#kmi_เปิดโรล
📍สวนสาธารณะ | 17:45น. แยกรูท
บ๊อก บ๊อก!
เสียงเห่าของสุนัขดังขึ้น พร้อมเสียงร้องของเจ้าแมวเหมียวที่ตามมาราวกำลังประท้วง
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ก็พบว่ามีสาวแกลสะพายเป้กำลังยื้อยุดกับเจ้าหมาชิบะตัวอ้วนด้วยความพยายามที่แทบจะสิ้นหวังอยู่
"เดี๋ยวเถอะมารอนจัง! ทำไมดื้อแบบนี้นะ"
เกลี้ยกล่อมก็แล้ว เอาขนมมาล่อก็แล้ว แต่เจ้ามารอนก็ยังไม่มีทีท่าจะลุกเดินตามมาเลยซักนิด
📍สวนสาธารณะ | 17:45น. แยกรูท
บ๊อก บ๊อก!
เสียงเห่าของสุนัขดังขึ้น พร้อมเสียงร้องของเจ้าแมวเหมียวที่ตามมาราวกำลังประท้วง
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ก็พบว่ามีสาวแกลสะพายเป้กำลังยื้อยุดกับเจ้าหมาชิบะตัวอ้วนด้วยความพยายามที่แทบจะสิ้นหวังอยู่
"เดี๋ยวเถอะมารอนจัง! ทำไมดื้อแบบนี้นะ"
เกลี้ยกล่อมก็แล้ว เอาขนมมาล่อก็แล้ว แต่เจ้ามารอนก็ยังไม่มีทีท่าจะลุกเดินตามมาเลยซักนิด
Comments
“เออ...“ เขาทำเสียงอึกอักอยู่ด้านหลังเธอ ตรงหน้าเจ้าเหมียว
”ลองผ่อนสายจูงให้เขาตายใจก่อนไหมครับ“
(มาขอ + ฮะ 🙏🏻)
เธอหันควับกลับไปทันที พร้อมขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
"ผ่อนสายจูงแบบนี้น่ะหรอ?"
จากนั้นก็ผ่อนสายจูงลงตามที่อีกคนบอกมา
“ดูเป็นไงบ้าง” เขาหันไปมองมารอนจัง “ยิ่งฝืนดึงเขาจะยิ่งอยากเอาชนะน่ะ”
คุรุมินั่งยองๆลงต่อหน้าเจ้าชิบะอ้วนที่นั่งก้นติดพื้น ก่อนจะหันไปมองหนุ่มแปลกหน้าที่เข้ามาพูดคุยด้วย
"มีแฟนแล้วรึยังคะ?"
—ถามไปงั้นแหละ
ท้ายที่สุดเขาจึงหลบสายตาเธอไปมองหมาอ้วนแทน
”ชื่ออะไรเหรอ“
หมายถึงชิบะน่ะ
"คันซากิ คุรุมิ"
เจ้าหล่อนดันไปแนะนำชื่อตัวเองซะงั้น
"ส่วนเจ้าชิบะชื่อมารอน และเจ้าเหมียวชื่อโคมุกิ"
"แล้วนายล่ะ?"
นั่งยองๆตรงหน้าเจ้าหมาอ้วน ลูบหัวเล่นไปมาขณะถามชื่อเจ้าหนุ่มแว่นวิชาการ
"เธอต้องเคยได้ยินสื ที่เขาบอกว่าหมาจะนิสัยเหมือนเจ้าของอะ?"
ชายหนุ่มที่สูงขึ้นอีกในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาตอนมุ่งหน้าตรงเข้าไปหาเจ้าสุนัขที่กำลังดื้อไม่ยอมเดินตามเจ้าของด้วยรอยยิ้มกว้าง
"ว่าไงเราาา"
คำทักทายนั่นมันอะไรกัน น่าหมั่นไส้จริงๆ
"นี่นายว่าฉันดื้อหรอ?"
ยืนไขว้แขนหาเรื่อง
รอยยิ้มกว้างบนใบหน้านั่นยังคงแลดูน่าหมั่นไส้ไม่ใช่เล่น
คนที่เดินเข้ามาถึงจุดมุงหมายแล้วย่อตัวลงนั่งข้างสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักพร้อมพูดเสียงสองเสียงสามด้วยอย่างพยายามหาพวก
"ใช่ไหม? คิดเหมือนกันเลยใช่ไหมล่ะว่าเจ้าของน่ะดื้อสุดๆ เนอะๆ"
"อย่าไปฟังหมอนั่นเลยนะมารอนจัง"
ลูบหัวเจ้าชิบะด้วยความเอ็นดู ก่อนเลื่อนมือไปบิดจมูกเคย์ริวด้วยความหมั่นไส้
มื้อข้างซ้ายเอื้อมไปลูบสัตว์เลี้ยงของอีกคนบ้างแบบไม่ยอมแพ้
ส่วนอีกมือ... เคย์ริวทำการยื่นไปบีบจมูกของคุรุมิด้วยเช่นกัน ปัญหาจะอยู่ตรงที่บีบแล้วไม่ได้ปล่อยออกนี่สิ
"หน็อยยย ทำไมทำตัวแบบนี้นะ"
ศึกมวยคู่เอก โดยมีน้องหมาและน้องแมวเป็นพยาน
หญิงสาวในชุดกิโมโนเดินไปตามเสียงที่ลอยมาตามลมก่อนจะเอ่ยทักรุ่นน้องเสียงใส
“สายันต์สวัสดิ์เจ้าค่ะ”
“มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าเจ้าคะ คันซากิซัง?”
พอเห็นสาวที่เข้ามาทักก็ยิ้มร่าดีใจพร้อมโบกมือทักทาย
" อื้ม~ พอดีว่าน้องหมาไม่ยอมเดินไปไหนเลยน่ะค่ะ "
พูดแล้วก็คอตกเหนื่อยใจ
“อืม..”
“ดิฉันเองก็ไม่ค่อยรู้ว่าควรทำอย่างไงเจ้าค่ะ...“
ก่อนที่จะย่อตัวลงไปใกล้ ๆ เจ้าตัวน้อย
”อยากให้ช่วยอะไรรึเปล่าเจ้าคะ?“
“โอยะ?”
แต่แล้วก็สะดุดตากับเจ้าหมาอ้วนที่ทำท่าทางไม่อยากจะไปไหนเลยแม้แต่น้อย กับแมวตัวอ้วนน่าฟัดที่ห้อยอยู่ข้างหลังของเจ้าของอีก นี่มันเป็นโมเม้นน่ารักสุดๆไปเลยนี่นา!
มองไปมองมาก็นึกขึ้นได้ว่าเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนตน จึงไม่รอช้าที่จะวิ่งเตาะแตะไปหาพร้อมโบกมือเรียกจากระยะทางที่ไม่ห่างมากนัก
“คุรุมิจางสวัสดีตอนเย็น~ ทำอารายอยู่หรอ~“
จากที่เครียดๆ ตอนนี้กลับกระโดดโลดเต้นดีใจเพราะเจอพี่สาวคนรู้จัก
คุรุมิโบกมือทักท้ายกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
"กำลังโน้มน้าวให้เจ้ามารอนกลับบ้านค่ะ! แต่ดูเหมือนว่าเจ้ามารอนยังไม่อยากกลับซักเท่าไหร่นะคะ?"
“ยังอยากเล่นอยู่สินะ~ ลองเอาขนมล่อดูรึยังล่ะ?”
เพิ่งมาเห็นเหตุการณ์จึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้ลองไปรึยัง เพราะเห็นทีก็จังหวะพยายามลากกลับเนี่ยแหละ
คุรุมิส่ายหัวไปมาอย่างหมดกำลังใจ
ก่อนจะนึกอะไรออกมาได้
"จะว่าไป มารอนจังชอบสาวน่ารักค่ะ ถ้าเป็นเซมไปล่ะก็..!"
ยกมือไหว้ขอความช่วยเหลือ
เงยหน้ามองหญิงสาวตัวสูงและชี้หน้าตนเองอย่างงงงวย เจ้าหมานี่เจ้าเล่ห์ใช่ย่อยเลยนี่นา แต่โดนชมอ้อมๆแล้วเขินจุง
”ช่วยไม่ได้น่ะนะ.. แล้วต้องทำยังไงอะwwwww คุรุมิจังมีขนมเหลืออยู่บ้างรึป่าว?“
กำแบๆขอ หวังว่าจะไม่เขมือบจนเกลี้ยงแล้วนะ
"แค่ลองเรียกชื่อแล้วลองเดินๆไปข้างหน้าดูค่ะ"
คุรุมิขยิบตายกโป้งไว้ใจ ในขณะที่เจ้าเหมียวโคมุกิก็ร้องหง่าวอยู่ด้านหลัง
คุรุมิรีบหันขวับไปทางต้นเสียงทันที ก็พบกับหนุ่มรุ่นน้องของเธอ
"อ-อ้าว ฮิเดะคุงนี่นา?"
โคลงหัวไปมา ไม่คาดคิดว่าจะเจอกันที่นี่
ทำหน้าหนักใจพร้อมโยกหัวไปมา
"แต่ว่าน่ารักใช่มั้ยล่ะ ฮิเดะคุง?"
" ขอโทษนะครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ? "
ฮารุโตะพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มองสลับกันทั้งคนทั้งสุนัขที่กำลังถ่วงน้ำหนักตัวเองไม่ให้ไปไหน
"มารอนคุงเขาไม่ยอมเดินน่ะค่ะ แหะ"
ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว อ๊ากก
"เอ มันอาจจะ..อยากอยู่ที่นี่?"
ฮารุโตะมองเจ้าหมามารอนที่ว่า เขาย่อตัวลงก่อนที่จะลูบหัวมันไปมาเบาๆแล้วจากนั้นก็ทำหน้าครุ่นคิด เขาเองก็ไม่ได้เข้าใจภาษาหมาเสียด้วย
"หรือมันอาจจะขี้เกียจแน่ๆเลย เลยทำตัวอ้วนขนาดนี้"
คุรุมิพยักหน้าหงึกหงักๆ กับคำพูดของเขา สื่อว่าที่พูดมาน่ะใช่แล้ว!
"แหะๆ คงเพราะอ้วนเกินไปจนขี้เกียจเดินนั่นแหละค่ะ"
แต่จะให้อุ้มคงไม่ไหวหรอกนะ แค่แมวที่หลังก็แทบจะตายแล้ว
ฮารุโตะเห็นว่าทั้งแมวทั้งหมาต่างก็เหมือนจะมีน้ำหนักที่มากอยู่ เขาจึงอาสาออกตัวช่วยอีกคนด้วยรอยยิ้ม
"ผมแข็งแรง เรื่องยกหมาไม่มีปัญหาเลยครับ!"
อุทานออกมาดังลั่นเมื่ออีกฝ่ายเสนอตัวจะช่วย
"มันจะดีหรอคะ?"
มองหน้าเขาสลับกับเจ้าอ้วนชิบะ
“ คุรุมิจังนี่ .. ทำอะไรอยู่หรอครับ? “
พอสังเกตเห็นหมาก็เหมือนจะเดาได้เลยแฮะ
“ อ่า—น้องหมาตอนนี้กำลังดื้ออยู่สินะ “
" มารอนคุงกำลังประท้วงโดยการนั่งอ้วนก้นติดพื้นอยู่น่ะค่ะ "
ว่าแล้วก็ย่อตัวลงไปนั่งข้างๆชิบะอ้วนซะเลย โดยยังสะพายเป้ใส่แมวอยู่ด้านหลัง
เลยหลุดขำเล็กน้อยก่อนเขาลงไปลูบหัวแล้วเกาคางสุนัขที่ยังคงดื้อด้านอยู่
“ มารอนคุงอย่าดื้อสิครับ คุรุมิจังเขาหนักใจนะ ^^ “
ถ้าทำแบบนี้น้องหมาจะอารมณ์ดีขึ้นแล้วยอมไปไหมนะ
อะไรที่เหมือนกัน?
อ้วน หรือว่า—ดื้อ
" มารอนจังน่ะ นอกจากจะอ้วนแล้ว แถมยังขี้เกียจตัวเป็นขนอีกต่างหาก "
ว่าแล้วก็ปรายมองเจ้าหมาชิบะเพศผู้ที่กำลังดี๊ด๊าๆกับหนุ่มรุ่นพี่ประหนึ่งเจอดารา
ในระหว่างที่กำลังเดินผ่านสวนสาธารณะ เสียงของสุนัขตามมาด้วยเสียงของแมวและเจ้าของของมันก็ดังขึ้น เรียกความสนใจให้เขาหันไปมอง
“…”
เขายืนมองอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้นในระยะไม่ใกล้ไม่ไกล ไม่ได้คิดจะเข้าไปช่วย เพียงแต่พอเห็นสุนัขแล้วมันก็ชวนให้นึกถึงตัวที่อยู่ที่บ้านของเขา
เขาอยากกลับบ้าน…
ส่วนเจ้าแมวสก็อตติช โฟลด์โคมุกิคุงที่เห็นอุทาคาตะก็ร้องเหมียวๆออกมาเหมือนทักทาย
ก่อนสายตาจะกลับไปมองหญิงสาวตรงหน้าที่ยังพาสุนัขของเจ้าหล่อนกลับบ้านไม่ได้เสียที
“…”
เห็นแก่เจ้าเหมียวที่อุตส่าห์ทักทายเขา และเห็นแก่ที่อีกฝ่ายเป็นคนรู้จัก ยอมช่วยสักหน่อยก็ได้
“คุรุมิฮัง ให้ข่อยช่วยบ่?”
เขาเอ่ยถาม ในขณะที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
ยกมือขึ้นปาดเหงื่อ จู่ๆก็มาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง เป็นใครก็นึกว่าผี
"ดูเหมือนว่ามารอนจังของฉันจะขี้เกียจเดินน่ะสิ"
ว่าแล้วก็ชี้ไปที่ชิบะตัวอ้วน
"แต่ฉันอุ้มกลับไม่ไหว เพราะแค่โคมุกิจังที่หลังก็แทบจะทรุดลงดินแล้ว"
"ถ้าอุทาคาตะว่างล่ะก็ ช่วยฉันได้รึเปล่า?"
ส่งสายตาอ้อนๆ ทำตัวเป็นเด็กน่าสงสาร
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเจ้าสุนัขตรงหน้าเขาก็อาจจะทำแค่บอกอีกฝ่ายว่า‘สู้ๆ’แล้วเดินกลับบ้านก็ได้?
“…ก็ได้”
เขาหรี่ตามองอีกฝ่ายที่ส่งสายตาอ้อนมาหา ก่อนจะหันไปหาชิบะตัวอ้วน ย่อตัวลงเตรียมอุ้มมันขึ้นมา
หากเทียบกับน้ำหนักของเธอแล้วล่ะก็ มารอนจังคงอยู่ที่ราวๆสามสิบกิโลได้
"ใจดีจังเลย ไว้จะงดลากเข้าชมรมหนึ่งสัปดาห์นะ☺️"
แกล้งประจบสอพลอ เพราะรู้ว่าคนได้ประโยชน์ก็คือตัวเอง
เด็กสาวหงอนชะโงกหัวออกมาจากพุ่มไม้ใกล้ๆ เพราะเสียงที่คุ้นหู
"อ๊ะ! คุริมิจังนี่นา!"
ออกมาจากพุ่มไม้เข้ามาดูใกล้ๆ ก่อนจะย่อตัวชันเข่าดูน้องหมา
"อะไรเนี่ย น้องหมาของเธอเหรอ? น่ารักจัง!"
"คายาโนะจังนี่เอง!"
คุรุมิถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างโล่งใจเมื่อพบว่าเป็นสาวหงอนคนดีคนเดิม
"นอกจากจะน่ารักแล้ว ยังอ้วนและดื้ออีกต่างหากนะ!"
"อ้วนจริงด้วย! นิ้วยุบไปตั้งเยอะเลย! ว่าแต่ดื้อนี่ คุรุมิจังจะให้มันทำอะไรเหรอ?"
จากใช้นิ้วจิ้มๆ ลองเปลี่ยนมาลูบๆ หลังน้องหมาแทน... หวังว่าจะไม่หันมากัดมือนะ
ว่าแล้วก็ถอนหายใจ หากไม่ได้พาโคมุกิจังแบกใส่หลังมาด้วย ป่านนี้คุรุมิคงอุ้มมารอนกลับบ้านไปแล้ว
ได้ยินแบบนั้นก้ชักมือกลับพร้อมลุกขึ้นยืน
"งั้นเดี๋ยวฉันช่วยอุ้มมารอนจังไปให้เอง!"
มือทุบอกตัวเองอย่างภูมิใจที่ได้ช่วยเพื่อน แถมยังได้อุ้มน้องหมาอ้วนด้วย
แอบหนักใจนิดหน่อย เพราะเจ้ามารอนหนักไปแล้ว30กว่ากิโลนี่สิ..!!
"ถ้าคายาโนะจังอุ้มไหวล่ะก็ รบกวนด้วยนะคะ!"
เด็กสาวที่อยู่ที่นี่ตั้งแต่เช้ากำลัง yapping กับตัวเองอยู่จนสังเกตเสียงของสุนัขดังขึ้น
“เอ๋-???! ได้ยินเสียงสัญญาณเรียกบางอย่างล่ะ!@”
ก่อนจะวิ่งมาแล้วเจอเธอ
“อ้าว! คุรุคุรุนี่!”
เห็นเป็นคนคุ้นตาเบยโบกมือทักทายตัวโยน 👽⁉️
คุรุคุรุ? ตัวเหลืองๆรึเปล่านะ
แต่ไม่ทันไร มารอนคุงก็เลิกต่อต้านแล้ววิ่งพรวดไปหารุริจังด้วยความดีใจ
แบ๊ก แบ๊ก!
มารอนคุงกระโดดดึ๋งๆใส่รุริจัง
โบกมือโหยงๆๆๆ 💚🗣️⁉️
“โอ้ะ-!! เทอก็สนใจเอเลี่ยนเหรอ!“
”งั้นรุริจะแต่งตั้งให้เธอเปนมือขวารุริเอง!“
พอมารอนพุ่งใส่ก็กอดหนับกับพื้นแล้วลูบหัวไปมา โดยพูดเองเออเองเสร็จสรรพ
ตัวเขาเลยจอดจักรยานไว้แล้ววิ่งๆเดินๆไปหา
” คุรุมิจัง~! ยังไม่กลับบ้านหรอกหรอ? “ ยิ้มสดใสพลันมองไปที่เจ้าชิบะ
” . . โอ หน้ามันดูเหมือนปวดอึเลยแฮะ? “
"รุยคุง~" ร้องโอดครวญออกมา
"มารอนจังไม่ยอมเดินอีกแล้ว ถ้ารุยคุงว่างล่ะก็ ช่วยอุ้มมารอนจังไปส่งที่บ้านเหมือนครั้งก่อนได้มั้ยU_U"
คุรุมิยกมือไหว้อย่างเกรงอกเกรงใจ ชีวิตของหมาอ้วนก็ต้องมีบ้างแหละที่ขี้เกียจเดิน
"ส่วนเรื่องอึ๊ล่ะก็"
ชูถุงหิ้วที่ใส่อุนจิของมารอนคุงให้กับคนตรงหน้าดูว่าเรียบร้อยแล้วจ้า ☆
“ ว่างอยู่แล้วครับ~ ผมไม่ยอมให้คุรุมิจังลำบากหรอกนะ ”
พูดจบก็อุ้มมารอนจังไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะพาคุรุมิเดินไปที่รถ
“ ถ้าดื้อใส่คุรุมิจังอีกจะให้กินแต่ผักนะ💢 ”
“ ฮึบ— ขึ้นมานั่งเลยครับคุณเจ้าของหมา อยากไปแบบซิ่งๆหรือช้าๆดีครับ? ^^ ”
ถึงจะไม่ค่อยอยากเดินเข้าไปทักเท่าไหร่ แต่เหมือนจะลำบากอยู่แหะ
“ ถ้าเอาแต่ดึงแบบนั้นเขาจะยิ่งไม่ยอมไปนะครับ ”
“ ดื้อจริงๆเลย… ” แอบพูดบ่นเบาๆ
หน้านิ่วคิ้วขมวดกับคำบ่นของหนุ่มคุ้นหน้า
แต่ก็ยอมผ่อนแรงดึงลงเล็กน้อยตามที่อีกคนบอกมา
“ จะหมายถึงเธอได้ยังไงเธอยังไม่ดื้อสักหน่อย?? ”
ว่าไปพลางก้มตัวไปอุ้มเจ้าหมาชิบะสุดนุ่มฟูขึ้นมา ถึงจะดูทุลักทุเลไปบ้างเพราะเอาแต่ดิ้นก็เถอะ แต่ในที่สุดก็อุ้มขึ้นมาได้เสียที
“ โฮ่งๆ เด็กดี..อยู่นิ่งๆสิครับ “
ถามคนตรงหน้าที่อุ้มเจ้าอ้วนขึ้นมาในอ้อมแขนแข็งแรง
"มันค่อนข้างอ้วนน่ะ"
เลยกลัวว่าอีกคนจะเมื่อย
จากมุมหนึ่งก็มีใครไม่รู้เดินเข้ามาคุยด้วย เด็กหนุ่มผมสีเงินยิ้มมาแต่ไกล
" ยิ่งดึงก็ยิ่งดื้อ ลองคลายสายคล้ายชักจูงดีกว่าดึงแรง ๆ ดูไหมครับ "
" คุณปู่เคยบอกไว้น่ะ "
คุรุมิส่ายหน้าไปมาปฏิเสธ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าหมาต่อต้านไม่ยอมเดิน
"แค่คลาย แบบนี้ใช่มั้ยคะ?"
ว่าแล้วก็คลายแรงดึงลง ปล่อยให้สายจูงหย่อนแล้วรอดูปฏิกิริยาของมารอนเงียบๆ
สายตายังคงมองเจ้าหมาตัวนั้น
ตามปกติแล้วมันก็คงไม่ดึงสายเพื่อต่อต้าน แต่สุนัขทุกตัวนั้นไม่เหมือนกัน บางทีที่ไม่ยอมเดินอาจจะแค่ดื้อหรือมันอาจจะสนใจอย่างอื่นอยู่
" มันเป็นแบบนี้บ่อย ๆ เหรอ "
โคลงหัวไปมาเหมือนกำลังนึกคิดย้อนอดีต
" หลังจากที่เคยอุ้มกลับบ้านไปครั้งนึง เหมือนว่ามันจะเป็นแบบนี้มาตลอดเลยล่ะค่ะ "
คุรุมิจังพึมพำเบาๆ พร้อมปรายตามองเจ้าหมาอ้วนที่นอนแผ่บนพื้นอย่างสบายอารมณ์
" อ่า แบบนั้นมันอาจจะชอบเวลาโดนอุ้มก็ได้นะครับ "
" แบบว่าเสียนิสัยน่ะ "
" ถ้ามันยอมเดินตามสายจูง ก็ให้รางวัลมันหน่อยก็ได้ อาจจะช่วยได้นะครับ "
เขามองหน้าเธอ ยิ้มให้เล็กน้อยและเตรียมตัวจะไปแล้ว เขาแค่มาทักทายเฉย ๆ เท่านั้น
พูดแล้วก็หัวเราะคิกๆ พร้อมเสียงแมวที่ร้องหง่าวๆด้านหลัง
"ทางนั้นเองก็เลี้ยงสุนัขเหมือนกันหรอคะ?"
คุรุมิถามออกไปด้วยความสงสัย
หลังจากสังเกตการณ์ได้อยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจเดินเข้ามาทักทายก่อนเบาๆพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆจากด้านข้างด้วยความอัธยาศัยดี
เห็นน้องหมาน้องแมวก็ยิ้มหวานหน้าบานมาแต่ไกลแล้ว แต่จะเล่นด้วยก็ต้องขออนุญาตเจ้าของก่อนสิน้า..
พูดงึมงำในลำคอ พร้อมหันกลับไปมองคนเข้ามาทัก
—ไม่คุ้นหน้าเลยแฮะ