่อกำแพงล่องหนขึ้นมาขวางกั้นระหว่างตนกับผู้มาเยือน—คล้ายจะลดลงมาเล็กน้อย สุ้มเสียงอ่อนลงพร้อมศีรษะที่โคลงไปด้านข้าง
“ความหวังดีของคุณต่อผม—หวังว่ามันจะไม่ไปทำให้หน้าที่การงานและชื่อเสียงของคุณบกพร่อง“
+
”บอกไว้ก่อนเลยว่าผมรับผิดชอบอะไรไม่ได้นะ?“
เพราะเขายืนนิ่งมาตลอด ไม่ได้แสดงความเอนเอียงทางความคิดส่วนตัวเกี่ยวกับรูปคดีออกมา ไม่มีคำตัดสินจากปากโนกามิสักครั้งว่าเขาคิดว่ายูริ ‘ทำ’ หรือ ‘ไม่ได้ทำ’ มากที่สุดแค่ความห่วงใยเรื่องสุขภาพตามหลักสิทธิมนุษยชนเท่านั้น
+
"—ด้วยหลักการนั้น ตอนนี้ผมไม่ได้กำลังคุยกับอาชญากรอยู่นะครับ”