#KMI_เปิดโรล แยกรูท
สวนสาธารณะ | 13.00
เซ็นกะเลือกจะออกมาสวนสาธาณะตามคำแนะนำของ ’คุณไซโต้’
[ “เป็นวันรุ่นก็ต้องออกข้างนอกบ่อยๆหน่อยสิ! ” ] เขากล่าวมาพร้อมรอยยิ้ม
เซ็นกะเองก็เข้าใจความเป็นห่วงนั้น แต่ไม่รู้จะไปไหนดีเลยมา นั่งเรียงก้อนหินลวดลายต่างๆบนพื้น
“กระต่าย…” “อันนั้นข้าวแกงกระหรี่”
แต่รูปร่างพวกมันไม่ได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่บอกเลยนะ..
+
สวนสาธารณะ | 13.00
เซ็นกะเลือกจะออกมาสวนสาธาณะตามคำแนะนำของ ’คุณไซโต้’
[ “เป็นวันรุ่นก็ต้องออกข้างนอกบ่อยๆหน่อยสิ! ” ] เขากล่าวมาพร้อมรอยยิ้ม
เซ็นกะเองก็เข้าใจความเป็นห่วงนั้น แต่ไม่รู้จะไปไหนดีเลยมา นั่งเรียงก้อนหินลวดลายต่างๆบนพื้น
“กระต่าย…” “อันนั้นข้าวแกงกระหรี่”
แต่รูปร่างพวกมันไม่ได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่บอกเลยนะ..
+
Comments
ระหว่างเดินเล่นอยู่ที่ไหนซักตรงในสวนสาธารณะ ก็เห็นอีกคนกำลังนั่งทำอะไรซักอย่างซักตรงในที่นั้น ด้วยความสงสัยเลยกะจะเข้าไปทักซักเล็กน้อย แต่ว่านะ ถ้าทักปกติก็ไม่น่าสนใจสิ?
เขาค่อยๆเดินเข้าไปข้างหลังอย่างเบาเสียงและโค้งตัวลงเพื่อพูดที่ข้างหูซ้ายของอีกคนด้วยน้ำเสียงเรียบๆที่ไม่ค่อยใช้
" เธอตรงนี้น่ะ ทำอะไรอยู่หรอครับ "
“อ่ะ…” เซ็นกะเริ่มรู้สึกตัวแล้ว แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยตกใจเท่าไร เธอก้มมองไปที่เท้าของอีกคน จนเห็นเงาของอีกคน
“อ่ะ…!!” แล้วเธอก็สะดุ้งขึ้นมา “คือว่า แบบว่าฉัน”
“ฉันกำลัง…เรียงหิน…ไม่สิ สะสมก้อนหินต่างหาก…ไม่สิ เอ่อ…” เธอดูลังเล ก่อนจะพูดต่อ “หินพวกนี้…ดูเหงา”
“ฉันก็เลย…พาพวกเขามาอยู่ด้วยกันน่ะค่ะ” เซ็นกะก้มมองพวกก้อนหินระหว่างอธิบาย
" ที่พูดแบบเมื่อกี๊ตื่นเต้นหรอครับ? แต่ไม่ต้องเกร็งหรือสุภาพหรอกครับ ผมไม่เคร่งเรื่องนี้หรอกนะ " ระหว่างนั้นเขาก็ค่อยๆย่อตัวลงมานั่งข้างๆหญิงสาว
(+)
‘ไม่โดนดุ…’ เธอคิดในใจ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย ใบหน้าของเธอดูเรียบนิ่งราวกับกำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่ ถึงแม้จะยังไม่แน่ใจในคำตอบที่ดีที่สุด แต่ดูเหมือนเธอจะรู้ว่าควรทำอะไรต่อ
เซ็นกะพยักหน้า “ฉันตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ… ป-ปกติฉันไม่ค่อยมีคนมาคุยด้วยเท่าไหร่” เธอเอ่ยพร้อมทั้งเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย ก่อนจะหลุบตามองก้อนหินรอบ ๆ
+
แต่พอมาเดินเล่นสักพักสายตาก็เหลือบไปเห็นคนคุ้นเคยกำลังนั่งทำอะไรสักอย่างไกลๆ เห็นแบบนั้นเลยอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปทัก
"เอ๋~เซนกะจังนี่นา! มานั่งทำอะไรอยู่คนเดียวหรอ?" เขาโบกมือทักด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“…มินซู?” เซ็นกะพูดขึ้นเบาๆ ก่อนจะโบกมือตอบกลับอย่างเฉื่อยชา แม้ใบหน้าจะไม่มีรอยยิ้ม แต่บรรยากาศรอบตัวเธอดูผ่อนคลาย เพราะอีกฝ่ายคือเพื่อนในชมรมที่คอยช่วยหาไม้เบสบอลอยู่เสมอๆ
+
“ลองเรียงหินให้เป็นรูปร่างนะ…พวกเขาจะได้ไม่เหงา” เซ็นกะพูดพลางยื่นหินก้อนหนึ่งให้ดู “ดูสิ อันนี้เป็นกระต่าย…”
ถึงเขาจะไม่ค่อยเข้าใจงานอดิเรกแบบนี้ หรือมีพรสวรรค์ด้านจินตนาการเท่าไหร่ แต่เขาก็จะพยายามเข้าใจและไม่แบ่งแยก
"แต่เซนกะจังไม่เหงาบ้างหรอมานั่งคนเดียวแบบนี้? เอาเป็นว่าฉันจะนั่งเป็นเพื่อนแล้วกันนะ"
+
"นี่ๆเซนกะจัง เธอคิดว่าฉันเหมือนสัตว์อะไรหรอ? ลองเรียงก้อนหินเป็นรูปสัตว์ตัวนั้นให้ดูหน่อยสิ"
มินซูหันไปหาคนที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าตื่นเต้นอยากรู้ว่าเขาจะดูเหมือนตัวอะไรในสายตาเพื่อนรวมชมรมกันนะ
มือของเธอยื่นไปหยิบเขาอย่างไม่ลังเล
จนกระทั่งได้ยินถึงคำถามจากเพื่อนร่วมชมรม
มือของเธอชะงัก เธอก้มหน้าลง
“เหงา….“ก่อนคว้าหินก้อนนั้นมาอยู่ในกำมือ และถึงได้สังเกตว่าเพื่อนร่วมชมรมคนนี้ได้นั่งใกล้ๆตน
“….”
“ขอบคุณนะ”
+
“เซ็นกะซัง!”
น้ำเสียงใสเรียกออกไปก่อนจะถึงตัวเสียด้วยซ้ำ เธอวิ่งเหยาะเข้ามาหาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีตอนบ่ายนะคะ ทำอะไรอยู่เหรอ?”
แต่แล้วก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
‘เหมือนเสียง… คุณลูกค้า!?’
ถึงจะไม่เหมาะกับสถานการณ์ แต่ด้วยความเคยชินที่ถูกสอนมาว่า “ลูกค้าคือพระเจ้า” เธอหันหลังไปโดยอัตโนมัติ
“….ยินดีต้อนรับเจ้าค่—-!” เธอเอ่ยพลางยืนตรงอย่างรวดเร็วด้วยความเคยชิน
+
“…ตอนนี้ไม่ใช่เวลาทำงานนี่นา”เซ็นกะถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพร้อมท่าทีเก้ๆ กังๆ เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย
“ค-คุณมิอง…”เซ็นกะรีบโค้งตัวทักทาย “…สวัสดีค่ะเอ่อ-อ๊ะ! ไม่สิ สายัณสวัสดิ์ค่ะ“เธอรีบแก้ไขคำพูดพลางยืนขึ้น ยกมือแตะท้ายทอยอย่างกระอักกระอ่วน
“…ฉันกำลังรวบรวมก้อนหินให้เป็นรูปร่างน่ะค่ะ” เธอพูดเสียงเบาพลางหลบสายตา
“พวกเขาจะได้…ไม่เหงา…นะคะ”
เซ็นกะรวบรวมลมหายใจและแน่นอนรวมถึงสติ
”…ส..สนใจมาเล่น“
”ด้วยกันไหมคะ…“
ก. คุย
ข. แกล้งให้ตกใจ
ค. ยืนมอง
มีเสียงดังมาจากข้างบนหัว พร้อมกับเงาที่คล้อยตัวมาบังแสงอาทิตย์
หากเงยหน้าขึ้นมา จะเห็นนัยน์ตาสีชมพูใสแจ๋วของเด็กสาวที่มายืนมองอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ราวกับจู่ ๆ ก็นึกอยากปรากฏตัวมาทั้งอย่างนั้น
เธอยกนิ้วชี้ พุ่งตรงไปทางก้อนหินที่เรียงกันอย่างไม่เป็นระเบียบอยู่บนพื้น
"ขอฉันเล่นด้วยคนสิ!"
“กระต่ายต่างหาก…” เจ้าตัวพูดเสียงหงอย ๆ พร้อมกับก้มหน้าลงเล็กน้อย ดูจากท่าทางแล้วเหมือนจะเสียใจอยู่บ้าง
แต่ทันใดนั้น สีหน้าที่ดูเสียใจก็เปลี่ยนไป
‘เล่นด้วยกันไหม?’
แววตาของเซ็นกะเบิกโพลง ใบหน้าที่เคยก้มอยู่เงยขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงร่าเริงนั้น
“ได—ได้สิ!”
“!ได้โปรดมาเล่นด้วยกันกับ…”เพราะความตื่นเต้นทำให้รูปประโยคกลายเป็นการขอร้องแต่ทว่า
“ฉันที่นะ..“
“—ข ขอโทษที่พอดีว่าเรา ดิฉัน เอ๊ะ หมายถึงฉัน พอดีฉันพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่..”
“ฝากตัวด้วยนะคะ..”เซ็นกะเขยิบออกมาให้อีกคนนั่งข้างๆ
“มานั่งใกล้ฉัน..ไ ได้นะคะ”
เด็กสาวยิ้มทำตาปริบ
เธอกระโดดไปนั่งยองข้าง ๆ อีกฝ่าย ยื่นมือไปจับมือขวาของอีกคนแล้วเขย่า ๆ
"ถ้างั้น เรียกฉันยูริโนะจังนะ! หรือว่ายูจัง? ยูริจัง? แบบไหนเรียกง่ายกว่ากันเหรอ?"✨✨✨
นิ้วโป้งชี้ตัวเอง
"ฉันเป็นเจ้าถิ่นของที่นี่เอง งานอดิเรกก็คือ เก็บเศษของข้างทางจ้า!!"
แบมือสองข้าง
"เพราะงั้น..ถ้าเล่นเสร็จแล้ว ฉันขอหินพวกนั้นจะได้ไหม!"
อืม .. หัวเหลือง ๆ ฟู ๆ ... ใครน้า ..
พอเห็นว่าเจ้าตัวทำอะไรอยู่เลยนึกได้ว่าใคร , จงใจเดินเข้าไปนั่งใกล้ ๆ ไม่ให้ซุ่มให้เสียง อยากรู้เหมือนกันว่าเรียงรูปอะไรอยู่
◠‿◠ ? << ดูไม่ออก
เซ็นกะยังคงตามหาหินรอบๆอย่างขะมักเขม้น ขะมักเขม้น….
เวลาผ่านไปสักครู่ จมูกตัวดีได้กลิ่น…
‘คน??….’ เจ้าตัวจึงเงยหน้าขึ้นและมองรอบๆเห็นเงาของใครสักคน
จึงตัดสินใจหันมองและเงยหน้าขึ้นสูงอีก
“…!!“ถึงแม้ใบหน้าจะไม่ได้แสดงออกอะไรว่าตกใจ
แต่เธอ
ตกใจ…
+
กระพริบอีกครั้ง
และอีกครั้ง
พูดง่ายๆ คือตอนนี้เซ็นกะตกใจจนพูดไม่ออก…แต่ใบหน้าที่ดูเหม่อลอยหรือช็อกนั้นก็เริ่มผ่อนคลายลง เมื่อเธอค่อยๆ นึกออกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร อยู่ที่ไหน และอะไรที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะใช้เวลาสักหน่อยก็ตาม
‘คนใจดีไม่มีอะไรต้องกลัว’ เซ็นกะคิด พลางรู้สึกผ่อนคลายลง
+
“…รุ่นพี่อยากดูไหมคะ” เธอเอ่ยขึ้นเบาๆ
“ดูคล้ายกับสีผมของรุ่นพี่โควสึเกะเลย…ใช่ไหมคะ?”
อีกคนกระพริบตา , เขาก็กระพริบตาม
กระพริบปริบ ๆ , เขาก็ปริบ ๆ
สุดท้ายแล้วแม้จะอ่านสีหน้าอีกคนไม่ค่อยออกเท่าไหร่แต่ที่เงียบไปก็น่าจะแค่ตกใจที่เขามาแบบไม่ให้ซุ่มเสียงล่ะมั้ง
ปกติเด็กนี่ก็ดูจะเชื่องช้าอยู่บ่อย ๆ ไอที่เป็นแบบนี้ก็คงปกติของเขาล่ะมั้ง ? , โควสึเกะคิดอย่างไม่ได้ถือสาอะไร
+
"เหหหห เจ๋งมากเลยนี่ นั่นกระต่ายสินะ?!"
"คุณเรียงก้อนหินเก่งนะ"
ไม่ทันไรก็ถือวิสาสะนั่งยองลงข้างๆซะแล้ว
"ใช่แล้วค่ะ.."
"ตรงนี้คือคุณกระต่าย" เธอชี้ "ตรงนี้คือขา และก็ตรงนั้นคือ หู " ถึงแม้จะไม่มีส่วนที่เหมือน.. แต่เรื่องแปลกๆพวกนี้ปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นหนึ่งในเรอยยิ้มของเซ็นกะอย่างแน่นอน
+
" ข..ขอบคุณ..ค่ะ" เธอพยักหน้าก่อนจะสังเกตเห็นเงาใกล้ๆตัวเองจึงหันขวับไปมอง "อ่ะ-!! "
"..ค คคือว่า อ่าเออ เวลาแบบนี้ควรเอ๊ะ สวัสดีใช่ไหมคะ???"เธอก้มหน้าลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาอีกรอบ
"ส ส สวัสดีค่ะ..."
"ขอบคุณโชคชะตาที่นำพาเรามาเจอกัน"เป็นคำพูดของวรรณกรรมที่เธอชอบอ่าน " ห หมายถึงยินดีที่ได้รู้จัก..ค่ะ"
+
เร็วกว่าความคิด สองขาก้าวไปหาเธอคนนั้นแล้วนั่งยองมองสิ่งที่คุณกำลังต่อเรียงอยู่อย่างนึกสงสัย
“ทำอะไรน่ะ”
เธอถามขึ้นหลังจากที่มั่นใจแล้วว่าเป็นเพื่อนของเธอ
“…จะพาคุณก้อนหินมาอยู่ด้วยกัน”
“ถ้าเราอยู่ด้วยกัน ก็จะไม่เหงา”
“คุณก้อนหินก็จะไม่เหงา ส่วนฉัน…ก็คงมีความสุขด้วยนะ” เจ้าตัวพูดด้วยน้ำเสียงยิ้มแย้ม แต่ยังแฝงความเฉื่อยชา
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เซ็นกะรู้สึกได้ว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้
+
“มัตสึมิ…?” เซ็นกะเอียงคอมองเพื่อนก่อนจะโบกมือเบาๆ
“ดีใจจังที่ได้…เจอมัตสึมิ แน่นอนคุณก้อนหิน…ก็ดีใจที่ได้เจอ” รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “นี่คือกระต่าย” เธอชี้ไปที่ก้อนหินที่เรียงตัวกันคล้ายจะอวด?
“อืมมม.. ถ้าข้าวแกงกระหรี่ก็ต้องมีนี่ด้วยนะ”
หญิงสาวว่าพลางหยิบก้อนกรวดเล็กๆวางบนหินที่ว่าเป็นแกงกระหรี่ให้ดูเหมือนมีเนื้อและผัก(?) ก่อนจะหันไปยิ้มให้คนข้างๆ
“ขอโทษนะแอบฟังนะ ฉันเล่นด้วยได้ไหม?”
‘มีหินเพิ่มอีกก้อน..คราวนี้พวกเขาคงจะมีความสุขมากยิ่งขึ้นแน่ๆ’ เธอคิดอย่างยินดี
“จริงด้วย” เธอพูดเบาๆ พลางหยิบหินอีกก้อนมาวางเสริมเข้าไป
“แกงกะหรี่ต้องมีผักถ้าเลือกกินมากไปความฟุ่มเฟื่อยจะเป็นศัตรู”
“ต้องเป็นเพื่อนกันนะ“
เซ็นกะยิ้มบางๆก่อนหันไปสบตาคนข้างๆ เซ็นกะหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง
+
‘เพื่อนร่วมชมรม คนใจดี กลิ่นแสงแดด’
”…ไม?”
ก็ดูเหมือนสุนัขได้เจอมนุษย์ที่ชอบมาให้ข้าวให้ของกิน
”ดีใจจัง….“
“ได้สิ..มาเล่นด้วยกันนะแกงกะหรี่สมบูรณ์ขึ้นได้เพราะไมเลยละ” เซ็นกะเขยิบตัวคล้ายบอกให้อีกคนมานั่งใกล้ๆ
”…เ-เป็นไงบ้างปิดเทอมไม ไมสบายดีไหม“