#THK_โรลเปิด #แยกรูท | ชมรมคิวโดหรือบริเวณโรงยิม 4 | 15.57
ซุยเซย์มาซ้อมที่ชมรมตามเวลา เขารู้สึกไม่ค่อยสบายตัวตั้งแต่เช้าแต่ก็ผ่านทั้งวันมาได้โดยที่เขาฟุบนอนกับโต๊ะและมีอาการเพลียมากกว่าปกติ
แต่ว่าหลังจากซ้อมไปได้ไม่เท่าไหร่กลับรู้สึกว่าแรงกายระเหยหายไปหมด
+
ซุยเซย์มาซ้อมที่ชมรมตามเวลา เขารู้สึกไม่ค่อยสบายตัวตั้งแต่เช้าแต่ก็ผ่านทั้งวันมาได้โดยที่เขาฟุบนอนกับโต๊ะและมีอาการเพลียมากกว่าปกติ
แต่ว่าหลังจากซ้อมไปได้ไม่เท่าไหร่กลับรู้สึกว่าแรงกายระเหยหายไปหมด
+
Comments
"...."
มิฮารุ ซุยเซย์ กำลังมีไข้และดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยรู้ตัวเลยว่าเป็นแบบนั้น
(บวกโรลได้เลยตามสะดวกค่า🙇🏻♀️💙)
ที่วันนี้มาปรากฏตัวที่ชมรมได้ นั่นก็เพราะ เมื่อวีคเอนที่ผ่านมา เขาได้ไปรบกวนที่บ้านมิฮารุ จึงมีเสื้อผ้าที่ต้องซักและนำไปคืน
เขาเห็นรุ่นน้องมาแต่ไกล แต่เมื่อเข้าใกล้เรื่อยๆ เขายิ่งพบความผิดปกติ
"เฮ่..เป็นอะไรรึเปล่า.."
แมัจะเรียกแล้ว แม้จะเดินเข้ามาใกล้ แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ได้ยินที่เขาเรียกสักเท่าไหร่..
+
คำถามคล้ายๆเดิมถูกพูดขึ้นมาอีกครั้งพร้อมๆกับที่เขาเดินเข้าไปประชิด
แล้วรีบโอบประคองที่เอวคอดบางของเด็กป่วยที่ยืนโงเงนเอาไว้
"ตัวอุ่นๆนะ ไหวรึเปล่า"
อาจจะเพราะอีกฝ่ายก้มหน้าอยู่น้อยๆ
เรือนผมสีสว่างก็ตกลงมาปรกที่ใบหน้า เซเลยยังไม่เห็นใบหน้าที่ร้อนผ่าวนั่นชัดๆ
รู้แค่จากสัมผัสที่ช่วงแขน
แต่ถ้าคิดดีๆ เขาใส่สูทแขนยาวอยู่ ที่เอวบางก็มีขอบฮากามะ
+
ผ้าหลายชั้นขนาดนี้ แต่เขายังรู้สึกถึงไอร้อนจากตัวของอีกฝ่ายได้
หมายความว่าอีกฝ่ายดูจะอาการหนักพอตัว
ซุยเซย์เงยหน้าขึ้นให้พอมองเห็นใบหน้าของกันและกัน เจ้าตัวผงกหัวก่อนจะส่ายหัวไปมานิดหน่อย ไม่รู้ว่าคำตอบคืออย่างไหนกันแน่
"เซมไปซ้อมเย็..นไม่ใช่เหรอ...มาทำอะไรครับ?"
เขาเอ่ยตอบเสียงเบาผ่อนลมหายใจร้อนๆออก พยายามยันตัววางเท้ามายืนตรงให้ดีๆเหมือนเดิม
เพราะหลังจากที่รุ่นน้องพูดจบ คนป่วยก็ถูกช้อนอุ้มขึ้นมาตัวลอย
จากนั้นรุ่นพี่ตัวโตที่เป็นคนอุ้มอยู่ก็รีบพารุ่นน้องตัวเล็กไปที่ห้องพยาบาลโดยเร็วที่สุด
.
.
.
เมื่อมาถึง ปรากฏว่าที่ห้องพยาบาลไม่มีใครอยู่
ร่างบางถูกพาไปวางนอนลงกลางเตียง และคนที่พามา ก็ตัดสินใจนั่งเฝ้าอยู่ด้วยกันไปก่อน
เซหยิบเก้าอี้มานั่งข้างเตียง มือหนาเลื่อนไปแตะที่หน้าผาก
+
เทนโดที่เดินไปตามห้องชมรมมองเห็นเพื่อนร่วมห้องมีท่าทางแปลกๆ
นัยน์ตาคมหรี่มองชายหนุ่มในชุดฮากามะซ้อมยิงธนูจนเสร็จ ทว่าอีกฝ่ายกลับดูเหนื่อยหอบเกินไปจนน่าเป็นห่วง
ขาเรียวก้าวสืบเข้าไปใกล้อีกฝ่ายหวังจะเช็คให้แน่ใจ
"นี่ เป็นอะไรรึเปล่า"
เขาส่งเสียงทักออกไป
สมองของเขารับรู้ว่าอีกฝ่ายคือใคร เพื่อนร่วมห้องเรียนเดียวกัน แต่ดูเหมือนว่าซุยเซย์จะแรงน้อยเกินกว่าจะเรียกชื่อออกไป เขาได้แค่กระพริบตารับช้าๆและดูโงนเงนนิดหน่อย
เด็กหนุ่มส่ายหัวช้าๆ ไม่ใช่ว่าไม่เป็นไร แต่เหมือนว่าเขาไม่ค่อยแน่ใจมากกว่า
"ไม่...รู้เหมือนกันครับ—"
คนที่มักจะดูง่วงงุนและฟุบหลับในคาบเป็นประจำเอ่ยเสียงแผ่วตอบกลับไป ผิวแก้มแดงจนเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
ใบหน้าที่แดงเรื่อและน้ำเสียงผะแผ่วเหมือนเสียงแมวทำให้อีกฝ่ายยิ่งดูอ่อนแรง
"ขอโทษนะ"
เด็กหนุ่มเอ่ยขอละแก่โทษก่อนที่หลังมือขาวจะยกขึ้นวางแนบกับหน้าผากมนที่มีผมปรกอยู่ประปราย
ดวงตาสีแดงมองพิจารณาก่อนที่มืออีกข้างจะยกขึ้นแนบกับหน้าผากตนเองด้วย
"ตัวร้อนนิดหน่อยนะ"
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น
"...."
ผมของเขาเลิ่กขึ้นเล็กน้อยจากการวัดไข้และเปิดหน้าผากบางส่วนค้างอยู่แบบนั้นคงเพราะว่าความชื้นเหงื่อ
+
"นิด..หน่อย...หมายความว่าต้องไปห้องพยาบาลไหมครับ—?"
+
เสียงทุ้มนุ่มเรียกชื่ออีกฝ่ายจากด้านหลังเบาๆ ร่างสูงในชุดนักเรียน ยืนอยู่ใกล้ๆ สนามฝึกซ้อม สีหน้านิ่งสงบ แต่สายตากลับจับจ้องอีกฝ่ายมาได้สักพักแล้ว
ไม่ใช่เพราะว่าเขาตั้งใจจะมา...แต่เพราะบังเอิญเดินผ่านเท่านั้น
ถึงจะบอกว่า บังเอิญ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่จำได้
+
เขาเดินเข้ามาใกล้โดยไม่เอ่ยอะไร มือหนึ่งเอื้อมขึ้นแตะหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล
ปลายนิ้วเย็นเฉียบแน่นิ่ง ราวกับไม่ใช่การตรวจอุณหภูมิธรรมดา
“…คุณตัวร้อนนะครับ ” เขากล่าว
ดวงตาสีทองหม่นสบตาคู่อ่อนแรงของซุยเซย์
“คุณกำลังจะล้มนะ”
+
“ไปพักดีๆ ก่อนที่หมดสติดีไหมครับ?”
ฟังแล้วก็ไม่แน่ใจว่าจากภายนอกเขาดูเหมือนจะล้มและกำลังจะล้มจริงๆ หรือเพราะการสบดวงตาที่ให้ความรู้สึกประหลาดนั้นแล้วกำลังถูกสะกดจิตว่ากำลังจะล้มกันแน่
จะอย่างไหนซุยเซย์ก็ไม่มีแรงจะคิดเล็กน้อยน้อยเรื่อยเปื่อยมากขนาดนั้นในตอนนี้
+
เด็กหนุ่มหลบสายตาลงมองรอบๆเล็กน้อย ภาพต่างๆดูเหมือนจะช้าลงไปหมดจากอาการล้าเพราะไข้ เขาจำได้ว่าไม่ค่อยเห็นอีกฝ่ายแถวนี้ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ชมรมกีฬาใกล้เคียงหรือแค่ผ่านมาใกล้ๆโรงยิมเพราะเหตุอื่น
"พัก..หมายถึง...ต้องไปห้องพยาบาลน่ะเหรอ—"