อ้อ รูมเมทของเขานี่เอง
"ได้สิ" ดีเอโกกระเถิบให้มีที่พอนั่งด้วยกัน เอามือแปะๆบนพื้นผิวหินอ่อนเป็นสัญญาณเรียก
เขาไม่ได้สนใจเรื่องการไม่สบตากันเท่าไหร่ ปีกหมวกเขากว้าง ถ้าส่วนสูงต่างกันก็ไม่เห็นตากันแล้ว
แก้วน้ำองุ่นถูกยกขึ้นจิบ "คนเยอะเนอะ"
"ได้สิ" ดีเอโกกระเถิบให้มีที่พอนั่งด้วยกัน เอามือแปะๆบนพื้นผิวหินอ่อนเป็นสัญญาณเรียก
เขาไม่ได้สนใจเรื่องการไม่สบตากันเท่าไหร่ ปีกหมวกเขากว้าง ถ้าส่วนสูงต่างกันก็ไม่เห็นตากันแล้ว
แก้วน้ำองุ่นถูกยกขึ้นจิบ "คนเยอะเนอะ"
Comments
“ผมไม่เคยชิน กับงานพวกนี้เสียทีครับ”
คาร์โลพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มแต่เบา โชคดีที่อีกฝ่ายอยู่ใกล้ จึงทำให้พอได้ยินเขาพูดชัดเจนพอสมควร
แต่เขายังเหนื่อยจากวันย้ายเข้าหอมากไปหน่อย เลยทนอยู่ท่ามกลางฝูงชนได้ไม่นาน
“ผมขี้ระแวง…ตอนนี้ผมพยายามมองสำรวจว่าสิ่งใดเป็นอันตรายกับผมหรือไม่ อย่างไรครับ”
เด็กหนุ่มยังกวาดสายตามองรอบ ๆ อีก 1 ครั้ง และพอใช้เวลาอยู่สักพัก เขาก็ค่อยเอามือทั้งสองที่ถูกกุมเอาไว้ออก และกลับมายืนท่าทางที่ยืนแน่นิ่งเป็นไม้กระดานซะอย่างงั้น
“ทะ ทางคุณชอบงานแบบนี้ไหมครับ?”
อ้าว กลับไปลุกยืนซะแล้ว เพราะเย็นก้นเกินไปรึเปล่านะ
"ฮะ! ไม่เลยสักกะนิด" หลุดหัวเราะเสียงดังออกมา เหอะ แค่แต่งตัวมาออกงานก็กินเวลาพอแล้ว จะออกก่อนก็ไม่ได้อีก ง่วงก็ง่วง ให้ไปเดินดูงานตอนกลางวันยังดีกว่า
เจ้าเด็กหนุ่มที่หน้าเครียดมาตลอดทั้งวัน เมื่อเห็นอีกฝ่ายหัวเราะออกมา เขาก็หัวเราะออกมาเบา ๆ เช่นกัน
“ปกติ…ที่อาณาจักรผม ทุกคนจะสวมชุดสีขาวกันทั้งหมด พอผมเห็นปี 1 ทุกคนสวมสีขาว ผมก็อดนึกถึงอาณาจักรตัวเองไม่ได้เลยครับ”
เขาเอื้อนเอ่ยพลางเกาแก้มเล็ก ๆ ใบหน้าของเขามีเปื้อนรอยยิ้มน้อยออกมาเมื่อเขามีโอดาสได้เอ่ยถึงอาณาจักรของตนเอง
เอ๊ะ แต่ถ้าเป็นเมืองหนาวมีหิมะ จะอยากใส่สีเดียวกับทิวทัศน์ไปทำไม แบบนั้นก็หากันไม่เจอพอดีน่ะสิ งั้นน่าจะเมืองร้อน...?
คิดไปเรื่อยเปื่อยระหว่างรอคำตอบ