Profile avatar
esra-resan.bsky.social
เรซาน อัลมุห์ตาซิม Resan Al-Mutasim (ريسان المعتصم) from Al-Zarif Kingdom │ Prince │ 17y │ Y.2 │ 60 kg. │ 170 cm. │ for Role-Play #ESRA_Commu DOC : bit.ly/Resan โค/โรล/จีบ ทักได้เลย มาเล่นด้วยกันได้เสมอ บวกได้ทุกโพสลอย มาเล่นกับหนุ่มเรซานเยอะๆเลยน้า👳‍♂️
187 posts 261 followers 253 following
Regular Contributor
Active Commenter
comment in response to post
เรซานเงยหน้าขึ้นสบตาเบสเตียห์ พลางเอียงศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะยิ้ม “ฟังดูน่าสนใจเสียจนข้าอดคิดไม่ได้ว่าคงต้องไปลองชิมที่อาณาจักรท่านแล้ว” เขาว่าพลางหัวเราะ “หรือบางที พวกเราจะลองทำอาหารที่ห้องครัวของอคาเดมีดี?” เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ท่านว่าอย่างไร? คิดว่าฝีมือของพวกเราจะสู้พ่อครัวของวังได้หรือไม่?”
comment in response to post
“ข้ารักเนื้อเลยแหละ” เรซานดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีที่ได้ยินรายละเอียดของเมนู “สตูว์เข้มข้นกับไวน์แดง ฟังดูน่าสนใจไม่น้อย ข้าว่ามันคงมีกลิ่นหอมชวนให้อบอุ่นดี” เขาว่า พลางโน้มตัวเข้าไปดูภาพบนแท็ปเล็ตให้ชัดขึ้น “ส่วน Rexa Steak… เนื้อย่างบนหินภูเขาไฟ ข้าชอบความกรอบเกรียมด้านนอกแต่ข้างในยังฉ่ำ ๆ แบบนี้นัก” เขาใช้ปลายนิ้วแตะคางเล็กน้อย สีหน้าเหมือนกำลังจินตนาการถึงรสชาติ +
comment in response to post
“เช่นนั้น ข้าจะลองไปทำมาให้ท่านลองดู” เรซานกล่าว ดวงตาสีม่วงเป็นประกายจาง ๆ ยามทอดมองอีกฝ่าย “หรือว่าท่านอยากให้ข้าเซอร์ไพรส์ทีเดียวเลยดี?” น้ำเสียงเจือความขี้เล่นตามฉบับ “ข้าจะเลือกดีไซน์ที่เหมาะกับท่านที่สุด…แต่จะเป็นแบบไหนนั้น ท่านอาจต้องอดใจรอ”
comment in response to post
“เช่นนั้น ข้าคงต้องออกแบบให้มันคู่ควรกับท่านเสียแล้ว” เขายิ้ม “เครื่องประดับที่มีมากกว่าความสวยงาม และสะท้อนเสน่ห์ของผู้สวมใส่… ฟังดูท้าทายไม่น้อยเลยนะ” เขาครุ่นคิดไปตามที่เธออธิบาย นิ้วแตะปลายคางเหมือนกำลังนึกภาพ “สีทอง สีม่วง อัญมณีหลากสี ผ้ากำมะหยี่ที่อ่อนนุ่ม และริบบิ้น” “ข้าชอบแนวคิดนี้นะ มันมีความเป็นอิสระ และหรูหราในคราวเดียวกัน” +
comment in response to post
“ข้าเห็นด้วยกับท่าน ม้าแต่ละตัวล้วนมีบุคลิกเป็นของตัวเอง ข้าคิดว่ามันเหมือนกับสายน้ำ” “บางตัวดุร้ายเหมือนกระแสน้ำเชี่ยว ต้องใช้ความสามารถสูงจึงจะควบคุมมันได้ บางตัวสงบเหมือนทะเลสาบนิ่งสงัด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความลึกลับซ่อนอยู่” เขาเหลือบมองเธอแล้วหัวเราะเบา ๆ “แล้วท่านล่ะ? คิดว่าตัวเองเหมือนม้าแบบไหน?”
comment in response to post
”บุคลิกของม้าที่ได้รับอิทธิพลทั้งจากสายเลือดและสิ่งแวดล้อม…ก็ไม่ต่างจากมนุษย์เท่าไรนัก” “บางตัวเกิดมาเข้มแข็ง บางตัวอ่อนไหว บางตัวดื้อรั้น แต่ก็ใช่ว่าธรรมชาติแต่กำเนิดจะเป็นตัวกำหนดทั้งหมด…ข้าเชื่อว่าทุกตัวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ หากได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสม” เรซานปรับท่าทางขึ้นอานอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะสบตากับเฮทตี้ด้วยรอยยิ้ม +
comment in response to post
“ข้าคงเดาผิดเป็นแน่” เรซานหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ “รำคาญหรือ?” เขาทวนคำ พลางส่ายศีรษะ “ตรงกันข้าม ข้ากลับรู้สึกสนุกกับการฟังท่านเล่าเสียด้วยซ้ำ ท่านพูดถึงเรื่องนี้ด้วยแววตาที่เป็นประกาย ราวกับเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับท่าน” เขายกมือแตะแผงคอของม้าตัวที่ยืมมา ขณะไล่มองเส้นขนเป็นระเบียบของมัน “ข้าคิดว่ามุมมองของท่านน่าสนใจทีเดียว“ +
comment in response to post
(/ล้ม)
comment in response to post
“อาหารไม่เพียงแต่บอกเล่าเรื่องราวของแผ่นดินที่ให้กำเนิดมัน แต่ยังเชื่อมโยงผู้คนต่างถิ่นเข้าหากัน…” รอยยิ้มของเขาคลี่ออกกว้างขึ้น “แล้วอาหารของอาณาจักรท่านมีอะไรที่เป็นจานเด็ดบ้างหรือ? หากข้าไปเยือน ควรเริ่มจากอะไรดี?”
comment in response to post
เรซานหัวเราะ สีหน้าเจือรอยยิ้มขบขัน “ท่านช่างหัวการค้าเสียจริง สมกับเป็นท่าน” “จากที่ตั้งใจจะมาเชื้อเชิญให้ไปลิ้มรสอาหารอัลซารีฟ กลายเป็นว่าถูกเชิญชวนให้เปิดแฟรนไชส์เสียแล้ว” สบตาอีกฝ่าย สีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย “แต่หากพูดถึงโอกาสแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านอาหาร ข้าก็มองว่าเป็นความคิดที่น่าสนใจไม่น้อย“ +
comment in response to post
“แต่ถ้าจะให้ออกแบบให้เข้ากับท่าน ข้าคงต้องรู้จักสไตล์ของท่านให้มากกว่านี้เสียก่อน” เขาชำเลืองมองเครื่องประดับและเสื้อผ้าของเธออย่างพินิจ “ท่านมีแบบที่ชอบเป็นพิเศษหรือไม่?”
comment in response to post
เรซานยิ้มมุมปากเมื่อเห็นท่าทีของเมลิเซ่ “ย่อมได้” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงรื่นหู “หากท่านต้องการอัญมณีสีใด ข้าก็สามารถหามาให้ได้… แต่ถ้าเป็นสีม่วงเฉกเช่นดวงตาของข้า ท่านมั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่เผลอจ้องมันนานเกินไป?” เขาหัวเราะเบา ๆ พลางเอนตัวกลับ ไม่ให้เธอรู้สึกอึดอัดเกินไป มือหนึ่งไพล่หลังขณะเปรยขึ้น +
comment in response to post
“ข้าเติบโตมาในดินแดนที่กาแฟเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม มันเป็นวัฒนธรรม เป็นวิถีชีวิต เป็นศิลปะ” เขานำเธอหมุนตัวอีกครั้ง รอยยิ้มเจือจางประดับบนริมฝีปากก่อนจะเอ่ยถาม “แล้วท่านล่ะ ถ้าไม่ใช่กาแฟหรือชา มีอื่นใดที่ท่านโปรดบ้างหรือไม่?” เขาไม่ได้คาดหวังคำตอบที่หรูหรา แค่อยากรู้ว่าเธอจะมีสิ่งใดที่โปรดอยู่บ้างหรือเปล่า
comment in response to post
เรซานผ่อนลมหายใจปรับจังหวะก้าวให้สมูทขึ้นขณะนำพาคู่เต้นรำเคลื่อนไหวไปตามท่วงทำนอง ดวงตาสีม่วงสบดวงตาของวิลเฮลมิน่า ยามเธอกล่าวถึงความนิยมของเครื่องดื่มในอาณาจักรของตน “ข้าไม่แน่ใจว่าคำว่าเชี่ยวชาญจะใช้กับข้าได้หรือไม่” เขาหัวเราะ มือข้างหนึ่งประคองมือเธอไว้อย่างสุภาพ ส่วนอีกข้างแตะเบาๆ บนแผ่นหลังของเธอเพื่อคุมจังหวะ +
comment in response to post
เขาหันกลับไปสบตาอีกฝ่าย รอยยิ้มประดับมุมปาก “ถ้าท่านช่วย ข้าก็ไม่ปฏิเสธหรอก” สายลมพัดพาเกสรให้ลอยสูงขึ้น ราวกับแกล้งให้ไล่ตาม เรซานมองตามแล้วหัวเราะเบา ๆ “แต่ดูเหมือนมันจะยังไม่อยากให้ข้าได้พรง่าย ๆ สินะ”
comment in response to post
เรซานมองเกสรในมือของอีกฝ่าย ดวงตาสีม่วงสะท้อนประกายระยิบระยับของมัน ก่อนจะหลุบตาลง ยกมือขึ้นเสยเรือนผมที่ยุ่งเล็กน้อยจากการวิ่งไล่จับมาตั้งนาน “ข้าไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นแค่เรื่องเล่าหรือเป็นความจริง” เขาหัวเราะเบาๆ พลางยื่นมือออกไปข้างหน้า ราวกับพยายามไขว่คว้าเกสรที่ยังลอยอยู่ในอากาศ “แต่ในเมื่อมีโอกาสได้ลองแล้ว ข้าก็อยากลองจับมันให้ได้สักครั้ง” +
comment in response to post
รอยยิ้มยังไม่หายไปจากใบหน้า “ถ้าข้าจับได้หรือ?” เขาเอนตัวพิงแขนทั้งสองข้าง มองเกสรสีเรืองรองที่ลอยละล่องอยู่ไกลออกไป “ข้าก็คงต้องเก็บมันไว้อย่างดี แล้วอธิษฐานให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับข้า” เขาหันไปสบตาอีกฝ่ายก่อนจะยิ้ม “หรือไม่ก็แบ่งโชคดีให้ท่านไปครึ่งหนึ่งดีไหม?” เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอนศีรษะไปด้านหลัง มองเกสรที่ลอยไป
comment in response to post
“เช่นนั้น ข้าคงต้องทำที่คาดผมให้ท่านเพิ่มเสียแล้ว” เรซานหัวเราะเบาๆ ดวงตาสีม่วงสะท้อนแสงระยิบระยับ “ถือเป็นของตอบแทนที่ท่านยอมเต้นรำกับข้าเมื่อคราวก่อน รวมถึงกำไลนั่นด้วย” เขาเอนตัวเข้าไปเล็กน้อย ยิ้มมุมปากก่อนกระซิบต่อด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า “แต่ต้องระวังให้ดีนะ องค์หญิงเมลิเซ่…ถ้าเป็นของที่ข้าทำเอง ท่านอาจได้ที่คาดผมที่มีเสน่ห์จนใครๆ ต้องหันมองเลยล่ะ” เอนตัวออกมาพร้อมยิ้มกว้าง
comment in response to post
“เออร์เนสทีนของท่านดูภูมิฐานสมเป็นม้าจากบลูเมอโครน ข้าว่าข้าคงต้องเลือกม้าที่ไม่เสียเปรียบกันมากเกินไป” ไม่นานนัก องค์ชายก็พาม้าของตัวเองลงสนาม ดวงตาสีม่วงทอดมองทิวทัศน์กว้างไกล “ท่านเฮนริเอ็ตต้า ข้ามีเรื่องสงสัย” เขาเอ่ยขึ้นระหว่างเดินเคียงข้างกัน “ในฐานะคนที่เติบโตมากับม้า ท่านเคยรู้สึกหรือไม่ว่าม้าแต่ละตัวมีบุคลิกของมันเอง?”
comment in response to post
เรซานพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปหานูรีน พัฟบอลข้างกายที่ยืนจ้องถุงกาแฟในมือเขาอยู่แล้ว “ฝากเจ้าด้วยนะ นูรีน” เขายื่นถุงกาแฟพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ให้ พัฟบอลสีม่วงอ่อนรับไปอย่างกระตือรือร้น ขนปุกปุยไหวไปมาตามจังหวะที่มันเคลื่อนตัวไปยังที่จัดของ “ดูเหมือนท่านจะเตรียมม้ามาดี ข้าคงต้องไปยืมของทางอคาเดมี่เสียก่อน” เรซานเอ่ยพร้อมปรายตามองอาชาชราข้างกายเฮนริเอ็ตต้า +
comment in response to post
เรซานมองกล่องขนมที่จัดอย่างประณีต ดวงตาสีม่วงฉายแววสนใจ “ท่านเตรียมตัวมาพร้อมถึงเพียงนี้ จะให้ข้าปฏิเสธของอร่อยก็คงเสียมารยาทไปหน่อย” เขากล่าวพลางชูถุงเมล็ดกาแฟในมือขึ้น “แต่กาแฟอัลซารีฟของข้า ก็ต้องเสิร์ฟพร้อมบรรยากาศที่เข้ากันที่สุด” เขาหรี่ตามองไปยังสนามกว้างที่ลมพัดผ่าน “ข้าว่า…เราขี่ม้าสักรอบให้ร่างกายตื่นตัวก่อนดีหรือไม่? จากนั้นค่อยกลับมาลองชิมกาแฟกับขนมของท่าน”
comment in response to post
“กาเซียห์ บูร์ฮาน (Ghasiyah Burhan) สตูว์ไก่ที่ใช้เครื่องเทศหอมๆ อย่างกระวาน อบเชย และมะเขือเทศ เคี่ยวจนเข้าเนื้อ เผ็ดร้อนพอให้รู้สึก แต่ไม่แสบท้อง“ เขาบรรยาย “ข้ายินดีเป็นเจ้าภาพให้พ่อครัวของวังทำให้ท่านชิมเอง“ แม้จะมีความรู้เรื่องอาหารอยู่บ้าง แต่ฝีมือการทำอาหารก็ยังต้องฝึกอีกเยอะ
comment in response to post
“เช่นนั้น ท่านต้องหาโอกาสมาเยือนอัลซารีฟอีกแล้วล่ะ” เขาว่าพลางยกมือลูบคาง ราวกับกำลังจินตนาการถึงเมนูเลิศรสตรงหน้า “รสชาติแบบต้นตำรับแท้ ๆ ย่อมต้องลิ้มลองที่แผ่นดินของมันเอง” เขายิ้ม “ถ้าไม่อยากให้เผ็ดจนแสบท้อง ข้าแนะนำเมนูที่เผ็ดแบบกลมกล่อม ไม่จัดจ้านเกินไป แต่ยังคงเอกลักษณ์ของอัลซารีฟอยู่” +
comment in response to post
(แซบครับ)
comment in response to post
เรซานหัวเราะเบา ๆ พลางใช้นิ้วแตะจี้สร้อยของตน ราวกับกำลังไตร่ตรองคำตอบให้เมลิเซ่ “หืม… หากท่านคิดว่ามันดูพิเศษ ข้าก็อาจจะลองเรียกมันว่าเครื่องรางก็ได้กระมัง” เขายิ้มบาง ก่อนจะไหวไหล่เล็กน้อย “แต่ที่จริงแล้ว ข้าแค่ใส่เพราะออกแบบด้วยตัวเองก็เท่านั้น” เขาพูดกลั้วหัวเราะ ดวงตาเป็นประกาย “ว่าแต่ท่านล่ะ? มีเครื่องประดับชิ้นไหนที่ชอบเป็นพิเศษหรือไม่?”
comment in response to post
(โอโห ให้ของแพงมากครับ 🥹 ไว้มาให้โปรยเสน่ห์ใส่อีกนะ😂)
comment in response to post
เรซานหัวเราะเมื่อได้ยินคำตอบของเมลิเซ่ “เป็นเหตุผลที่สมกับท่านดี” เขาว่า ก่อนจะเบนสายตาตามเธอที่มองมาที่สร้อยคอของตน “อ้อ? นี่หรือ” เขาใช้นิ้วแตะจี้เบา ๆ “ข้าเองก็ไม่ได้เลือกมันเพราะความสวยงามหรอกนะ แต่ถ้าท่านอยากดูใกล้ ๆ ก็ได้” พูดจบเขาก็ก้าวเข้าไปใกล้เมลิเซ่เล็กน้อย โน้มตัวลงเพื่อให้เธอได้พิจารณาเครื่องประดับชัด ๆ ดวงตาสีม่วงคอยสังเกตปฏิกิริยาของเธอ
comment in response to post
จากนั้นเขาก็หมุนตัวจากไป ทิ้งไว้เพียงคำตอบคลุมเครือบางอย่าง (จบฝั่งเรซานแล้วค่า ขอบคุณที่มาโรลด้วยกันนะคะ 🥰🥰)
comment in response to post
“ขอบคุณสำหรับการเต้นรำในค่ำคืนนี้” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน แต่ยังคงแฝงรอยหยอกเย้าเล็กน้อยตามนิสัย “เป็นเกียรติของข้าที่ได้มีโอกาสเต้นกับท่าน…แม้ว่าข้าจะทำให้ท่านสะดุดไปหนึ่งจังหวะก็ตาม” เขายิ้มอย่างขบขัน แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรมากกว่านั้น “หวังว่าเราจะมีโอกาสได้เต้นรำด้วยกันอีก” เจ้าชายก้าวถอยหลัง ปล่อยให้ระยะห่างระหว่างกันเพิ่มขึ้นช้า ๆ “ไว้พบกันใหม่ องค์หญิงเมลิเซ่” +
comment in response to post
“ข้าเองก็มีเรื่องที่ทำให้หนักอกอยู่บ้าง แต่ข้าไม่แน่ใจว่าเรื่องนั้นจะเกี่ยวกับ ‘ความรัก’ หรือไม่” รอยยิ้มที่ไม่อาจคาดเดาความหมายผุดขึ้นบนใบหน้า เรซานทอดมองเมลิเซ่อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะโค้งตัวเล็กน้อย ดวงตาสีม่วงเข้มยังฉายแววซุกซนระคนจริงใจ +
comment in response to post
เรซานหัวเราะราวเพลิดเพลินกับปฏิกิริยาของเมลิเซ่ ดวงตาสีม่วงฉายแววเจ้าเล่ห์ขณะก้าวนำเธอไปตามจังหวะสุดท้ายของบทเพลง “โอ้? ไม่มีผู้ใดกล้าทำให้ท่านรู้สึกถึงความรักเลยหรือ…” เขาเอ่ยคล้ายทอดถอนใจ มือที่ประคองเธอไว้แน่นขึ้นนิด “หากเป็นเช่นนั้น ข้าคงต้องขอแสดงความเสียใจแทนเหล่าผู้ที่ไม่กล้าก้าวเข้ามา” รอยยิ้มบางยังคงแต่งแต้มอยู่บนริมฝีปาก เขาหมุนตัวเธอเป็นท่าปิดท้ายของการเต้นรำ +
comment in response to post
“หากมัวแต่ลังเล ไม่กล้าตัดสินใจสักเรื่อง… ต่อให้หอคอยยังตั้งอยู่ มันก็ไม่มีทางพัฒนา ไม่มีทางไปข้างหน้า” “แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ปกครองก็ยังเป็นมนุษย์ จะไม่มีความกลัวเลยก็คงเป็นไปไม่ได้กระมัง?” เขาโยนคำถามไปแบบนั้น
comment in response to post
“นั่นเป็นคำตอบที่เฉียบคมนะ” เขาเอ่ยชม “แล้วสิ่งที่ผู้ปกครองไม่ควรมีงั้นหรือ?” เขาทวนคำถาม ขยับมือไล้เบา ๆ ไปบนขอบโต๊ะ ใช้เวลาคิดครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มมุมปาก “ข้าว่า…ผู้ปกครองไม่ควรมีความหวาดกลัว” เขาตอบ น้ำเสียงยังคงเจือความขี้เล่น แต่แววตากลับดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย “หากผู้ปกครองหวาดกลัวสิ่งที่ควรเผชิญหน้า หวาดกลัวที่จะตัดสินใจ ก็คงไม่ต่างจากการเล่นเกมโดยที่ไม่กล้าดึงไม้เลยกระมัง” +
comment in response to post
“ว่าแต่ ท่านสนใจจะลองของเผ็ด ๆ จากอัลซารีฟด้วยไหม? “ ”ข้ามั่นใจว่ารสชาติจัดจ้านกว่าจานที่ท่านเพิ่งชิมไปแน่นอน”
comment in response to post
เขายกนิ้วขึ้นราวกับกำลังไล่เรียงเมนูในหัว “หรือถ้าชอบอะไรที่ทานง่ายขึ้นมาหน่อย ก็ต้อง ฟาลาฟาน (Falafel) เมนูของทอดที่ทำจากถั่วบดและเครื่องเทศ กรอบนอกนุ่มใน ทานคู่กับซอสโยเกิร์ตหรือฮัมมูซ” “แต่ถ้าท่านชอบของหวานล่ะก็ ต้องลอง บัคลาวานูร์ (Baklava) แป้งบาง ๆ ซ้อนเป็นชั้น ๆ สอดไส้ถั่วและราดด้วยน้ำผึ้ง หวานหอมกำลังดี” เขาหยุดคิด +
comment in response to post
(ในวงเล็บคืออาหารที่อ้างอิงจากโลกจริงมาเปลี่ยนชื่อให้เข้ากับอาณาจักร) เรซานหัวเราะเบา ๆ กับท่าทางของเบสเตียห์ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใส “ถ้าท่านมาเยือนอัลซารีฟล่ะก็ มีหลายเมนูเลยที่ไม่ควรพลาด!” เขาพูดอย่างภาคภูมิใจ “แต่ถ้าจะให้เลือกจานเด็ดจริง ๆ คงต้องเป็น มันดีซาเร็ม (Mandi) ข้าวอบเครื่องเทศกับเนื้อแกะหรือไก่ อบในหม้อดินจนหอมกรุ่น เนื้อจะนุ่มจนแทบละลายในปาก”
comment in response to post
“เขาว่ากันว่าถ้าจับมันได้ แล้วอธิษฐานขณะถือมันอยู่ พรนั้นจะเป็นจริง… ท่านว่าเป็นเรื่องจริงไหม?” น้ำเสียงของเขาแฝงแววขบขันปนความสนใจ หรือบางที พรที่ว่าอาจเป็นแค่การขอให้จับมันได้สำเร็จกัน—เขาคิด