และเขาไม่อยากขัดจังหวะระหว่างสนทนา เพราะเขาได้ยินสิ่งที่พวกหล่อนคุยกันอย่างกับว่าที่นี่เป็นสาธารณะ
‘ตัวแทน’
‘ด้ายแดง..‘
’เงาขยับได้..‘
นึกอยากจะขบขันเหลือเกิน เขายกยิ้มมุมปากราวกับเด็กสนุกกับจินตนาการเป็นตุเป็นตะ
‘.. แดง จะว่าไปแล้ว ตอนที่อยู่ห้องสมุดตอ---’
เฮย์โจวทวนคำเมื่อกี้ชวนรู้สึกเอะใจ เขาทำหน้าครุ่นคิด
+
‘ตัวแทน’
‘ด้ายแดง..‘
’เงาขยับได้..‘
นึกอยากจะขบขันเหลือเกิน เขายกยิ้มมุมปากราวกับเด็กสนุกกับจินตนาการเป็นตุเป็นตะ
‘.. แดง จะว่าไปแล้ว ตอนที่อยู่ห้องสมุดตอ---’
เฮย์โจวทวนคำเมื่อกี้ชวนรู้สึกเอะใจ เขาทำหน้าครุ่นคิด
+
Comments
”!!!“
เขาสะดุ้งเล็กน้อย หัวใจเต้นระรัวแทบจะร่วงจากตาตุ่ม หันไปมองต้นเสียงที่จำได้ แต่ใกล้จนจับลมหายใจของอีกฝ่าย เขาไม่ได้ทำท่าทีผลักคุณออกอย่างรังเกียจ
“ซาคาอิคุง อย่าทำผมตกใจสิครับ อันตรายนะ“
เขารู้สึกตัวว่าไม่ควรปล่อยอีกฝ่ายขึ้นไป ฉับพลันรีบคว้าแขนเสื้อของอีกฝ่ายไว้ เขาหันไปมองที่ด้านข้าง ซึ่งตรงนั้นเด็กสาวสองคนกำลังคุยกัน แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของหล่อน
+
เฮย์โจวเลิกคิ้วด้วยความงุนงน อย่างนั้น.. ที่ได้ยินเมื่อกี้คือ ‘ อะไร‘
เขาเงยหน้ามองคนสูงกว่าตน ทั้งที่เมื่อกี้เขาเพิ่งพูดเตือนไปแล้ว กลายเป็นเขาถูกเตือนเสียแล้ว ทว่าสายตาของเขาดั่งแก้วใสมองสบดวงตาคู่นั้นอย่างไม่เข้าใจ
’ได้ยินไหมนะ..?‘
“แล้วรู้เหรอครับว่าไปส่งผมที่ไหน?”
เขาถาม เพราะอีกฝ่ายอาสาไปส่ง
ซากิฮิโตะไม่หลบสายตา เพียงมองอีกฝ่ายด้วยดวงตานิ่งสงบคล้ายจะวัดอารมณ์ผ่านแววตา
“…ก็เลยคิดว่าน่าจะไปห้องสมุด”
เหมือนเขากำลังแจ้งผลจากการสังเกตอะไรบางอย่าง มากกว่าการพูดคุยกับเพื่อน
เขาเบนสายตาไปยังบันได ก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ
+
น้ำเสียงของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม แต่ทิ้งช่วงเล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่อ
“กำลังจะไปติวหนังสือที่ห้องสมุดหรือเปล่า?”
เขาดูนิ่งดาย แต่เป็นห่วงอีกฝ่ายที่จะได้ยินอะไรไร้สาระนั่นมากกว่า เขารู้สึกทำอะไรไม่เข้าท่าเขาอีกแล้ว น่าจะปล่อยให้ได้ยินรับผลแย่ๆเข้าใส่ไปซะเหมือนที่เคยทำ
ให้ตาย... ถูกจับจ้องกลับ เขาก็รู้สึกอยากรู้ทำไมถึงต้องสังเกตขนาดนั้น
เขาชอบจริงๆจนอยากจะสนิทด้วยจัง เขาคลี่ยิ้ม
”ช่างสังเกตจัง“
+
“อื้อ ใกล้สอบแล้วนะ”
ขยับสมุดจดกับกล่องดินสอในอ้อมแขนแนบข้างตัว
“กะว่าไปอ่านก่อนหมดคาบพัก แล้วคุณล่ะครับ?“