[ STORY | 16:10 ]
หลังงานวัฒนธรรมจบเพียงวันเดียว เสียงหัวเราะและวามคึกคักเหมือนถูกกลืนหายไปโดยสิ้นเชิง
บรรยากาศยามเย็นหน้าโรงเรียนเงียบสงัดจนผิดปกติ เสียงใบไม้เสียดสีฟังเหมือนกระซิบเตือน
คุรุมิชะหยุดชะงัก เมื่อเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น
รอยยิ้มอันแสนคุ้นเคย— ราวกับหลุดออกมาจากห้วงความทรงจำ ปรากฏบนใบหน้าที่เธอไม่มีวันลืม
เป็นไปไม่ได้หรอก
ต้องฝันไปแน่ๆ..
.
หลังงานวัฒนธรรมจบเพียงวันเดียว เสียงหัวเราะและวามคึกคักเหมือนถูกกลืนหายไปโดยสิ้นเชิง
บรรยากาศยามเย็นหน้าโรงเรียนเงียบสงัดจนผิดปกติ เสียงใบไม้เสียดสีฟังเหมือนกระซิบเตือน
คุรุมิชะหยุดชะงัก เมื่อเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น
รอยยิ้มอันแสนคุ้นเคย— ราวกับหลุดออกมาจากห้วงความทรงจำ ปรากฏบนใบหน้าที่เธอไม่มีวันลืม
เป็นไปไม่ได้หรอก
ต้องฝันไปแน่ๆ..
.
Comments
หัวใจเธอเต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกจากอก ลมหายใจขาดห้วง ดวงตาของเขาที่จ้องมองมาเย็นเยียบจนรู้สึกเหมือนร่างกายถูกแช่แข็งไปชั่วขณะ
ประตูทางออกเป็นเหมือนเส้นแบ่งระหว่างเรา
, การปรากฏตัวของเขาเพียงพอที่จะตรึงเธอไว้ เข้ากับความกลัวที่ค่อยๆ แผ่ซ่านทั่วร่างกายที่เย็นเฉียบ
+
เสียงของเขาดังขึ้น —ราบเรียบ แต่กดดันเหมือนพันธนาการ
เธอสะดุ้ง รีบหันหลังแล้วเดินกลับเข้าไปในโรงเรียนด้วยความรีบร้อน
, มือกำโทรศัพท์แน่นราวกับมันเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยได้ในตอนนี้
ลมเย็นพัดตัดผ่านเส้นผม ไม่กล้าแม้แต่จะมองกลับไป เสียงฝีเท้าเล็กๆ สะท้อนในความเงียบที่ชวนอึดอัด
กระนั้น ก็ไม่อาจกลบความรู้สึกถึงสายตาที่มองตามเธอจากประตูได้
+
และสายตานั่น— ยังคงตามหลอกหลอนเธออยู่อย่างนั้น
พยายามฝืนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มือที่สั่นจนไร้เรี่ยวแรงกดหาหมายเลขใครสักคนในรายชื่อ
คุรุมิพยายามเรียกสติ แต่หัวสมองกลับว่างเปล่าจนจำอะไรไม่ได้
ทำได้เพียงหลบอยู่หลังตึก ภาวนาขอให้ใครซักคนผ่านมาเจอ ก่อนที่จะถูกมันเอาตัวไป
.
.
( ปล. ถึงจะเป็นสตร.แต่ก็สามารถเข้ามาบวกได้นะคะ! )
“คันซากิซัง” เขาที่เดินผ่านมาจำด้านหลังของรุ่นน้องได้จึงเอ่ยทัก แต่เมื่อเห็นว่าเธอยังยืนนิ่ง จึงขยับไปกระซิบข้างหูด้วยเสียงเย็น ๆ ว่า
“มารอนนนจัง~”
เสียงเย็นเยียบที่กระซิบข้างหู หากเป็นเวลาปกติ คุรุมิคงร้องวี๊ดว๊ายด้วยความตกใจ
, แต่ตอนนี้ร่างกายกลับแข็งทื่อ ราวกับถูกตรึงไว้
เธอค่อยๆ หันกลับไปด้วยใบหน้าซีดเผือดราวกับเห็นผี
, เมื่อพบว่าอีกฝ่ายคือคนรู้จัก ใบหน้าที่เคยซีดเผือด แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มทันไว
"คุณอาอิระ? ที่แท้ก็เป็นคุณนี่เอง"
ไม่ใช่ว่าโดนโกรธอีกแล้วนะ...
ก กำลังยิ้มอยู่!
เร็นรู้สึกว่าขนคอของตัวเองลุก เขายกมือขึ้นลูบมัน ก่อนจะพยักหน้าน้อย ๆ
“ผ ผมเอง ... เห็นยืนนิ่ง เจอผีเหรอครับ”
เขาพูดไปแล้วก็รีบหัวเราะแห้ง ๆ แก้เขิน “ฮ่า ๆ ว่าไปนั่น จะมีได้ไง”
"คุรุมิจัง? ยังไม่กลับบ้านหรอครับ?"
เรนเอ่ยทักคุรุมิเขาเพิ่งออกมาจากห้องสมุดเพื่อยืมหนังสืออ้างอิง แต่กลับเจออีกคนหลบอยู่จึงอดไม่ได้ที่จะทักออกไป
แต่คล้ายว่าอีกคนจะไม่ได้ยินจึงเดินเข้าไปใกล้กว่าเดิม
เมื่อเดินเข้าไปใกล้เขาจึงเพิ่งรู้ว่ามันค่อนข้างดูผิดปกติของอีกฝ่ายจึงเว้นระยะให้พอมีระยะนิดหน่อยก่อนเอ่ยเรียกอีกฝ่ายอีกครั้ง
"คุรุมิจัง อยู่ไหมครับ?"
คุรุมิยืนนิ่งราวกับถูกตรึงไว้กับที่ ดวงตาที่เคยสดใสกลับหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่ออีกฝ่ายเข้ามาใกล้ เสียงพึมพำแผ่วเบาหลุดออกจากเธอวนซ้ำไปมา 'เป็นไปไม่ได้... เป็นไปไม่ได้' ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับกำลังพยายามโน้มน้าวตนเอง
+
, ดวงตาสั่นระริกหันไปมองเพื่อนร่วมชั้น ใบหน้าซีดขาวราวกระดาษพยายามกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ฟังดูฝืน
"อ้าว เรนคุงเองหรอกหรอ บังเอิญจังเลยนะคะ ฮ่าๆ-"
คุรุมิกล่าวทักทาย น้ำเสียงสั่นไหวอย่างปิดไม่มิด ขณะที่พยายามดึงตัวเองกลับมาสู่ความปกติ
—หรืออย่างน้อยก็ทำให้ดูเหมือนเธอยังปกติอยู่ล่ะนะ
ระหว่างที่เดินผ่านมาแถวนี้ หางตาก็ไปสะดุดกับคนที่ไม่รู้จัก
ถึงอย่างนั้นก็ตาม...
"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ"
ดูจากท่าทางแล้วเหมือนอีกฝ่ายเจอผียังไงยังงั้น อาจะเป็นไปได้เพราะสถานที่แห่งนี้อำนวยต่อสิ่งเหนือธรรมชาติไม่พึงประสงค์อยู่แล้ว
"หรือว่าฉันมารบกวนอะไรหรือเปล่า.."
คุรุมิแทบหยุดหายใจเมื่อมีเสียงเรียกของใครบางคนดังขึ้น
ลับตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะ
"อ๊ะ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะคะ พอดีฉันน่าจะนอนน้อยแล้วเบลอๆน่ะค่ะ"
ส่งรอยยิ้มหวานออกมา แกล้งทำเหมือนว่าไม่เป็นอะไร
นัยน์ตาส้มสว่างมองเธอที่ตัวเล็กกว่านิดหน่อย
มุมอับๆ ของซอกตึกที่เหมาะกับการหลบตาผู้คน
“ถ้ารู้ตัวว่าอาการไม่ดีก็ไม่ควรอยู่ตรงนี้นะ“
แม้คำพูดจะดูตรงๆ แต่มันก็คือความเป็นห่วง
”ให้ไปส่งที่ห้องเรียนหรือห้องพยาบาลดีกว่ามั้ยคะ“ จะว่าไปแล้วเหมือนคุ้นๆหน้าว่าอยู่ห้องข้างๆ เพราะอีกคนก็ดังไม่เบา
ช่วงเย็นกินกำลังจะกลับหอพัก ในขณะที่เขาเดินอยู่ก็สังเกตเห็นหญิงสาวที่ดูคุ้นเคยบริเวณตึกเรียน
หัวหน้าห้อง..?
ท่าทางเร่งรีบกดโทรศัพท์ สีหน้าเธอเหมือนกำลังขอความช่วยเหลืออย่างไรอย่างนั้น
"คันซากิซัง เป็นอะไรรึเปล่าครับ?"
แม้จะดูขัดจังหวะ แต่กินอดไม่ได้ที่จะเข้าไปทักอีกฝ่าย สีหน้าเขาเรียบนิ่งไร้อารมณ์ แต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเป็นห่วง
ดวงตาของคุรุมิตื่นตระหนกเมื่อคนตรงหน้าเข้ามาทัก ก่อนที่เธอจะปั้นสีหน้าให้เป็นปกติตามเดิม
"เหมือนว่าฉันจะหลงทางแหละค่ะ"
หาข้อแก้ตัวง่ายๆ ตอบออกไปโดยไม่ทันคิด
,แต่ยิ่งพูดแก้ตัวเท่าไหร่ ก็ยิ่งฟังดูแปลกชอบกล
"?"
ได้ยินอีกฝ่ายบอกแบบนั้นก็แปลกใจ
"...ให้ไปเป็นเพื่อนไหม?"
กินเลือกที่จะไม่ถามว่าไปที่ไหน
ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีสีหน้าปกติแล้ว แต่ก่อนหน้านี้เธอมีท่าทีคล้ายหนีอะไรบางอย่าง
"ถ้าคันซากิซังมีอะไรให้ช่วยก็บอกได้ตลอด"