#KMI_Undoukai
#KMI_Aka
นั้นมัน.. แปลว่าลงวอลเลย์ด้วยสินะ คาดไม่ผิด
วาตารุยืนมองทีมสีน้ำเงินสักคนที่ดูเหมือนกำลังซ้อมวอลเลย์อยู่ ก่อนจะหลุดหัวเราะคิกคักออกมา
“ คิก— ”
น่าตื่นเต้นเป็นบ้า จะได้แข่งกันหรอนี่
( แอบมาส่องสีน้ำเงินสักคนซ้อมกีฬาล่ะ>< )
#KMI_Aka
นั้นมัน.. แปลว่าลงวอลเลย์ด้วยสินะ คาดไม่ผิด
วาตารุยืนมองทีมสีน้ำเงินสักคนที่ดูเหมือนกำลังซ้อมวอลเลย์อยู่ ก่อนจะหลุดหัวเราะคิกคักออกมา
“ คิก— ”
น่าตื่นเต้นเป็นบ้า จะได้แข่งกันหรอนี่
( แอบมาส่องสีน้ำเงินสักคนซ้อมกีฬาล่ะ>< )
Comments
"มีเรื่องอะไรให้น่าหัวเราะหรอคะ?"
เจ้าหล่อนที่เพิ่งพักจากการซ้อมมายืนเท้าเอวด้านหลังคนสนิท
เพราะว่าอยู่ต่างสีกันจึงไม่ค่อยมีเวลาได้คุยกันมากนัก
ในเมื่อเจอกันทั้งที
แวะยืนคุยหน่อยดีกว่า
“ แค่รู้สึกตื่นเต้นอะไรนิดหน่อย จนมันเก็บไม่อยู่มั้ง ”
สายตาสุดท้ายที่มองเด็กสีน้ำเงินคนนั้นค่อยๆเบนกลับมามองเจ้าตัวจิ๋ว
“ ว่าไงริสะ เป็นไงบ้าง สีน้ำเงิน ”
“ก็คงนับเป็นเรื่องที่ดีใช่มั้ยล่ะ”
ค่อนข้างแปลกใจที่มีเรื่องอะไรที่ทำให้อีกฝ่ายตื่นเต้นได้ขนาดนี้
ก่อนคิดอะไรให้มากความก็ถูกถาม
“อา ก็วุ่นวายเหมือนเคยดีนะคะ”
ในหลายๆ ความหมาย
“ริสะได้ทำอะไรเยอะกว่าปีก่อนเลยค่ะ” นับนิ้วขึ้นมา
“คราวนี้ลงเป็นนักกีฬาบาส โอเอ็นโดตำแหน่งมือกลอง และก็…”
นิ้วที่หุบลงเรื่อยๆ กับชะงักไป
เหมือนจะอ้ำอึ้งพักนึง
“ลง…” หลุบใบหน้าเสียงเบา
เดินมาเกาะหัวอีกฝ่ายตอนไหนก็ไม่รู้
“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไร?”
“นายทำแบบนั้นแล้วสยองชะมัด….”
พุดงั้นก้โยคหัวไปมาและเท้าที่ต้องเขย่งใส่อีกฝ่าย
เพราะตัวเองเป็นสวัสดิการให้ทีมวอลเลย์สีตัวเอง เลยอยู่แถวนั้นพอดี
ถึงจะดูไม่ได้ตั้งใจทำงานเท่าไหร่ แถมยังอู้กินน้ำส่วนของนักกีฬาอยู่ซะอีก
พอได้ยินเสียงอื่นนอกจากเสียงลูกบอลกระทบกับพื้น
เลยหันไปเจอเข้ากับคนคุ้นเคย เลยแวะไปหาสักหน่อย
"อารมณ์ดีใหญ่เลยน้าพี่ชาย~" ^^
พอได้ยินเสียงทักก็หันไปหาก่อนจะยิ้มให้
” แน่นอนสิ “
” เธอคนนั้นเด็กสีเธอลงแข่งวอลเลย์บอลนี่ “
พอมาแอบยืนดูลับๆล่อๆ บางทีก็แอบเหมือนโรคจิตส่องอีกสีนิดนึง แต่ทำไงได้ล่ะ
” แล้วเป็นไงบ้าง คุณประธานสี “
” เหนื่อยมั้ย? “