#ESRA_CelestialPetals
เกสรดอกไม้ล่องลอยในอากาศ เบสเตียห์เอื้อมมือคว้าแต่สายลมพัดให้หลุดลอยไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอสูดลมหายใจ ตั้งสมาธิ แล้วหงายฝ่ามือปล่อยให้เกสรลอยมาตามลม
ครั้งนี้..มันตกลงกลางฝ่ามือ
เบสเตียห์ค่อยๆ กำมือเข้าหากันเล็กน้อย ในที่สุดก็ปรากฎแก้วใสเรืองรองห่อหุ้มดอกไม้จันทรา รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นบนริมฝีปาก
'สำเร็จแล้ว'
(วิ่งมาลงสกินวาเลนไทน์ค่ะ+ได้นะคะ😆)
เกสรดอกไม้ล่องลอยในอากาศ เบสเตียห์เอื้อมมือคว้าแต่สายลมพัดให้หลุดลอยไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอสูดลมหายใจ ตั้งสมาธิ แล้วหงายฝ่ามือปล่อยให้เกสรลอยมาตามลม
ครั้งนี้..มันตกลงกลางฝ่ามือ
เบสเตียห์ค่อยๆ กำมือเข้าหากันเล็กน้อย ในที่สุดก็ปรากฎแก้วใสเรืองรองห่อหุ้มดอกไม้จันทรา รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นบนริมฝีปาก
'สำเร็จแล้ว'
(วิ่งมาลงสกินวาเลนไทน์ค่ะ+ได้นะคะ😆)
Comments
ค่ำคืนนี้บุตรสาวเดสเชสอย่างมิราเบลล์กลับแต่งตัวสบายกางเกงขาวเสื้อคลุมสีรวมพาสเทลเข้ากับเทสกาล
หญิงสาวเพียงแค่เดินออกมากินลมชมบรรยากาศเพียงเท่านั้น ไม่ได้คาดหวังจะมาพบใครหรือร่วมกิจกรรมใดๆในวันนี้
แต่มีคนหนึ่งช่างโดดเด่นในสายตาของเธอหรือเป็นเพราะข้างในใจนั้นนึกถึงอยู่แล้วก็อาจจะเป็นไปได้
เว้นระยะห่างและยืนมองสังเกตอยู่ไม่ไกลนัก
+
เห็นความสำเร็จของคนที่อยู่ห่างออกไปก็อดไม่ได้ที่จะดีใจด้วย ยิ้มบางตามมือพลางเผลอปรบมือแสดงความยินดี
พอนึกได้นั้นก็เก็บสีหน้าท่าทาง อีกฝ่ายคงรู้แล้วว่าเธออยู่ตรงนี้ จะโดนจับได้ว่าแอบมองรึเปล่านะ
รีบหาทางออกซ้ายขวาเตรียมตัวหนีอีกครั้งและอีกครา
ท่านหญิงมิราเบลล์!?
เจ้าหญิงไม่รีรอ สองเท้าก้าวไปยังทิศที่อีกคนยืนอยู่อย่างรวดเร็วแต่ก็ยังคงเดินอย่างสง่างามและไม่ทำให้ท่าทางหลุดลอยไปมากนัก รอยยิ้มที่เริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ บนใบหน้าแสดงถึงความดีใจที่ไม่สามารถซ่อนมันไว้ได้
"ท่านมิราเบลล์ ไม่นึกเลยว่าท่านจะมางานคืนนี้ด้วย"+
ลุคนี้ของรุ่นพี่ก็น่ารักดูดีไปอีกแบบนะ
"เราดีใจมากที่ท่านมา" ในที่สุดก็เอ่ยขึ้นเสียงอ่อนหวาน
"ว่าแต่ท่านมายืนดูเราจับเกสรจันทราอยู่นานแล้วเหรอ?"
แล้วก็สำรวจอีกคนต่อไวๆ แต่ก็เห็นว่ามามือเปล่า
"..แล้วของท่านล่ะ ได้เกสรจันทราบ้างหรือยัง?"
เจเนวีฟที่สังเกตเห็นรุ่นพี่คว้าดอกไม้มาสักพักก็ยิ้มกว้าง
“ยินดีด้วยเพคะองค์หญิง” เธอเอ่ยก่อนจะเดินเข้าไปหา โค้งทักทายอย่างสุภาพ มองดอกไม้จันทราบนฝ่ามือของอีกฝ่าย
“ถือเป็นสัญญาณแห่งความโชคดีรึเปล่านะคะเพคะ ท่านเชื่อในความหมายของดอกไม้นี้รึเปล่า?” เธอเอ่ยพลางยิ้มบางๆ
เบสเตียห์มองดอกไม้จันทราในมือครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับเจเนวีฟที่เดินเข้ามาทักทายเธออย่างสุภาพ
“ขอบคุณท่านมาก”
ก้มศีรษะลงเล็กน้อยพร้อมกับส่งยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้า เธอนิ่งไปเล็กน้อยเพื่อไตร่ตรองคำถาม
“หากให้ตอบตามความจริง เราไม่ได้เชื่อเรื่องความหมายของดอกไม้มากนัก.. แต่หากดอกไม้นี้เป็นสัญญาณของสิ่งดีๆ ก็คงเป็นเรื่องที่น่ายินดี”+
องค์หญิงคลี่ยิ้มพลางลอบสำรวจใบหน้าของอีกฝ่ายไปด้วย พยายามจะนึกว่าเคยเจอกันมาก่อนหรือไม่
“เราไม่คุ้นหน้าท่าน..เป็นนักเรียนใหม่หรือเปล่า?” เธอถามกลับเพราะไม่คุ้นหน้าเลย ก่อนจะเป็นฝ่ายแนะนำตัวขึ้นมาก่อน
“เราเบสเตียห์ ดราเวียล วาเลสทรา เจ้าหญิงแห่งเร็กซ์วาเลสเตีย ยินดีที่ได้รู้จัก”
“หม่อมฉันเคยได้ยินพระนามของท่านมาบ้าง ขออภัยที่ไม่ได้แนะนำตัวเพคะ”
“บุตรีมาร์ควิสโอดูลาน เจเนวีฟ โอดูลาน จากเกห์มฟลอทเพคะ เพิ่งเข้ามาปีแรกดังที่ท่านว่า” เอ่ยทั้งแนบมือไว้ที่อก โค้งให้อีกฝ่ายอย่างสุภาพ
“เป็นครั้งแรกที่หม่อมฉันได้เห็นดอกไม้จันทรา คงเป็นสัญญาณที่ดีตามที่ท่านว่า”
+
เธอเงยหน้ามองกลีบดอกไม้และละอองเกสรที่ล่องลอยกลางอากาศ
“ได้ยินว่าเกสรของมันจับไว้ได้ยาก แต่หากไม่ลดละความพยายามก็สามารถครอบครองไว้ได้ อีกนัยหนึ่งคงเป็นรางวัลแด่ผู้มุ่งมั่นด้วยล่ะมั้งคะ”
“..แต่บางคนก็คว้ามันได้ในครั้งเดียว ความสำเร็จคงต้องมีจังหวะและชะตาที่เป็นใจด้วยสินะ”
เบสเตียห์เอ่ยยิ้มๆ น้องสาวของเธอก็เพิ่งจะเข้าเรียนปีหนึ่งที่นี่เหมือนกัน
“บางทีการคว้ามันได้ในครั้งเดียว อาจไม่ได้หมายความว่าผู้นั้นเก่งกว่าคนอื่น”
เงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาสีอำพันเหม่อมองตามละอองเกสรที่ปลิวไปตามสายลมอ่อน ราวกับใช้เวลาครุ่นคิดถึงถ้อยคำของเจเนวีฟอย่างถี่ถ้วน+
"รุ่นพี่เบสเตียห์"
เสียงใสเอ่ยทักทายพร้อมวิ่งเข้าหาอีกฝ่ายจนไม่สนใจเลยว่าชุดกระโปรงมัมอาจทำให้-
ตุบ!
"เหวอ!!"นางหกล้มหน้าชุ่มลงกับเหล่ากองดอกไม้เข้าอย่างจัง
เบสเตียห์เบิกตากว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นลาจูริน่าวิ่งเข้ามาหา แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไร ร่างเล็กนั้นก็ล้มลงกับกองดอกไม้ต่อหน้าต่อตา
"ลาจูริน่า!"
หญิงสาวร้องเรียกอีกคนด้วยความตกใจ เธอรีบก้าวเข้าไปช่วยรุ่นน้องทันที ก่อนย่อตัวนั่งลงข้างๆ เสียงที่ปกติแล้วมักจะราบเรียบ แต่ตอนนี้กลับดูร้อนรนสุดๆ
"ป..เป็นอะไรรึเปล่า?" +
"น-น้องไม่เป็นไรค่ะ"
ปากบอกแบบนั้นทว่าภายในใจของเธอ อ๊ากกกน่าอายน่าอายที่สุดในสามโลกจนอยากแทรกแผ่นดินหนี
"ฮึบ!" นางลุกตามแรงของรุ่นพี่สาวที่ประคองตัวเธอให้ยืนขึ้นมา
"ขอบคุณนะคะรุ่นพี่"
ปากพูดนิ้วมือพลางปัดกระโปรงไปพร้อมกันกับอีกฝ่ายที่ช่วยปัดเศษไม้
"ไม่เป็นไรค่ะ แต่คราวหลังต้องระวังมากกว่านี้นะ"
ถึงจะบอกแบบนั้น แต่สายตากลับดูเอ็นดูมากกว่าตำหนิ อย่างน้อยรุ่นน้องก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก..นอกจากความโก๊ะของเจ้าตัวเองที่อาจจะมากกว่าปกติไปสักหน่อย
"นี่ท่านมาจับเกสรดอกไม้เหมือนกันเหรอ"
น้ำเสียงหงอยๆเหมือนลูกแมวน้อย น่าเอ็นดูและยิ่งเอาจะงอยยาวรู่ตกลงไว้ด้านหลังก็ดูเหมือนลูกแมวจิ๋วนึง
"ใช่ค่ะรุ่นพี่ น้องว่าจะจับเกสร"
นางไล่จับมาสักระยะแล้วแต่น่าเสียดายที่มันคว้าไม่ได้ราวกับถูกสายลมหยอกล้อพัดพาเกสรไกลจากมือเธอ
"จับจนเหนื่อยเลยค่ะ"